1/08/2562

ภัยแทรกซ้อนกับปัญหา จชต.

ลมใต้ สายบุรี


          การแก้ปัญหา จชต.ของภาครัฐ มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติด้วยการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนอย่างเป็นเอกภาพ ส่งผลให้ภาพรวมของสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเร่งด่วน ของแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พลโท พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ประกาศเจตนารมณ์ “พร้อมจัดการกับทุกปัญหาที่เป็นทุกข์ของพี่น้องประชาชนเพื่อนำสันติสุขกลับคืนมาโดยเร็ว” ปัญหาหลักที่เป็นทุกข์ของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ “ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด”  
นโยบายปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดเริ่มเห็นผลจากการดำเนินการเร่งด่วนใน 2 เรื่อง คือ การควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัย โดยใช้ยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจ ดำเนินการอย่างจริงจังนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดพร้อมยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ผู้เสพเปรียบเสมือนผู้ป่วยที่จะต้องได้รับการรักษาได้แจ้งความจำนงเพื่อเข้ารับการบำบัดพร้อมกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมกลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัวอันอบอุ่น
หลายพื้นที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่เป็นตัวการระดับเอเย่นต์ พร้อมกับยึดอาวุธปืนสงครามได้เป็นจำนวนมาก เครือข่ายเหล่านี้บ่อนทำลายลูกหลานพี่น้องประชาชนให้ตกเป็นทาสยาเสพติดยังไม่พอ กลับทำลายสังคมทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง มีส่วนคอยเติมเชื้อไฟใต้เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับขบวนการ BRN ใช้เงินจากการค้ายาเสพติดจัดซื้อหาอาวุธปืน วัตถุในการประกอบระเบิดกลับมาก่อเหตุรุนแรง คล้ายเป็นวงจรอุบาทว์ที่เชื่อมโยงกันระหว่าง BRN – ผู้ค้ายาเสพติด – ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
เช่นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อน และอาจให้การสนับสนุนกลุ่ม ผกร. ในพื้นที่ได้จำนวน 3 ราย ซึ่งทั้ง 3 ราย มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร อ ตรวจค้นที่พักพบ เงินสด จำนวน 1,000,000 บาท มัดด้วยถุงดำชุกซ่อนในรถ จอดอยู่ภายในบ้าน พร้อมรถยนต์ จำนวน 3 คัน และบัญชีรายการของผิดกฎหมาย                  
จากการสอบสวน 2 ใน 3 ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และให้การยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ ทำหน้าที่ส่งเงินบริเวณท่ายามู ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ให้กับชายไม่ทราบชื่อและภูมิลำเนา อีกทั้ง 1 ใน 3 ให้การยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อน และการค้าบุหรี่หนีภาษี
ส่วนนาย อีกหนึ่งคนได้ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และไม่เคยเกี่ยวข้องกับภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ จชต.ให้การยอมรับว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด (ผงขาว) แต่ให้ข้อมูลแหล่งซุกซ่อนกระสุนปืน ในพื้นที่ ต.กาวะ อ.สุไหงปาดีฯ ฝังเก็บไว้ในดินบริเวณหลังบ้านขนาดต่างๆ จำนวนร้อยกว่านัด
จากข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ยังพบบัญชีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่มีส่วนพัวพันกับปัญหาภัยแทรกซ้อนเชื่อมโยงกับ ผกร. เป็นท่อน้ำเลี้ยงไฟใต้ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถใช้กฎหมายการฟอกเงินนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ทันที ต้องทำการขยายผลทำการกวาดล้าง เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป หากท่านต้องการให้เหตุการณ์ จชต.สงบ จึงกำจัดวงจรอุบาทว์นี้ให้หมดไป
----------------------

فاسوقكن كاولن تمفتن، قوات، كاوسن سلامت.



