10/29/2560

ทหารใต้สุดช้ำ!! ชีวิตเสี่ยงตาย ถูกนายอมเบี้ยเลี้ยงปีนับหมื่นล้าน

 


แบคอลี ลังกาสุกะ

อมเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ สังคมชนชั้น 'นาย' รังแกทหารผู้น้อย 

ทหารใต้สุดช้ำ!! ชีวิตเสี่ยงตาย ถูกนายอมเบี้ยเลี้ยงปีนับ 10,000 ล้าน ทหารชั้นผู้น้อยที่ประจำการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้สะท้อนปัญหาเรื่องเบี้ยเลี้ยง อมเงินพสร. เรื่องนี้ความจริงจะเป็นเช่นไร แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าไม่มีควันย่อมไม่มีไฟ 

      ล่าสุด อมเงินพลทหารในชายแดนใต้บานปลาย เพราะไม่เพียงทหารเกณฑ์จะระบุว่าโดนหักเบี้ยเลี้ยงเหลือวันละ 47  เอกสารยังระบุการหักค่าอาหาร/ ค่ารถ ฯลฯ จนดูผิดปกติด้วย ฟากกองทัพบกแจง “เบี้ยเลี้ยง” ไม่ใช่ “เงินเดือน” และการหักนั้นเพื่อจ่ายค่าพาหนะที่แต่ละหน่วยขนส่งกำลังพลไปสนามบินหรือท่ารถโดยสารช่วงพักเท่านั้น แต่สังคมยังคงห่วงทหารชั้นผู้น้อยเพราะทำงานเสี่ยง และยังโดนข่มขี่ข่มเหง  ขณะเดียวกันสังคมเชื่อว่า “นาย” รังแกผู้ใต้บังคับบัญชา นั้นมีอยู่จริง

ขณะสังคมต่างออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายออกมาพูดความจริงกันเพื่อนำไปสู่การป้องปรามและการสร้างขวัญกำลังใจของทหารชั้นผู้น้อยและรวมถึงทหารพรานในพื้นที่เองก็ตาม และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระจากบุคคลภายนอก(ที่ไม่มีทหาร)เข้าไปตรวจสอบไต่สวนข้อเท็จจริงว่ามีเหตุหรือพฤติการณ์ต่างๆ ตามที่สังคมครหาอยู่หรือไม่ เพื่อความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในกองทัพและที่สำคัญจะได้ป้องกันปัญหาการเล่นพรรคเล่นพวกกันอีกด้วยรัฐบาลควรให้ความชัดเจนต่อสังคม (ไม่แปลกที่จะเห็นผู้การ ผู้พัน วิ่งเต้นเป็น ผบ.ในพื้นที่)

10/22/2560

ชาวเคิร์ด...คือใคร!! ทำไม? ร่วมมือกับอเมริกา




“ชาวเคิร์ด”คือใคร? หลายท่านอาจสงสัยเป็นใคร? อยู่ส่วนไหนของแผนที่โลก และทำไมเรื่องราวของชาวเคิร์ดมีการนำเสนอข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ในทีวีบ้านเราหรือทั่วโลก.. 

“ชาวเคิร์ด”คือชาวพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่แถบอาหรับและเปอร์เซียมาอย่างยาวนานนับพันๆ ปี เร่ร่อนไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วทวีป บ้างก็ตั้งรกรากถิ่นฐานกระจัดกระจายกันไป ในประเทศต่างๆ เช่น ในประเทศอิรัก, ซีเรีย, อิหร่าน และประเทศรัสเซีย และมีมากที่สุดคือประเทศตุรกี 

