11/24/2557

เมื่อ ปกรณ์ พึ่งเนตร มองต่างมุมไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้

แบมะ ฟาตอนี

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ตามที่สำนักข่าวอิศรา ได้ลงบทความ ไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้เขียนโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร ในหมวดหมู่คุยกับบรรณาธิการ


          เป็นธรรมดาของการเขียนข่าวหรือการเขียนบทความต่างๆ เป็นที่รู้กันดีของแวดวงนักสื่อสารมวลชนว่า การนำเสนอก่อน คือการชิงความได้เปรียบ และเป็นต่อในการสร้างการรับรู้ ส่วนผู้ที่ออกมาโต้ตอบในภายหลังถือว่าเป็นการแก้ตัว แก้ข่าว แต่ผู้เขียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโจทย์ของคุณปกรณ์ พึ่งเนตร ที่ได้นำเสนอข้อมูลหลงทิศทาง และเข้าใจอะไรบางอย่างผิดเพี้ยนไป ในนามส่วนตัวกราบขออภัยนักเขียนอาวุโสไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

          คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของ ไอโอหรือ ปฏิบัติการข่าวสาร นำมาใช้เพื่อชิงความได้เปรียบในสงคราม พร้อมทั้งได้กล่าวพัฒนาการการนำสื่อ Social Media เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลความดี และความสำเร็จของฝ่ายตน และตอกย้ำความเลวร้าย หรือความไม่ถูกต้องของฝ่ายตรงข้าม

          ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่มีการปฏิบัติการข่าวสารเชิงบวก หรือนำเสนอเรื่องราวที่ดีๆ ที่มีอยู่มากมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้ เพื่อสื่อไปยังบุคคลนอกพื้นที่ให้เกิดการรับรู้ว่าไม่ได้มีเฉพาะเหตุการณ์เลวร้ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งในจุดนี้ในนามส่วนตัวของผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวสารของสื่อกระแสหลัก ไม่ค่อยจะนำเสนอกัน ดั่งเช่นคำกล่าวของบุคคลทั่วไปพูดถึงสื่อมวลชนว่า ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีจ่ายตังค์ในส่วนของการประณาม หรือเปิดเผยความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการก็เช่นเดียวกัน อย่าไปหวังให้ยาก จากการได้สัมผัสการทำงานของสื่อมวลชนที่ผ่านๆ มา

          ผมแปลกใจ คุณปกรณ์ พึ่งเนตร เป็นอย่างมากที่ตั้งหน้าตั้งตาเขียนเปิดประเด็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่มีสักนิดเดียวที่เนื้อหาได้กล่าวถึง เพจโจรใต้ฟาตอนีที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในการสร้างความแตกแยกทางความคิด มีการยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อสู้ มีการนัดหมายในการชุมนุมประท้วงกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และตั้งใจละเมิดและกระทำผิดกฎหมาย ที่ผู้เขียนยอมรับไม่ได้คือ เพจโจรใต้ฟาตอนี เหล่านั้น มีความพยายามสร้างความแตกแยก แบ่งเขา-แบ่งเราไทยพุทธ-ไทยมุสลิม หรือคุณปกรณ์ พึ่งเนตร เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หูตามืดบอดสนิท แกล้งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่เห็นกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่กลับตั้งหน้าตั้งตากล่าวหาโจมตีเพจผีและมีการตั้งข้อสงสัยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพจผี เหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการปฏิบัติการใต้ดิน ซึ่ง 2-3 ปี มานี้เริ่มแรงและ ล้ำเส้น มากขึ้นเรื่อยๆ

          เรามาดูเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่สนับสนุนขบวนการกันครับ ในเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งบอกว่าเพจผีมีเยอะมากผู้เขียนเลยเอาสื่อโจรที่เขียนโจมตีประเทศไทย โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ให้ท่านผู้อ่านลองเข้าดูเนื้อหาสาระในการนำเสนอของสื่อเหล่านี้ดูกัน เพจโจรโจรใต้ฟาตอนี ขาประจำได้แก่ เพจPatani Darussalam News,  เพจ Patani Peace สันติภาพปาตานี ﻓﺭدﺍﻣﺎﻳﻦ فطاني, เพจJalan Ku PataniMerdeka, เพจPataniFakta Dan Opini และยังมีอีกหลายเพจน่าจะมีเยอะกว่า เพจผี ด้วยซ้ำ