هاري اين كيت سوده ملاتيهكن فلان فربواتن بالس كجادين. ماسيغ-ماسيغ برادادتاهف مريك سنديري. سلفس ببراف كتيك، فنجاهت تله ممختكن بوم دهلو. ستيف تمفت يغ مريك برادا, مريك اكن منمبق سلالو. تتافي سموااورغ سوده براداددالم تاهف مريك سنديري. مك مماسوقكي اي ددالم تاهف سنديري. كيت تيدق دكتهوي اكن بهواسث دمان كه اره يغ مريك برداتغ. كيت اوسهااونتوق براداددالم تاهف سنديري دان منمبقله كيت دغن برتروسن اونتوق مناكوتكن اونتوق تيدق ممبياركن مريك داتغ كفغكالن كيت. ارتيث اوسهااوليه كيت اونتوق مناكوتكن مريك ايت.
      درفد كأدأن ئانس يغد جاتوهكن اوليه فنجاهت سماس فرايأن تاهون بارويغ مريك ماهواونتوق مغورغكن كيقينن اوليه اورغرامي اكن فئاوي كراجأن دان مريكئيت ماهواونتوق مموسنهكن ايكونومي دان فلنخوغن دولاية سمفادن سلاتن. سموافئاوي تله دسرتأي 3 فيهق سرتادغن سيكتورعوام تله ملقساناكن توئس اوليه مريكئيت دغن فرفادوان دان قوات اونتوق منخئه دان مثلسيكن مساله ئانس.
      اداله داغئف اكن بهواسث اخارااين اداله فريستيوايغ تيدق دافتكن فمبريتاهوان مغنأي بريتاسلاماكيرا-كيرا 5 – 6 بولن. دان كيت تيدق دافتكن بريتاتنتغ فرئرقكن اين سبلومث. تاهون اين، منكل برلاكوكن كجادين سفرت اين مك كيت اكن مغمبيل ففيجت يغ تله برلاكواين اونتوق ممفربأيقكي اونتوق مثدياكن لغكه-لغكه فنخئهن ستروسث.
      سلفس كجادين ايت، جين.افيراك ئوغ سومفوغ ( فغليماتنترادارت دان نائب مديركسلامتن دالم نئري)دان جماعة ث برداتغ ككاوسن اونتوق ممنتأوكأدأن دان منزيارة دان برسائوهاتي دان منأيقكي سماغة بائي فاسوقكن فرليندوغن مقيم كاليسايغ بوليه مغكلكن اكن كوبوث دان برجواغ اكن فنكئانسن دغن تيادادااورغ ترساكيت دان تربونوه دان ستيف اورغ ممفوثأي سماغة يغ ساغت بأيك يغ برسديااونتوق مليندوغي كاوسن سفاي اورغ-اورغ تردافت هيدوف دغن دامي دان مغمباليكن كدامين كهوجوغ هولوكافق. اين اداله عمالن يغ موجودكن كيقينن كفد رعية دولاية سمفادن سلاتن.
      عسكر-عسكردان سوكاريلاون مغكلكن نئري دان فندودوق كمفوغ تله ممبنتواونتوق مننتغ دان سموااورغ سلامت. سلأين ايت، كومفولن ئانس تله مرمفسكن فوست كصيحتن اونتوق منجادي كاوسن عمالن دان دسيتوادافرمفوان سهاج. والوبائيمان فون، تريماكاسيه كفد تنتراهيتم يغ فد ماس اين تنتراهيتم ايت تله ممروندادان تيدوردلوارفغكالنث مك دالم حال بنتوان دالم عمالن سوكوغن ايت بوليه برعملكن دغن خفت. اوليه ايت، تريماكاسيه كفد فغليمابسرولاية ك-4 دان سئل فغليماكاوسن.
      حاصل درفد سموافيهق بكرج سام دالم منجائ كن كاوسن ايت مك بوليه دئنتوغكن اكن فريستيواايت دان بوليه مغورغكن اكن كهيلاغن ثاوادان هرتابندافد باثق كالي. فاسوقكن سيكتورعوام داغئفكن سبائي كواس يغ فنتيغ اونتوق منجائ كاوسن مريك سنديري سرتادغن فئاوي كراجأن بكرج دغن برهاتي-هاتي اونتوق سموااورغ دافت هيدوف دغن سلامت دان ممباواكدامين كمبالي ككاوسن ستروسث.


