5/29/2561

โจรใต้กำหนด..เป้าหมายที่ต้องทำลาย


"แบมะ ฟาตอนี"


กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังจาก พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา กรณีมีผู้เผยแพร่คลิปในสื่อโซเชียลในการเข้าร่วมหารือข้อเรียกร้องจากผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ในการหาผลสรุปการกำหนดเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้ พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย พระนักพัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีนคร ถูกเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ไปตามสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางในสื่อแนวร่วมขบวนการ จนทำให้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม เข้ามาตอบโต้โดยใช้ข้อความคุกคามการข่มขู่ การขู่ฆ่า และจะเผาทำลายวัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพจแนวร่วมโจรใต้ ได้มีการบิดเบือนข้อมูล ทำการปลุกระดมพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ที่สำคัญได้มีความพยายามตัดต่อภาพพระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร กำลังสะพายอาวุธปืนสงคราม และทำการกล่าวหาว่าเป็นผู้นำกองกำลังไทยพุทธลอบยิงพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ โดยเฉพาะเพจ: Patani Peace สันติภาพปาตานี ڤرداماين فطاني และเพจ: suara patani ได้สร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชังอย่างต่อเนื่อง มีการใช้คำที่สื่อไปในทางลบ.. พระหัวรุนแรง สุดโต่ง และมีแนวคิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มันมาถึงปาตานีแล้ว!! อีกทั้งยังได้ทำการกล่าวหา ทหารอยู่เบื้องหลังการซ่องสุมอาวุธและกองกำลังของกลุ่มพระหัวรุนแรงที่ อ.ธารโต และบันนังสตา


ภาพจริงที่ท่าน พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร สะพายคือเครื่องตัดหญ้า ไม่ใช่อาวุธปืนที่สื่อแนวร่วมโจรใต้ทำการสื่อเพื่อให้สังคมเข้าใจผิดแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตาจนกระทั่งผู้ใช้สื่อโซเชียลตั้งข้อสังเกตุและจับพิรุธได้เนื่องจากไม่แนบเนียนพอ...


การที่ เพจ: Patani Peace สันติภาพปาตานี ڤرداماين และเพจ: suara patani ทำการสื่ออย่างนั้นต้องการอะไร? เหมาะสมหรือไม่ในสถานการณ์เช่นนี้ ในขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งยังดำรงอยู่ซึ่งสุ่มเสี่ยงกระทำการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างคนสองศาสนา การเล่นกับความรู้สึก อีกทั้งทำการปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ หรือสื่อแนวร่วมเหล่านี้ได้รับใบสั่งจากแกนนำขบวนการ กำหนด พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร เป็นเป้าหมายที่จะต้องทำลาย.. เพราะกลัวและทนยอมรับไม่ได้กับพหุวัฒนธรรม ของพระนักพัฒนารูปดังกล่าว...


ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ต่างทราบดีว่า พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย เป็นอย่างไร? และมีพฤติกรรมแบบไหน? ไม่ใช่เฉพาะแค่พี่น้องชาวไทยพุทธเท่านั้น รวมไปถึงพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ที่ท่านพระครูได้ให้การช่วยเหลือหยิบยื่นให้ ถามว่าทำไม? ท่านถึงทำแบบนี้ หากมีความเกลียดชังมุสลิมจริง เป็นพระหัวรุนแรงปลุกระดมชาวบ้าน เป็นผู้นำกองกำลังไทยพุทธลอบยิงพี่น้องมุสลิมตามที่สื่อแนวร่วมโจรใต้ทำการกล่าวหาและทำการโฆษณาชวนเชื่ออยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ พี่น้องไทยพุทธ-มุสลิมในพื้นที่คงไม่กล่าวขานถึงคุณงามความดีของท่านหรอก!! พระครูสมุหพิสิทธิ์ อนาลโย คือพหุวัฒนธรรมที่แท้จริง ทำการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่มีศาสนามากีดกั้น...