“ชาวเคิร์ด” เป็นชนชาติที่ทำการรบเก่งมาก มีจิตวิญญาณของนักสู้ แต่ชาวเคิร์ดเป็นชนชาติที่ต้องคำสาปคล้ายๆ กับปาเลสไตน์ คือมีปัญหาในเรื่องดินแดนที่มาจากการยอมรับของนานาชาติไม่มีประเทศเป็นของตนเอง อีกทั้งชาวเคิร์ดที่อาศัยในประเทศต่างๆ กลับถูกมองว่า “เป็นพลเมืองชั้นที่สอง” ของประเทศที่ชาวเคิร์ดอาศัยอยู่ กล่าวคือเป็นชนกลุ่มน้อย ไม่มีอำนาจต่อรองในทางการเมืองและเศรษฐกิจ ไม่มีบทบาท ไม่มีสิทธิมีเสียงเหมือนพลเมืองแท้ๆ ของประเทศนั้นๆ ถึงแม้จะถูกเหยียดหยามต่างๆ นาๆ แต่ชาวเคิร์ดมีความใฝ่ฝันว่าจะมีดินแดนของตัวเอง มีประชาชนชาวเคิร์ดที่แท้จริงปกครอง จึงพยายามเสาะแสวงหาทุกวิถีทางในการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง เศรษฐกิจ


“ประเทศตุรกี”หรืออดีตอาณาจักร“ออตโตมัน”มีชาวเคิร์ดอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับถูกกดขี่ จำกัดสิทธิเสรีภาพเสมือนเป็น“พลเมืองชั้นสอง”ตุรกีเกลียดชังชาวเคิร์ดเป็นอย่างมาก พยายามคุมอำนาจชาวเคิร์ด อีกทั้งพยายามกำจัดเพื่อป้องกันการลุกฮือของชาวเคิร์ด  ตุรกีมีความหวาดระแวงเปรียบชาวเคิร์ดเสมือน“หอกข้างแคร่” และเป็นอุปสรรคในการสร้างอาณาจักรออตโตมันให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง ชาวเคิร์ดจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือให้กับชาติมหาอำนาจ เพียงเพื่ออำนาจต่อรองสร้างชาติเป็นของตนเอง

“ศัตรู”ของ“ศัตรู”คือ...มิตรของข้า 

ตุรกีเป็นมหามิตรที่สำคัญยิ่งของอเมริกา เพราะตุรกีในมุมมองของอเมริกาคือเป็นรัฐกันชนและคานอำนาจกับรัสเซีย ทั้งสองประเทศรักกันเหนียวแน่น... แต่แล้วด้วยเกมการเมืองที่ผิดพลาด (รัฐประหารที่ตุรกีไม่สำเร็จ) ทำให้ตุรกีหวาดระแวงอเมริกา... 

ตุรกีจึงหันไปคบเอาใจรัสเซีย.. ซึ่งเป็นคู่อริตลอดกาลของอเมริกา. ด้วยความที่อเมริกาซึ่งกระทำตัวเป็นนายใหญ่ของโลกกลัวเสียหน้าและไม่ยอมเสียประโยชน์ จึงพยายามหาหนทางที่จะแก้เผ็ดและทวงคืนอำนาจของตนเองในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งยุโรป อเมริกาจึงปรึกษาหารือกันว่าจะทำการเช่นไร?.... เพราะหาก     รัสเซียและตุรกีจับมือกันอย่างเหนียวแน่นแล้ว จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง... เพราะหากเกิดสงครามขึ้นกับรัสเซียเมื่อไหร่ รัสเซียจะสามารถกรีฑาทัพบุกได้โดยง่าย อีกทั้งสูญเสียอำนาจแถวคาบสมุทรอาหรับ แต่ในที่สุดอเมริกาก็หาออกในการแก้เผ็ดได้สำเร็จ โดยหันไปจับมือกับ“ชาวเคิร์ด”ซึ่งเป็นอริศัตรูของตุรกีนั่นเอง

ซึ่งตุรกีหรือประเทศในแถบยุโรปไม่เคยชายตา หรือให้ความสำคัญต่อชาวเคิร์ดเลย อเมริกาหยอดคำหวานให้ความหวัง“วันหนึ่งชาวเคิร์ดจะมีดินแดนเป็นประเทศของตนเอง” 