1/05/2562

บทวิเคราะห์คำแถลงการณ์ของ“อับดุลการิม คาลิด” โฆษก BRN

          
          กรณีเว็บเพจ Berita Bumi Patani  ได้ทำการโพสต์คลิปวีดีโอ นายอับดุลการิม    คาลิด โฆษก BRN ได้ประกาศชัยชนะในการต่อสู้ในภาพรวม จากรุ่นสู่รุ่นเป็นระยะเวลา 100 ปี ที่บรรพบุรุษได้ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิและอัตลักษณ์เพื่อลูกหลานของชาวปัตตานี  อีกทั้งได้พยายามชี้นำ ให้เห็นว่า การต่อสู้ดังกล่าวได้รับชัยชนะเหนือรัฐบาลไทย   จนทำให้คนมลายูได้ผลประโยชน์มากมายที่ตามมา  จนลืมกล่าวถึงผลเสียหรือความเสียหายจากการกระทำรุนแรงที่ผ่านมา  ผมในฐานะคนกลางที่อยู่ในพื้นที่มานาน  ขอแสดงความคิดเห็นเชิงเปรียบเทียบในคำแถลงการณ์ดังนี้
      ๑.ประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อโน้มน้าวให้พี่น้องชาวปาตานีเข้าร่วมต่อสู้  เพื่อความยุติธรรมกับขบวนการ  อ้างถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๒๘ ที่บรรพบุรุษพยายามต่อสู้มาอย่างยาวนาน  โดยให้กำลังใจว่า สักวันชัยชนะจะเป็นของเรา อีกทั้งยังเรียกร้องไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลไทย  ตลอดระยะเวลา 15 ปีกับความร่วมมือของประชาชนที่ยอมเสียสละเพื่อร่วมกันต่อสู้   ชาวปาตานีไม่เคยได้อะไรจากสยาม แต่สยามกลับให้เราเอง
  ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า  พยายามหยิบเอาประวัติศาสตร์มาปลุกระดม  ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่ก็รู้เรื่องนี้ดี ผ่านเอกสาร หนังสือ ที่ผู้รู้ นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์นำเสนอไปแล้วว่า เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านของรัฐบาลสยามกับการชยายอิทธิพลของรัฐบาลอังกฤษกับฝรั่งเศส ที่ต้องการแสวงหาอำนาจและดินแดนในภูมิภาคนี้  จนส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการของผู้ปกครองทั้งของสยามและมลายูในเวลานั้น  จุดยืนของ BRN ยังคงต้องการแบ่งแยกไทย-พุทธ จึงพยายามบอกว่า ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย  ทั้งๆที่รัฐได้นำโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  เมืองต้นแบบ โครงการเมืองมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รายได้ ระบบเศรษฐกิจ   รวมทั้งพัฒนาระบบการศึกษา  สิ่งที่ยืนยันได้คือ ห้วงที่ผ่านมามีคณะทูตขององค์กร OIC และผู้นำศาสนาจากต่างประเทศ ได้เดินทางมาเยี่ยมชม/พบปะพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ จชต.ยังกล่าวชื่นชมรัฐบาลไทย  รวมทั้งหน่วยงานของรัฐที่ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี  อาจจะดีกว่าบางประเทศมุสลิมด้วยกันอีก
 ๒. ประเด็นการต่อสู้ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลไทยต้องหวาดกลัว  ต้องส่งกำลังทหารมาดูแลความไม่สงบ   จึงต้องขอการสนับสนุนจากมวลชนในการต่อสู้ต่อไป