ตัวอย่างเพจโจรใต้ฟาตอนีที่มีการบิดเบือน


          คุณปกรณ์ พึ่งเนตรกล่าวถึงเพจผี ในเฟซบุ๊ค ซึ่งหมายถึงหน้าเพจที่ไม่ระบุตัวตนชัดเจน แล้วแพร่ข้อมูลในลักษณะสร้างความเกลียดชังต่อกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ไม่ได้กล่าวถึงเพจโจรใต้ฟาตอนีซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะบิดเบือนความจริง กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ โจมตีการปฏิบัติงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา จชต. สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนในพื้นที่ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งรัฐ แต่คุณปกรณ์ พึ่งเนตร กลับเห็นดีเห็นงามด้วยไม่เห็นมีการกล่าวถึง..เอ๊ะชักจะยังไง?..หากไปกล่าวหาเดี่ยวกลับกลายเป็นประเด็นอีก ขอให้ท่านผู้อ่านลองตั้งข้อสังเกตดูกันดีกว่าครับ และโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลข่าวสารกัน

          อย่างกรณีโจรใต้ที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ กระทำความชั่วมามากมาย มีหมายจับของศาลนับสิบๆ หมาย บางรายเมื่อผลพิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมามีความเชื่อมโยงกับคดีสำคัญ และในปัจจุบันมีการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยพิสูจน์ DNA ยืนยันตัวบุคคลที่เป็นที่ยอมรับในสากล คุณปกรณ์ พึ่งเนตรจะให้ทำอย่างไรกับคุณโจรใต้เหล่านี้ หรือจะให้ยกย่องสรรเสริญเป็นวีรบุรุษอย่างเช่นนายมะรอโซ จันทรวดี หรืออย่างไร? ลองใช้สามัญสำนึกของความเป็นคนในฐานะที่เป็นนักเขียนอาวุโส หลับตานึกภาพญาติพี่น้องเหยื่อที่โจรใต้เหล่านี้เข่นฆ่าสิ พวกเขาเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อมีการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านเสียชีวิต ไม่ลองเข้าไปดูในเครือข่ายสังคมออนไลน์เพจโจรใต้ฟาตอนี ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น มีทั้งเยาะเย้ยถากถาง บรรดาเครือข่ายดีใจ เย้ยหยันฉลองกันยกใหญ่...

          คุณปกรณ์ พึ่งเนตร กล่าวอ้าง พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า การใช้ ไอโอ แบบที่ฝ่ายความมั่นคงไทยนิยมใช้กันเหมือนที่สหรัฐใช้ในสงครามอิรัก คือ ให้ข้อมูลความเลวร้ายของฝ่ายตรงข้ามด้านเดียวนั้น จริงๆ แล้วไม่ควรใช้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

          การปฏิบัติการข่าวสาร หรือ ไอโอ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐจะต้องนำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อทำการส่งผ่านข้อมูลสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ได้เกิดการรับรู้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้ประชาชนเหล่านั้นหลงเชื่อข่าวลือ ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มขบวนการแนวร่วมที่ได้มีการทำ ไอโอ มาอย่างช้านาน  หากเราทำการศึกษาเกี่ยวกับงาน ไอโอ อย่างลึกซึ่งจะรู้ว่ามีถึง 13 กิ่งงานด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น งานประชาสัมพันธ์,  งานกิจการพลเรือน และการปฏิบัติการจิตวิทยา เป็นแค่กิ่งงานย่อยของงานไอโอจะเห็นได้ว่าในส่วนที่ดีมีเยอะไม่ได้เป็นการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียวตามที่ คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้มีการกล่าวอ้าง

          การมุ่งสร้างความเกลียดชังจึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ และไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตามเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มขบวนการแนวร่วม แต่ในความเป็นจริงที่ไม่สามารถยอมรับได้ให้ไปดูการโพสต์ภาพพร้อมข้อความของเครือข่ายเพจโจรใต้ฟาตอนีกันดูไม่อยากสาธยาย ณ ที่นี้

          คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ยังกล่าวอีกว่าการก่อเหตุรุนแรงโดยมีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อนั้น ไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกหรือชี้นำ และไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาน้อยครั้งนักที่สื่อกระแสหลักได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวของแนวร่วม ผกร. ซึ่งคนทั่วไปต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจ และไม่ยอมตกเป็นเป้าในการโจมตีของฝ่ายที่มีความคิดต่างจากรัฐ ยังรวมไปถึงกลุ่ม NGOs อีกด้วย มีสโลแกนอย่างสวยหรู กลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร แล้วเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างประเทศละ ผลประโยชน์ทั้งหมดตกอยู่กับใคร