ซึ่งที่ผ่านมาชาวเคิร์ด กลับมองว่าตัวเองจะไม่มีประเทศได้ ตราบใดที่มีตุรกีและมีรัสเซียหนุนหลัง จึงจับมือกับอเมริกาและยุโรป อเมริกาให้การสนับสนุนชาวเคิร์ดด้วยการส่งทั้งอาหาร เสบียงและอาวุธ พร้อมฝึกทำการรบให้เก่งขึ้นไปอีก ชาวเคิร์ดยิ่งนับวันยิ่งแข็งแกร่ง สร้างความเกรงกลัวให้กับตุรกีและนานาประเทศที่มีชาวเคิร์ดอยู่อาศัยว่าซักวันหนึ่งประเทศของตัวเอง จะถูกชาวเคิร์ดเหล่านั้นลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน

เพราะฉะนั้น“ชาวเคิร์ด”คือหมากสำคัญของอเมริกา และอย่าคิดว่าอเมริกาจะแพ้เพราะจนแต้ม เพราะหมากตัวสำคัญยิ่งอีกตัวอีกตัวของอเมริกาตัวคือ“อิสราเอล”ซึ่งเป็นมหามิตรของอเมริกาในดินแดนตะวันออกกลาง หมากแต่ละเกมส์สนุก ชิงไหวชิงพริบกันสนุกระหว่างสองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก ระหว่าง“พญาอินทรีกับพญาหมีขาว”โดยมี“พญามังกร”อย่างจีนติดตามดูอย่างใกล้ชิด และคอยสอดแทรกเมื่อสองมหาอำนาจทะเลาะกันเอง...

          “ชาวเคิร์ด”เป็นมุสลิม เชื้อสายนิกายซุนหนี่ ซึ่งเป็นพวกนักรบเร่ร่อน ชอบไปรุกรานและยึดครองตามที่ต่าง แบ่งเป็นกลุ่มๆ เมื่อเกิดการแบ่งประเทศ จึงกระจายเป็นชนกลุ่มน้อยอยู่ในหลายประเทศ CIA จึงใช้เป็นเครื่องมือ ในการปฏิบัติการลับและให้การสนับสนุน อย่างเช่นในประเทศจีน คือ“อุยกูร์”ในซีเรีย ก็ใช้เป็นท่อสนับสนุนกลุ่มISรวมทั้งอเมริกาหนุนหลังให้ทำการปฏิวัติในตุรกีแล้วเหลว ตุรกีเกิดความหวาดระแวงจึงหันไปอิงรัสเซีย ส่งผลต่ออียู และดุลย์อำนาจระหว่างยุโรปกับเอเชีย ในช่วงออตโตมันรุ่งเรือง มีการรบเพื่อขยายอาณาเขต แต่กลับปล่อยให้ประชาชนอดอยากจึงเกิดยังเติร์กปฏิวัติหันกลับมาช่วยประชาชน...

          สุดท้ายของคำตอบคือทำไม? จึงมีความเชื่อมโยงเหตุระเบิดบ้านเราที่ศาลพระพรหม ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และในวันต่อมาได้เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดลงมาจากสะพานตากสิน บริเวณท่าเรือสาทร ทำให้เรือที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงถูกสะเก็ดระเบิดเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

นายแอนโธนี่ เดวิส นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของไอเอชเอส เจนส์ ที่มีสำนักงานในกรุงเทพฯ ให้ความเห็นว่า ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ภาคใต้ เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ ขณะที่นายโทนี่ คาตาลุซซี่ นักวิเคราะห์ชาวสหรัฐฯ บอกว่า เป็นความป่าเถื่อนของสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาเยือนลิเบีย ซีเรีย ยูเครน ขณะนี้กำลังเข้ามาเยี่ยมชมกรุงเทพฯ ของประเทศไทยด้วยการก่อการร้ายข้ามชาติ

isis - อุยกูร์- ชาวเคิร์ด จึงยืนอยู่บนฟากเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายจะถอดรหัสไปสู่ต้นขั้วของทุกสิ่งคือ“อเมริกา”ที่ใช้งานกลุ่มเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ เพื่อแย่งชิงความเป็นมหาอำนาจกับรัสเซีย โดยมีจีนคอยสอดแทรก... เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์อย่างลงตัว.. ในคราบการก่อการร้ายแทรกแซงประเทศอื่นๆ
------------------------
ขอบคุณ: ข้อมูลจากผู้รู้ท่านหนึ่ง