ข้อนี้รัฐบาลไทยไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไร  แต่เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย  เพื่อให้ ปชช.ได้ดำเนินชีวิตเป็นปกติสุข  รัฐมีความพร้อมทั้งกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และศักยภาพที่เหนือกว่า    แต่รัฐไม่ต้องการใช้ความรุนแรง ใช้หลักสันติวิธี  หลักการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม   มีหลายโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้หลงผิดหรือถูกทอดทิ้งจาก BRN เข้าร่วมกับรัฐ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ปชช.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยจากการใช้ความรุนแรง  การแสดงออกของชาวบ้านที่ออกมาไม่เห็นด้วยที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ จำนวนมาก  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกมาประณาม ผกร.ที่เข้าใช้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเป็นที่โจมตีต่อชุดคุ้มครองตำบลกาลิซาที่ผ่านมา  อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่เข้มแข็งขึ้นในการที่ช่วยเข้าเวรยามของ ชรบ. อรม. และกำลัง อส. ตัวอย่างชัดเจนที่นำกำลังมาช่วยสู้กับ ผกร.ในการโจมตีฐาน ชคต.กาลิซา
๓. ประเด็นที่มี BRN เข้ามาแสดงบทบาทใน จชต.ทำให้รัฐต้องมาสนับสนุนการพัฒนามากขึ้น  สร้างอาชีพให้กับคนมุสลิมในการเป็นครู  การรับราชการ นักธุรกิจ  จัดการศึกษาดีขึ้น
ข้อนี้ลองทบทวนในมุมกลับ  ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงใน จชต.สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นมากกว่าในปัจจุบัน เช่น การลงทุนมากขึ้นทำให้เศรษฐกิจดี  รายได้ของคนที่ค้าขายหรือทำงานก็มากขึ้น  นักท่องเที่ยวมากขึ้น  ระบบการพัฒนาการศึกษาโปร่งใสขึ้น  โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  พัฒนาเมืองของรัฐบรรลุเป้าหมายที่วางไว้  สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือการนิยมความรุนแรง  การแบ่งแยก ความหวาดระแวง  ความเชื่อมั่นของสังคมภายนอก  คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ทราบดีว่า ใครอยู่เบื้องหลังอุปสรรค  แต่ BRN เป็นองค์กรลับ  ไม่ยอมรับและเปิดเผยในสิ่งที่กระทำ
๔. ประเด็นที่รัฐบาลไทยไม่จริงใจที่จะแสวงหาสันติภาพ  และมองว่าเป็นปัญหาภายในประเทศ
 ข้อนี้จะเห็นว่า ปัญหา จชต.รัฐบาลได้ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาหลายระดับ ทั้งหน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานในพื้นที่  รวมทั้งการจัดสรรประมาณลงมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งในมิติความมั่นคง  การพัฒนา  การอำนวยความยุติธรรม  การเสริมสร้างความเข้าใจทั้งในและต่างประเทศ  เพื่อต้องการให้พื้นที่ จชต.กลับสู่ความสงบ  ปชช.อยู่ร่วมกันแบบพาหุวัฒนธรรมร่วมอย่างปกติสุข  อีกทั้งคณะพูดคุยสันติสุขในระดับรัฐบาลและระดับพื้นที่กำลังขับเคลื่อนหาแนวทางการพูดคุยกับฝ่ายเห็นต่างทุกกลุ่ม ผ่านทางผู้อำนวยความสะดวกฝ่ายมาเลเซียในขณะนี้  ถ้ามองอีกมองหนึ่งหาก BRN ไม่นิยมความรุนแรง  ต้องหันกลับมาใช้แนวทางสันติวิธีโดยเข้าร่วมการเจรจากับคณะพูดคุยสันติสุขที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