ฝากไปยังประชาชนในพื้นที่ผู้ที่เสพข้อมูลข่าวสาร โปรดใช้วิจารณญาณและข้อมูลรอบด้านต่อการตัดสินใจเชื่อต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นละเอียดอ่อนในด้านศาสนา มิเช่นนั้นแล้วจะนำไปสู่ความบาดหมางใจ เกิดความแตกแยกของผู้นับถือศาสนา พระภิกษุสงฆ์ คือผู้สืบทอดคำสอนของพระบรมศาสดา เป็นสัญลักษณ์ของศาสนา และเป็นที่เคารพ นับถือ ศรัทธา เป็นศูนย์รวมใจของพี่น้องชาวไทยพุทธ การกระทำใดๆ ก็แล้วแต่ซึ่งนำมาซึ่งความแตกแยก แตกความสามัคคี เป็นการทำลายสังคมพหุวัฒนธรรม มุ่งทำลายซึ่งกันและกันย่อมไม่มีผลดี เช่นเดียวกันหากมีการกล่าวหาทำลายความคิดความเชื่อของพี่น้องมุสลิม มีการลบหลู่ดูหมิ่นไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พี่น้องมุสลิมก็ย่อมรับไม่ได้เช่นกัน.. ฉันใดก็ฉันนั้น!! สังคมจะปกติสุขอยู่ได้ก็ต่อเมื่อไม่หลงเชื่อการปลุกระดมของผู้ที่ไม่หวังดีให้พี่น้องในพื้นที่ จชต.เกิดความแตกแยกกัน ซึ่งเมื่อไหร่ที่เราแตกคอกัน ผิดใจกันนั่นคือความสำเร็จของผู้ที่กำลังปั่นหัวพวกเราอยู่...#ดับไฟใต้.. ต้องดับไฟในใจคน

คลิปพระที่เพจมุสลิมหลายเพจกำลังโจมตี คือ พระรูปนี้ที่กำลังเดินทางขึ้นเขาไปหลายกิโลเมตรเพื่อช่วยเหลือมุสลิมที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 


************



5/27/2561

กระแสต้านความรุนแรงในสื่อโซเชียล!! หลังชายนิรนามปล่อยคลิปแจ้งเตือนก่อเหตุใหญ่ใน 28 พ.ค.61


โจรใต้ ก้าวไปอีกขั้น ทำคลิปป่วน แสร้งเตือนภัย จะมีก่อเหตุใหญ่ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ แต่ไม่บอกว่า จุดไหน แต่เตือน อย่าออกจากบ้าน...

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า-ผู้นำศาสนา เตือนอย่าหลงเชื่อ ชี้หวังสร้างความหวาดกลัว หวังทำลายบรรยากาศเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ศาสนนิกชนปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ

สะพัดทั่วชายแดนใต้ คลิปชายนิรนาม คลุมผ้า "ซือรือบาน" โผล่เสี้ยวเดียว พูดยาวีห์ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ให้ออกนอกบ้านในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากจะมีการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ และเป็นการก่อเหตุการณ์ใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าจุดไหนแต่ให้ระวังตัวด้วย

พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า เป็นความพยายามปล่อยข่าวลือ เพื่อสร้างความสับสนและ ความหวาดกลัว ให้กับพี่น้องประชาชน และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ
"อย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือนี้ เพราะทางทหารจะดูแลอย่างเต็มที่ และใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการ กับผู้ก่อเหตุทุกราย "

ด้าน นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า "คลิปนี้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าวัตถุประสงค์ของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งถ้าทุกคนเข้าใจก็จะไม่ก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนก และขอให้ผู้นำศาสนาประจำมัสยิดต่างๆ และประชาชนที่ถือศีลอด ในเดือนรอมฏอนขอให้ปฏิบัติศาสนกิจเหมือนเดิม"

ส่วนกระแสในสื่อโซเชียลพี่น้องมุสลิมสายกลางต่างดาหน้าออกมาต่อต้านกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่มุ่งก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ หลังมีคลิปวีดีโอเตือนพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ห้ามออกจากบ้านเรือนเพราะจะมีการก่อเหตุความรุนแรงครั้งใหญ่ขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

ข้อความบางส่วนในสื่อโซเชียล



5/18/2561

รู้จักทีมงูเต๊ะ ผู้ปลิดชีพประธานพาคนกลับบ้าน อ.บันนังสตา

"Ruslee Awang"