          ผมเชื่อว่าคุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้นำเรื่องเล็กๆ มาขยายให้เป็นข่าว และโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้ ย่อมมีอะไรที่อยู่เบื้องลึก เบื้องหลัง หรือจะเป็นความไม่ชอบส่วนตัว อาจจะมีอะไรที่แอบแฝงสัมพันธ์ลึกซึ้งเชื่อมโยงกับใครบางคนไม่สามารถรับรู้ได้


          แต่จริงๆ ผมอยากจะเล่าให้ท่านผู้อ่านได้เป็นข้อมูลว่า ที่มาของการเรียก เพจผี จนกระทั่ง คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ได้นำมาขยายผลต่อ ไอโอ "ล้ำเส้น" ที่ชายแดนใต้ นั้น แรกเริ่มเดิมทีเกิดจาก เพจ ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน ได้ทำการแฉแอดมินผู้ดูแลเพจ Patani Peace สันติภาพปาตานี ﻓﺭدﺍﻣﺎﻳﻦ فطاني  ว่าทั้งหมดเป็นกลุ่มนักศึกษา PerMAS เป็นแอดมินดูแลเพจดังกล่าวอยู่ ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนความจริง และยังมุ่งโจมตีใส่ร้ายป้ายสีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เสมอ จนกระทั่งการนำภาพบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเปิดเผยได้สร้างผลกระทบต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีการขู่จะฟ้องร้องแจ้งความ และเพจแนวร่วมโจรใต้ Patani Peace Dialogue ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความกล่าวหา เพจ ลมหายใจที่ปลายด้ามขวาน และ เพจ:South dark (เปิดโปงความจริงในเงามืด), เพจ:PNYS จังหวัดชายแดนใต้, เพจ:Shutdown BRN, เพจ:สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนใต้, เพจ:พวกเรากลุ่มต่อต้านโจรใต้-ฟาตอนี, เพจ:เผยความจริงชายแดนใต้ และเฟสบุ๊ค Pattani Thailand ว่าเป็น เพจผี  

       
          น่าแปลกใจทำไม? คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ในฐานะผู้อาวุโสและมีชื่อเสียงในวงการสื่อถึงได้หันมาเล่นประเด็นนี้  และเดินหน้าฆ่าฟันเหยียบย่ำการกระทำของบรรดา เพจผี ว่าเป็นการชี้นำให้ประชาชนมีความเกลียดชังต่อกลุ่มขบวนการโจรใต้ โดยบทความดังกล่าวคุณปกรณ์ พึ่งเนตร ไม่ได้เขียนถึงบรรดา เพจโจรใต้ฟาตอนี ใดๆ เลย มันคาใจของผู้อ่านหลายๆ คน ได้ฝากถามมา

          “สื่อทางเลือก หรือ สื่อกระแสหลัก ที่ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวไม่เคยมีใครไปยุ่งเกี่ยวกับท่านหรอกครับ ทำหน้าที่ของท่านไป แต่ยังมีการนำเสนอข่าวสารของสื่อบางสำนักไม่มีจรรยาบรรณ เอนเอียง ไม่มีความเป็นกลาง อีกทั้งการเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ มีการบิดเบือนความจริง สร้างความแตกแยกทางความคิดไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งยากที่จะยอมรับได้

          ยุคนี้เป็นยุคของการแย่งชิงสงครามข่าวสาร ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา การปิดหูปิดตาประชาชนในยุคปัจจุบันไม่สามารถกระทำได้ เพราะในโลกยุคดิจิทัล คุณไม่สามารถปิดกั้นข้อมูลข่าวสารได้อีก เช่นเดียวกับ คุณปกรณ์ พึ่งเนตร ผู้เฒ่าหลงยุค ที่มองต่างมุม ไอโอ ล้ำเส้นที่ชายแดนใต้ เป็นแค่การมองเหรียญเพียงด้านเดียว ทั้งๆ ที่เหรียญมีสองด้าน น่าเสียดายที่ข้อมูลที่ได้นำมาเสนอไม่มีความครบถ้วน จงใจที่จะดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว

          การมีส่วนร่วมของประชาชนในการให้ความร่วมมือกับการแก้ปัญหาไฟใต้ ร่วมกันปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ บังคับใช้กฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ เสมอภาค เป็นธรรมนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ! ..อีกไม่นานแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่เรารอคอย..กับกระบวนการพูดคุยสันติสุขคงเป็นจริง...
------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ภาพ 1 บทความไอโอล้ำเส้นที่ชายแดนใต้ ภาพ 2 เพจโจรใต้ฟาตอนี ภาพ 3 เปิดโปงแอดมินเพจสันติภาพปาตานี ภาพ 4 เพจผี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น