12/30/2561

เจาะลึกเหตุระเบิดชายหาดสมิหลา จ.สงขลา



 แบมะ  ฟาตอนี

กรณีกลางดึกของวันที่ 26 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.สงขลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือกทอง และรูปปั้นหนูกับแมว ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร และเป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแหลมสมิหลารายละเอียดตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนทุกแขนงที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว
หากวิเคราะห์เจตนาของคนร้ายในการก่อเหตุระเบิดดังกล่าว ต้องการกระทำต่อเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์โดยไม่หวังผลต่อชีวิต เพื่อเรียกราคาให้ BRN ในเวทีการพูดคุยกับรัฐบาลไทย อีกทั้งยังต้องการแสดงศักยภาพในการใช้กำลังความมีตัวตนของขบวนการ ที่สำคัญหวังผลทำลายเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวและ บรรยากาศปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง
ในรูปของคดีเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบจากพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังมีการสืบสวนข้อมูลเชิงลึก  พบข้อมูลว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านควนหรันและอำเภอหนองจิกเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว ส่วนการตรวจสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นระบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกาข้อมือ Casio มีรายละเอียดเฉพาะที่สอดคล้องกับรูปแบบที่เคยใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ปัตตานี
          การก่อเหตุในครั้งนี้ยังแอบแฝงการเชื่อมโยงกับพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหะยีสุหลง พร้อมกับนายอาหมัด โต๊ะมีนา บุตรชายคนโตวัย 15 ปี และพวกอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน ก่อนที่ทั้งหมดจะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย บริเวณเกาะหนู เกาะแมว ตามความเชื่อของกลุ่มมวลชน ผกร. อาจเป็นสาเหตุว่า  BRN ถึงได้ทำการก่อเหตุลอบวางระเบิดรูปปั้นนางเงือกทอง และรูปปั้นหนูกับแมวให้ได้รับความเสียหายโดยไม่หวังผลต่อชีวิต เพื่อสร้างให้มวลชนได้ระลึกถึงอุดมการณ์ของหะยีสุหลงในอดีต
การกระทำของ BRN ในการลอบวางระเบิดในครั้งนี้ BRN หวังผลทำลายแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความหวาดกลัว และทำลายบรรยากาศการเฉลิมฉลองในห้วงปีใหม่ หลายครั้งในการก่อเหตุที่ผ่านมาไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จชต. และ อ.หาดใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนบริสุทธิ์ ไทยพุทธ-มุสลิม, เด็ก-สตรี บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
จังหวัดสงขลาเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมสันติสุข มีประวัติศาสตร์การอยู่ร่วมกันของพี่น้องไทยพุทธ-มุสลิมที่สวยงามมาช้านาน ซึ่งความหลากหลายด้านเชื้อชาติศาสนาดังกล่าวมิได้เป็นอุปสรรคหรือปัญหาของการอยู่ร่วมกันแต่อย่างใดต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มีแต่ความรักสมัครสมานสามัคคีคอยช่วยเหลือเจือจุนกันภายใต้ความแตกต่าง โดยเฉพาะหาดสมิหลาแล้วถือได้ว่าเป็นชายหาดแห่งพหุวัฒนธรรม และเป็นแหล่งทำกินที่สุจริตของพี่น้องไทยพุทธมุสลิม แต่ BRN ที่เป็นแกนของกลุ่มแนวคิดรุนแรง พยายามแบ่งแยกสังคม ศาสนา และทำลายระบบเศรษฐกิจร่วมกันของคนพุทธ-มุสลิมในพื้นที่ดั้งเดิม
อยากเรียกร้องไปยังสังคม คนไทยที่รักชาติไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน สัญชาติใด ร่วมกันเรียกร้องความรับผิดชอบจากการกระทำดังกล่าวของ BRN ไปยังตัวแทนการพูดคุยฯ ฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ และที่สำคัญผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขในฐานะคนกลางช่วยกันกดดัน BRN หยุดพฤติกรรมป่าเถื่อน หยุดกระทำความรุนแรงต่อผืนแผ่นดินไทยเสียที สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมุ่งหวังเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายต่อแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว และยังทำลายบรรยากาศในการท่องเที่ยวห้วงเทศกาลปีใหม่ใกล้มาถึง ทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันประณามการกระทำที่สุดโต่ง ไร้ซึ่งมนุษยธรรม  จึงสมควรต้องได้รับการประณามจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง….ต่อไป

12/25/2561

"ฮากิม พงตีกอ" เป็นเครื่องมือในกล่าวปาฐกถาให้ใคร?