RKK คือชุดปฏิบัติการทหารของกลุ่มขบวนการ แรกเริ่มเดิมทีมีหน้าที่ในการก่อเหตุและรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ถูกจัดตั้งแบบสมบูรณ์ สอดแนมหาข่าวเป้าหมายในการก่อเหตุและสุดท้ายคือการก่อเหตุ การก่อเหตุแต่ละครั้งของกลุ่มขบวนการมีค่าใช้จ่ายสูงตามเหตุการณ์ที่ต้องการให้เกิด เงินทุนในการก่อเหตุนอกจากงานได้จากเงินซากาตแล้ว ยังได้รับเงินทุนจากกลุ่มนักการเมืองผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายธุรกิจมืด เช่น ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน ของหนีภาษี มีความเชื่อมโยงกันเป็นอาชญากร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางเหตุความไม่สงบความรุนแรง เจ้าหน้าที่สามารถบุกทลายเครือข่ายยาเสพติดและน้ำมันเถื่อนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการตัดวงจรท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการขณะที่กลุ่มขบวนการเองก็มีการวิวัฒนาการความเลวปรับจาก RKK ซึ่งเป็นผู้ที่คอยก่อเหตุมาทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้กับกลุ่มขบวนการ เพื่อควบคุมมวลชนของแต่ละพื้นที่ไม่ให้เข้าร่วมมือกับรัฐรวมถึงรักษาผลประโยชน์ธุรกิจมืดให้กับกลุ่มขบวนการและบ่อยครั้งที่ทีมงูเต๊ะจำเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดู  ด้วยการมอบความตายให้กับชาวบ้าน เพื่อให้เกิดความรู้สึกกลัวจำใจต้องให้ความร่วมมือกับกลุ่มขบวนการหรือไม่ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่แปลกที่แต่ละคดีการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต้องใช้เวลาหรือไม่ก็จับไม่ได้โดยทันทีซึ่งต่างจากคดีนอกพื้นที่ขณะที่ยังมีกลุ่มภาคประชาสังคมNGOs บางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้ก่อเหตุคอยหยิบยกสร้างประเด็นความสับสนให้กับคนในพื้นที่ในสังคมตลอดเวลา เพื่อสร้างความรู้สึกลดความน่าเชื่อถือด้านกระบวนการความยุติธรรมของไทย

สำหรับการจัดตั้งทีมงูเต๊ะของกลุ่มขบวนการเพื่อควบคุมมวลชนในหมู่บ้าน ส่วนมากแล้วจะให้แนวร่วมที่เคยก่อเหตุแล้วหรือเป็น RKK มีภาวะการเป็นผู้นำสามารถคุมหมู่บ้านหรือตำบลที่ตนรับผิดชอบได้ มีสติปัญญา มีอุดมการณ์  เคร่งศาสนา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมมวลชนในพื้นที่  แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีความขัดแย้งกันของกลุ่มขบวนการแนวร่วมในอดีตถดถอย บางคนหนีไปต่างประเทศอีกหลายคนยอมมอบตัวเข้าร่วมกับโครงการพาคนกลับบ้านมากขึ้น  กลุ่มขบวนการจึงจำเป็นต้องหาแนวร่วมที่มีปัญหาส่วนตัวหรือใครก็ได้มีระดับของสติปัญญาและฐานะทางครอบครัวและเศรษฐกิจด้อยกว่าคนอื่นในหมู่บ้าน เช่น กลุ่มเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและกลุ่มคนที่เกี่ยวของกับธุรกิจมืดน้ำมันเถื่อน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีความคึกคะนองเอนเอียงไปกับกลุ่มขบวนการ ทั้งนี้การก่อเหตุทุกครั้งจะเน้นเยาวชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มขบวนการ เพราะเวลาก่อเหตุเสร็จก็จะยากต่อการสืบหา เพราะในสารบบเจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูล การก่อเหตุทุกครั้งยังเป็นการฝึกทดสอบเยาวชนของกลุ่มขบวนการก่อนจะเข้าเป็น RKK ของกลุ่มขบวนการอีกด้วย การยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ได้ทั้งเงินทอง ได้กำจัดเสี้ยนหนามของกลุ่มขบวนการเอง ได้ทั้งโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ ได้ทั้งฝึกเยาวชนที่เข้าร่วมขบวนการของตัวเอง


วิวัฒนาการความเลวของกลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุจะเปลี่ยนสภาพเป็นทีมงูเต๊ะทันที เมื่อผลประโยชน์ของขบวนการเสียหาย อย่างกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 61 เวลา 19.45 น. กลุ่มทีมงูเต๊ะ ก่อเหตุยิงนายมุตาอาลี ดีสะเอะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  จาการสอบสวนพบว่าในช่วงหัวค่ำ นายมุตาอาลี ดีสะเอะ  ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปละหมาดที่มัสยิดดารูลฮีดา บ้านคอลอกาเอ ม. 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังละหมาดเสร็จนายมุตาอาลี ได้เดินออกจากมัสยิดเดินตรงไปยังจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้ามัสยิด หลังจากนั้นมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ที่มาดักรอดูอยู่แล้ว ได้เดินเข้าไปหาและใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายมุตาอาลี ติดต่อกันหลายนัด จนทำให้นายมุตาอาลีล้มลง ก่อนจะยิงซ้ำที่ใบหน้าอีก 1 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เตรียมไว้หลบหนีไปทาง ต.ตลิ่งชัน อย่างรวดเร็ว 

นี้คือตัวอย่างของการล่าสังหารของทีมงูเต๊ะ ที่มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานด้วยการเฝ้าตรวจพฤติกรรมของนายมุตาอาลี ซึ่งมันก็เหมือนกับการก่อเหตุของ RKK โดยเฉพาะคนที่รู้การเคลื่อนไหวก็คือคนในหมู่บ้านนั่นเอง ก่อนจะมีการโทรศัพท์บอกทีมงูเต๊ะอีกทีมให้ก่อเหตุ นำมาสู่การสูญเสีย นายมุตาอาลี เป็นบุคคลสำคัญที่ทำงานให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโครงการพาคนกลับบ้านจนทำให้แนวร่วมหลายคนที่กลัวกลุ่มขบวนการและอยากจะถอนตัว มาขอให้นายมุตาอาลีช่วยเหลือ ก่อนจะเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านหลายคน  นายมุตาอาลีจึงกลายเป็นหนามยอกอกของกลุ่มขบวนการ พฤติกรรมชั่วเดิม ๆ ของกลุ่มขบวนการก็นำมาใช้กับพี่น้องมุสลิม นั้นก็คือการเลือกใช้ความรุนแรง การฆ่าคือสูตรสำเร็จของขบวนการโจรใต้นั่นเอง

นี่คือวิวัฒนาการความชั่วช้าเลวระยำของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่มีการตั้งทีมงูเต๊ะ เพื่อรักษาผลประโยชน์คุมมวลชนในพื้นที่ของกลุ่มขบวนการให้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก้มหน้ารับใช้เป็นทาสผลประโยชน์ที่แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ของกลุ่มขบวนการที่อยู่บนความสูญเสียกับคราบน้ำตาของคนในพื้นที่ โดยไม่เคยแยแสต่อความเจ็บปวดของผู้สูญเสีย ขณะที่คนที่บงการสั่งการอยู่มาเลย์กลับเสวยสุขกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ปล่อยให้ลูกน้องตัวเองก่อเหตุติดคดีหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ปล่อยให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุเดือดร้อนไร้เงินช่วยเหลือ  อดอยากปากแห้ง  ไม่ตายก็ติดคุก กลายเป็นคนโง่ทำตามคำสั่งเพราะเคลิ้มไปกับคำสวยหรูแห่งอุดมการณ์ อำนาจ และการยอมรับนับถือบนความหวาดกลัวของชาวบ้าน หาใช่การยอมรับนับถือด้วยการยกย่องอย่างแท้จริงไม่.....ยังคิดกันไม่ได้อีกหรือว่าโดนหลอกใช้บนข้ออ้างของศาสนา กับความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีอยู่จริง 