10/20/2560

“อาสา” เพราะใจรักในแผ่นดินเกิด


 ถึงแม้ท่านจะไม่ได้รับรางวัลอะไร แต่ความภาคภูมิใจ
ในเกียรติภูมิของท่านยังคงมีอยู่แน่นอนและตลอดไป”

ทำไม? กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ของไทยจึงกังวลกับการที่รัฐบาลให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มีจิตใจเสียสละเข้ามาสมัครและคัดเลือกเป็นกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ในพื้นที่ จชต.  ถึงกับต้องออกมาข่มขู่  และสร้างความหวาดระแวงให้กับพี่น้องประชาชนขนาดนั้น


Paragraph ข้างบนเป็นคำถามตัวใหญ่ในสังคมโซเชียลในวันที่ผ่านมา ทั้งที่การให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่อาจเป็นญาติพี่น้อง มีความคุ้นเคยกับวิถีชีวิต พื้นที่ชุมชนของตนมาเป็นผู้ดูแลชุมชนของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องดังที่ว่าสูเจ้าทั้งหลายอย่าก่อกวนความเสียหายขึ้นในแผ่นดิน การรักบ้านเกิดเมืองนอนนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการศรัทธามั่นในองค์อัลเลาะห์ (จากคัมภีร์อัลกุรอาน) เงินเดือน 17,000 กับค่าเสี่ยงภัย 2,500  มันเทียบไม่ได้กับหน้าที่และความรับผิดชอบที่เขาเหล่านั้นจะต้องทำหลังจากผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็น อส. ซึ่งแสดงถึงการรู้คุณแผ่นดินเกิดและศรัทธาที่มั่นคงซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อวันกียาม๊ะห์มาถึง ผู้ที่อุทิศตนเพื่อแผ่นดินแม่ กับผู้ที่ทำร้ายแผ่นดิน-เกิด เก็บเกี่ยวหาประโยชน์บนหลุมฝังศพและคราบน้ำตาของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ต้องมีที่หมายในวันนั้นที่ต่างกัน




ผู้เขียนเองเชื่อว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่อัลเลาะห์สร้างขึ้นมา เป็นผู้ที่ประเสริฐและมีปัญญาสูงคงไม่มีใครมาจับแพะชนแกะได้ คงได้แต่พวก ดอละห์  ซาและห์ เท่านั้น การมองมนุษย์ทั้งหมดว่าเป็นแบบ X มันล้าหลังไปหลายร้อยปี หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอยู่ทุกวันพบว่าไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของตน  รู้ว่ากำลังจะสูญเสียมวลชน  การสร้างแนวร่วมรุ่นใหม่ด้วยอุดมการณ์จอมปลอมจากนักอุดมการณ์รับจ้างทั้งหลายไม่ได้ผล ถึงกับต้องผูกมัดแนวร่วมไว้ด้วยสิ่งที่เป็นหะรอม  ให้มีมาตั้งแต่เด็กๆตัดกำลังวัยรุ่นในพื้นที่  ที่จะต้องเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตนในอนาคต

กำลังเพลี่ยงพล้ำ” นี่กระมังคือคำตอบต่อคำถาม

ยอมสละความสุขส่วนตัว ยอมห่างไกลครอบครัว ยอมห่างลูกเมียพ่อแม่พี่น้องเพื่อมาทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตอบแทนบรรพชนรุ่นหลังที่มีประเทศไทยมาจนตราบทุกวันนี้ ไม่มีรางวัลใดๆ ที่จะซาบซึ้งเท่ากับความเข้าใจในความรู้สึก การให้เกียรติ รักแผ่นดิน รักชาติ ความจงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งยากที่จะอธิบายให้ใครฟังได้ มีเพียงเท่านี้ที่จะบ่งบอกได้ถึงขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทยของเราเหล่าอาสา...ประเทศไทยเราเสียแผ่นดินมามากพอแล้ว วันนี้คุณทำอะไรตอบแทนแผ่นดินเกิดบ้างหรือยัง?
-------------------------


ดำดิ่งมหาสมุทร