ผู้ที่ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "สิทธิทางการเมืองว่าด้วยการกำหนดชะตากรรมตนเอง" เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมซึ่งตรงกับ "วันสิทธิมนุษยชนสากล (International Human Right Day)" ซึ่งสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี PerMAS ได้จัดกิจกรรมในหัวข้อ "สิทธิทางการเมืองกับทางออกสงครามปาตานี" ที่ร้านหนังสือบูคู จ.ปัตตานี
นักเคลื่อนไหวฝีปากกล้ากับการอ่านโผที่มีคนจดให้อ่านคนนั้น คือ นายฮากิม พงตีกอ หรือ นายฮากิมบินอับดุลเลาะห์ พงตีกอ คณะกรรมการกำกับยุทธศาสตร์ The Patani มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 29/33 บ้านทุ่งไทรแจ้ หมู่ที่ 5 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จบการศึกษา  ปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายฮากิม ฯ เป็นแกนนำของกลุ่มนักศึกษาใน พื้นที่ จชต. ที่เคลื่อนไหวในปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน จชต. โดยมีตำแหน่งต่าง ๆ ห้วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย ผู้ประสานงานภาคใต้ สนนท. รองเลขาธิการ สนนท./กรรมการบริหาร สนนท. แกนนำสหพันธ์นิสิตนักศึกษา 3 จชต. และผู้ประสานงานกลุ่ม PERMAS /รองประธานคนที่ 1 กลุ่ม PerMAS
การกล่าวปาฐกถาของนายฮากิมฯ ที่สำคัญเช่น....เพราะสิทธิทางการเมืองต่อการนิยามตัวเอง (Right to identification) คือสิทธิขั้นโคตรพื้นฐานที่สุดแล้ว ที่เรียกร้องให้ “คนอื่น” ยอมรับและมองว่าเราเป็นชาวปาตานี...
เราอยากมีธงชาติของตัวเองเหมือนสหายนักสู้คาตาลันที่มีธงชาติของตัวเอง...เราเชื่อว่าเราสามารถชวนเพื่อนที่ติดอาวุธใน PULO, B.R.N. หรืออื่นๆ มาเป็นสมาชิกแล้วหันมาใช้แนวทางทางการเมืองร่วมกันภายใต้หลักการสภาประชาธิปไตย ภายใต้หลักการสิทธิเสรีภาพทางการเมือง RSD และอยากแสดงให้คนปาตานีเห็นว่าแนวทางทางการเมืองมันก็ต่อรองแทนแนวทางอาวุธได้......
ที่กล่าวมาคือบางส่วนในการกล่าวปาฐกถาของนายฮากิมฯ ปัจจุบันพฤติกรรมเป็นเช่นไร ต้องการอะไร อนาคตจะได้หรือไม่? สรุปแล้วก็เป็นการชี้นำให้ความหวังกับแนวร่วมเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ความรู้สึกที่อึดอัดที่อยู่ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่พอใจกับการถูกกดดันจากรัฐบาลทหารภายใต้ยุค คสช. ในปัจจุบัน แต่อย่าลืมว่า Road Map การเลือกตั้งจะคืนสู่ประชาชนในการออกเสียง เพื่อเลือกตั้ง สส. ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
เขาก็คงเป็นหุ่นชูโรงให้ฝ่ายที่เห็นต่างจากรัฐมาทดสอบความเป็นผู้นำในการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มขบวนการนั่นเอง เขามาจากไหน เขามีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม ผกร. ที่ผ่านมาด้วยการใช้บ้านพัก ณ ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นสถานที่พักพิงของสมาชิก ผกร. มาโดยต่อเนื่อง เนื่องจากบ้านพักติดกับหลักเขตแดนไทย–ประเทศมาเลเซีย เขาเคยให้การสนับสนุนที่พักพิงกลุ่ม ผกร. ที่ทำการก่อเหตุแล้วหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังประเทศมาเลเซีย หรือผู้ที่เดินทางมาจากมาเลเซียมายังประเทศไทยเพื่อเตรียมตัวก่อเหตุ นี่คือความเชื่อมโยงเบื้องต้นเท่านั้น