-----------------

สมาชิกพูโลและครอบครัว 103 คน ยอมมอบตัวกับ จนท.รัฐ หลังจากกบดานในมาเลย์นานหลายปี



           Pulo (พูโล) คือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต. ของประเทศไทย ส่วนหนึ่งถูก จนท.รัฐ ตามจับกุม ส่วนหนึ่งได้หลบหนีไปประเทศมาเลเซีย และใช้ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่ปะทะกับ จนท.รัฐ ไปขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาเลเซีย โดยอ้างว่าถูก จนท.รัฐบาลไทย กดขี่ข่มเหง ขอให้มาเลย์เข้ามาช่วยเหลือ และตั้งศูนย์อพยพในประเทศมาเลเซีย แต่ผิดคาด!! รัฐบาลมาเลเซียไม่เชื่อ และไล่กลับประเทศไทย แต่กลุ่มพูโลก็กลับประเทศไทยไม่ได้เพราะก่อเหตุ ก่อคดี ฆ่าคน ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก มีคดีตามหมายจับมากมาย จะขออยู่มาเลย์ เขาก็ไม่ให้อยู่ (กลับก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ถึง) ก็เลยต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ที่มาเลย์ ไม่มีบัตรประชาชน ไม่ได้รับสิทธิใดๆ อยู่แบบอดๆ อยากๆ แต่ผู้นำกลุ่มอย่างนายกัสตูรี มะห์โกตา นายใหญ่พูโล อยู่สุขสบายที่สวีเดน เมื่อเวลาผ่านไป สมาชิกกลุ่มพูโล ทยอยเข้ามอบตัวต่อรัฐบาลไทยเป็นจำนวนมาก
        นายเลาะ อายุ 65 ปี หนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ตนเองได้หนีไปมาเลเซียเมื่อสามสิบปีก่อน จนมีลูกหลานรวมหลายสิบคน
        สามสิบปีแล้วที่เราไม่ได้กลับบ้าน หนีไปอยู่มาเลย์จนมีลูก 5 คน ตอนนี้มีหลานอีกหลายสิบคน วันนี้ก็ได้กลับมาหมดแล้ว ได้เจอญาติ ลูกก็ได้กลับบ้าน และจะมีเอกสารสิทธิ์ว่าเป็นคนไทยนายเลาะ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
        "ดีใจมาก ขอบคุณโครงการนี้ที่ทำให้ได้กลับบ้านสิ่งที่อยากได้ หลังจากนี้ คืออาชีพ ถ้าเป็นไปได้อยากได้อาชีพที่อยู่ใกล้เขตแดนไทยมาเลย์ เพราะพอมีลู่ทางทำมาหากินได้บ้าง ที่สำคัญ สามารถคุยกับคนอื่นที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการให้กลับเข้ามาร่วมโครงการได้ด้วย  เพราะจะเดินทางง่ายและสะดวก" นายเลาะ กล่าวเพิ่มเติม
        ส่วนหลานสาวของนายเลาะ กล่าวว่า "ดีใจมากที่ได้กลับมา ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมา อยู่ที่โน่นก็เรียนหนังสือไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้กลับมาตั้งใจจะเรียนหนังสือ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เขาได้กลับบ้าน"
        พูโล ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน 3 จชต. ของประเทศไทย แต่หากมีอีกหลายกลุ่มที่ก่อเหตุฆ่าผู้บริสุทธิ์ สร้างสถานการณ์ความรุนแรง แย่งชิงอำนาจกันเอง ก่อให้เกิดความเสียหาย และสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ติดตามจับกุมกลุ่มก่อความไม่สงบเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง บ้างก็ถูกจับกุมและส่วนหนึ่งก็หนีไปต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าผู้นำแต่ละกลุ่มจะไม่มีใครอยู่ในประเทศไทย จะคอยสั่งการด้วยการติดต่อสื่อสารจากต่างประเทศ มาเป็นระยะๆ อย่างที่เคยได้ยินกันว่า ลูกน้องถูกจับ บ้างล้มตาย แต่ลูกพี่กินนอนสุขสบายที่ต่างแดนบทบัญญัติจากพระเจ้าไม่เคยมีว่าให้ฆ่าคนหรือทำชั่วแต่อย่างใด มีเพียงบทบัญญัติจากพวกผู้นำกลุ่ม แกนนำขบวนการฯ เท่านั้นที่กำหนดขึ้นมาเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดม ชักชวนมวลชนให้หลงเชื่อ และคล้อยตาม แต่ผลสุดท้ายก็ต้องถูกจับกุม หรือไม่ก็ตาย รับกรรมกันต่อไป
        สมาชิกกลุ่ม หรือแนวร่วมขบวนการฯ ส่วนที่ยังหลงเหลือหรือหลบหนีอยู่ จงใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ว่าอะไรถูก อะไรผิด ท่านจะยังเชื่อผู้นำหรือแกนนำของท่านอยู่อีกหรือ สิ่งที่ท่านได้มาคืออะไร ติดคุก ความตาย เพียงแค่นั้นหรือที่ท่านจะได้รับ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะกลับตัวกลับใจและยอมมอบตัว

