3/31/2561

เรียกร้อง!!ปล่อยตัว 7 อาชญากรฆ่าพระ ฆ่า จนท.ฆ่าประชาชน แลกเดินหน้าพูดคุยสันติสุข


"แบมะ ฟาตอนี"


การออกมาแถลงการณ์ของกลุ่มมาราปาตานีโดยมี นายมะสุกรี ฮารี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีการให้สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยในสื่อยูทูปหรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา

สาระสำคัญในการออกมาแถลงการณ์เรียกร้องของกลุ่มมาราปาตานีซึ่งมีด้วยกัน 4 ข้อด้วยกัน มารา ปาตานี กล่าวถึง โครงการพาคนกลับบ้าน และการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 14 อำเภอของแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่เกี่ยวข้องกับการตกลงของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ซึ่งหากดูจากท่าทีของมาราปาตานีต่อกรณีดังกล่าวที่เน้นและขีดเส้นใต้ว่าขั้นตอนการพูดคุยยังอยู่ในคณะของ ฝ่ายเทคนิคยังไม่ได้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซนแต่อย่างใด เป็นการประกาศไม่ยอมรับ พื้นที่ปลอดภัย 14 อำเภอ ซึ่งเป็นโครงการของกองทัพภาคที่ 4

ส่วนโครงการพาคนกลับบ้านหากวิเคราะห์แถลงการณ์ของ มารา ปาตานี ต้องการให้กองทัพภาคที่ 4 ยุติโครงการพาคนกลับบ้าน เพราะกลุ่มขบวนการและฝ่ายเห็นต่างที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนกำลังเพลี่ยงพล้ำเสียประโยชน์ หรือกระทบต่อโครงสร้างของขบวนการที่ต่อสู้กับรัฐไทย

การออกมาแถลงการณ์ ฟาดงวงฟาดงา ใส่ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ต่อโครงการพาคนกลับบ้าน และการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 14 อำเภอ ย่อมมีนัยสำคัญแอบแฝงอยู่ ซึ่งอาจะใช้เป็น ข้ออ้างของการ เลื่อนการทำข้อตกลงในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซน ซึ่งเป็นความหวังของคนในพื้นที่ในการเดินหน้าการพูดคุยในการที่จะสร้าง สันติสุขให้เกิดขึ้นได้จริงบนแผ่นดินปลายด้ามขวาน

เมื่อกระบวนการพูดคุยมีการเลื่อนจากความขัดแย้งสงครามปากและยังเห็นต่างกันอยู่ นั่นหมายความว่าเป็นการดับความฝันกระบวนการสร้างสันติสุขที่จะเกิดจากการพูดคุยต้องหยุดชะงักหรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ฝ่ายใช้ความรุนแรงอาจจะสร้างเงื่อนไขรอบใหม่ด้วยการโหมไฟใต้ให้ลุกโชนกว่าเดิมแล้วใครคือเหยื่อ!! ของความขัดแย้ง.. ถ้าไม่ใช่ประชาชนที่จะต้องแบกรับผลกระทบ

สิ่งที่หลายฝ่ายมีความกังวลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือกลุ่มมาราปาตานี อาจจะมีการขอให้ ปล่อยตัวอาชญากรใต้ที่เป็นสมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น 7 คน ออกจากเรือนจำในลักษณะของการ พักโทษ เพื่อแลกการเดินหน้าพูดคุยสันติสุขกับรัฐบาลไทย กรณีดังกล่าวเป็นความพยายามของฝ่ายคิดต่างที่เรียกร้องส่งสารมายังรัฐบาลไทยมาโดยตลอด นักโทษทั้ง 7 รายถือเป็น นักโทษเด็ดขาดที่ศาลฎีกาได้พิพากษาความผิดไปแล้ว และคดีถึงที่สุด เป็นที่ทราบกันว่าแต่ละคนเป็นนักโทษหนัก เพราะก่อคดีอุกฉกรรจ์คนละหลายต่อหลายคดี พฤติกรรมเข่นฆ่าพระสงฆ์ ฆ่าเจ้าหน้าที่ ฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทำการลอบวางระเบิดและก่อการชั่วในรูปแบบต่างๆ สร้างความเดือดร้อนต่อคนส่วนรวมจนยากที่จะให้อภัย ซึ่ง 1 ใน 7 ทรชน อาชญากรโจรใต้คือ นายมะนาเซ ยา ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ถูกจับใน โรงเรียนบูรพาวิทยาพร้อมวัตถุระเบิดจำนวนมาก และมีหมายจับติดตัวหลายหมาย มีความผิดหลายกระทงด้วยกัน ปัจจุบันถูกควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส

ยังไม่นับรวม อาชญากรโจรใต้ที่หนีหมายศาล หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ข้ามพรมแดนเข้าไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย และประเด็นที่เป็นคำถามประการหนึ่งคือ การอนุญาตให้ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีสำคัญซึ่งจำนวนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มมาราปาตานีสามารถ เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียได้โดยไม่ต้องถูกจับกุม จะคุ้มค่าหรือไม่!! กับการซูงกกับกลุ่มอาชญากรเหล่านี้

สันติสุขชายแดนใต้ใครๆ ก็อยากจะให้เกิด แต่การเรียกร้องโน่นนี่ของขบวนการในนามกลุ่มมาราปาตานีในบางประเด็นเป็นการทำลายความรู้สึกของคนไทยพุทธ ไทยมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งหลายครอบครัวเคยตกเป็นเหยื่อและพบกับความสูญเสียจากการกระทำของเหล่าอาชญากรเหล่านี้มาแล้ว ที่ ทำร้ายจิตใจของครอบครัวของผู้ที่ต้องสูญเสีย นี่ยังไม่นับรวมความสูญเสียโดยรวมของประเทศชาติและประชาชนที่เกิดจากน้ำมือของขบวนการบีอาร์เอ็น ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังความรุนแรง แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในพื้นที่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนจากการใช้ อาวุธเป็น ปากกา เปลี่ยนจากการใช้ อาวุธเป็นพื้นที่ การพูดคุยเพื่อเดินหน้าสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง โดยลดเงื่อนไขการเรียกร้องอะไรบางอย่างที่ไม่ทำร้ายจิตใจ กระทบความรู้สึกจนเกินไปที่พอจะรับได้ อีกทั้งให้ทุกฝ่ายมีความจริงใจในการพูดคุย ไม่แอบแฝงเรียกร้องในเรื่องผลประโยชน์ฝ่ายตน โดยให้เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง... แสงริบหรี่แห่งความหวังถึงแม้จะนานสักเพียงใด แต่ทุกคนยังรอแสงแห่งสันติภาพแสงแห่งความหวังที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอยว่าวันนั้นจะมาถึง
----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น