5/16/2561

ไม่มีพระเจ้าองค์ใด สอนว่าฆ่าคนแล้วจะได้บุญ



        คงจะมีแต่พวกบิดเบือนและปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น ที่ต้องการปลิดชีวิตผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง อย่างนั้นหรือที่จะได้บุญ ได้ขึ้นสวรรค์ ถามหน่อยซิ ใครสั่งใครสอนมา....
        การฆ่าคนนั้นถือเป็นบาปที่หนักมาก ไม่มีทางที่จะฆ่าคนแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ หรือได้บุญ คงเป็นไปไม่ได้ นอกจากพวกแกนนำขบวนการฯ ที่อ้างว่าถ้าฆ่าคนแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ มีนางฟ้า 72 นางรออยู่บนสวรรค์ ด้วยหลักความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แน่นอน ชีวิต 1 ชีวิต ไม่ว่าจะเล็กหรือน้อยก็คือ 1 ชีวิตเท่ากัน
        เดือนรอมฎอนถือว่าเป็นเดือนแห่งบุญของชาวมุสลิม แต่กลุ่มขบวนการฯ มักจะบิดเบือน ปลุกระดมให้แนวร่วมก่อเหตุและลงมือเข่นฆ่าผู้คนในห้วงเดือนรอมฎอนนี้ โดยอ้างว่าจะได้บุญและถึงสวรรค์เร็วขึ้น นั่นคือความชั่วช้าของขบวนการฯ ที่ต้องการให้คนไทยแตกแยกกันเอง หลายคำสอนที่บิดเบือน เช่น การถมน้ำลายเมื่อเจอชาวไทยพุทธ แล้วจะทำให้คลายบาปของตน, หรือสั่งสอนให้ฆ่าพ่อฆ่าแม่ตนเอง ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเดียว คำสอนจากกลุ่มขบวนการฯ นั้นเป็นเพียงแค่จิตวิทยาในการลวงหลอก เพื่อชักจูงเยาวชนให้เข้าเป็นมวลชนและกลายเป็นแนวร่วมก็เท่านั้นเอง
        เร็วๆ นี้ก็จะถึงเดือนรอมฎอน เดือนอันประเสริฐของผู้นับถือศาสนาอิสลาม รอมฎอนเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งยึดตามจันทรคติ ชาวมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอดประจำปีในช่วงเวลากลางวันของเดือนนี้ โดยพวกเขาจะอดอาหารตั้งแต่แสงอรุณขึ้นไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน การถือศีลอดมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงออกถึงความศรัทธา ซื่อสัตย์ มุ่งหวังความใกล้ชิดกับองค์อัลเลาะห์ และเป็นการย้ำเตือนให้ชาวมุสลิมระลึกถึงความลำบากของบุคคลที่ด้อยโอกาสกว่า ดังนั้นในเดือนนี้มุสลิมจึงมักบริจาคให้องค์กรการกุศลและเลี้ยงอาหารแก่ผู้หิวโหย การถือศีลอดคือการฝึกในการข่มใจตนเอง ทั้งเป็นการชำระร่างกายและจิตวิญญาณ รอมฎอนเป็นเวลาที่จะปลีกตัวจากความสุขทางโลก และมุ่งเน้นการเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยการละหมาดและขอพร ชาวมุสลิมจำนวนมากจะใช้เวลามากขึ้นที่มัสยิดมากกว่าในช่วงเวลาอื่นๆ ของปี การถือศีลอดในช่วงรอมฎอนเป็นหนึ่งในเสาหลักของศาสนาอิสลามเสมือนกับการละหมาดทุกวัน 5 เวลา และการไปแสวงบุญฮัจญ์ที่นครเมกกะห์ เป็นต้น
        ความจริงนั้นทุกคนสามารถคิดเองและมองเห็นอยู่แล้ว ว่าอะไรคืออะไร ไม่มีพระเจ้าองค์ใดสอนให้ฆ่าคนแน่นอน อย่าหลงเชื่อคำลวงจากขบวนการฯ เราควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดอย่าให้ไปข้องเกี่ยวกับขบวนการฯ เด็ดขาด และรอมฎอนนี้หวังว่าทุกคนจะได้รับบุญกันถ้วนหน้า