----------------------------------------

12/21/2561

ทิศทางขับเคลื่อนของ "กลุ่มเปอร์มาส" ณ วันนี้




กรณีเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมซึ่งตรงกับ "วันสิทธิมนุษยชนสากล (International Human Right Day)" สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี PerMAS ได้จัดกิจกรรมในหัวข้อ "สิทธิทางการเมืองกับทางออกสงครามปาตานี" ได้มีการปาฐกถาในหัวข้อ "สิทธิทางการเมืองว่าด้วยการกำหนดชะตากรรมตนเอง" โดย นายฮากิม พงตีกอ คณะกรรมการกำกับยุทธศาสตร์ The Patani อีกทั้งยังมีการเสวนาในหัวข้อ "สิทธิทางการเมืองกับทางออกสงครามปาตานี" มีนายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ ประธานมูลนิธินูซันตารา Nusantara Patani นายรอมฎอน ปันจอร์ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ Deep South Watch นายฮาฟิส ยะโกะ ประธานสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี PerMAS เป็นวิทยากรร่วมเสวนา
การเคลื่อนไหวชองสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีหรือ PerMAS ในครั้งนี้ ต้องการประกาศให้แนวร่วมในพื้นที่รับรู้ถึงจุดยืนในการเดินหน้าขับเคลื่อนในเรื่อง การกำหนดใจตนเอง ( Right to Self Determination - RSD) ที่มีเป้าหมายคือ "เอกราช" หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นเขตปกครองพิเศษในอนาคต อีกทั้งยังมีความเกี่ยวโยงงานการเมืองหนุนสร้างพรรคมลายูมุสลิมให้เป็นตัวแทนของคน จชต. อย่างแท้จริง
การโฆษณาชวนเชื่อมีการปลุกกระแสมวลชนโดยใช้ "RSD" เป็นตัวล่อขุดหลุมพรางให้เยาวชนตกเป็นแนวร่วม ซี่งการกำหนดใจตนเองในประเทศไทยไม่สามารถกระทำได้เป็นที่ทราบกันดี แต่กลุ่ม PerMAS ยังเดินหน้าใช้เป็นเครื่องมือ มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์โจมตี ลดความน่าเชื่อถือของกฎหมายไทยและกฎหมายพิเศษใน จชต. โดยเฉพาะเหตุวิสามัญฆาตกรรมที่มีความเคลือบแคลงสงสัยต่อสายตาประชาชน รวมทั้งเหตุฆ่ากันตายรายวันมีการโยนผิดว่าเป็น "ทีมงูเต๊ะ" ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐออกล่าทำร้ายประชาชน
ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่ผ่านมาของกลุ่ม PerMAS ในการจุดกระแส "RSD" จากการส่งผ่านรุ่นสู่รุ่นผลัดกันขึ้นมาบริหารกำหนดยุทธศาสตร์ต่อสู้กับรัฐไทยด้วยการเดินเกมเคลื่อนไหวงานการเมือง มีการชิงไหวชิงพริบหยิบยกเหตุการณ์ที่มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึก จี้ให้รัฐไทยยอมรับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (IHL) พร้อมเปิดเวทีเรียกร้องในการขอคืนดินแดนมลายูปาตานีคืน
นั่นคือยุทธศาสตร์และแนวทางที่กลุ่ม PerMAS พยายามขับเคลื่อนหาแนวร่วมในพื้นที่เพื่อเดินไปสู่จุดหมายโดยใช้ RSD แต่ในขณะเดียวกันบรรดาแกนนำและสมาชิก PerMAS ในเบื้องลึกกลับมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อย่างแยกกันไม่ออก หรือตัวอย่างในอดีตที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ยะลา สมาชิก PerMAS กลับเป็นผู้ลงมือทำการก่อเหตุลอบระเบิดทำร้ายประชาชน เช่นตัวอย่างในอดีตที่ผ่านมาเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2558 จำนวน 44 จุด รวม 56 ลูก ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 18 ราย ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายอับดุลฟาริด สะกอ, นายไซดี ทากือแน, นายซอบรี กาซ และนายแยสฟรี หะยีปูต๊ะ นำไปสู่การจับกุมตัวส่งดำเนินคดีฟ้องต่อศาล
นั่นคือยุทธศาสตร์และแนวทางที่กลุ่ม PerMAS พยายามขับเคลื่อนหาแนวร่วมในพื้นที่ เพื่อเดินไปสู่จุดหมายโดยใช้ RSD แต่ในขณะเดียวกันบรรดาแกนนำและสมาชิก PerMAS ในเบื้องลึกกลับมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อย่างแยกกันไม่ออก

----------------------

11/24/2561

المشاركة المجتمعية في حل مشكلة المحافظات الحدوديات الجنوبيات.


القضية صفحة: مكتب الإعلام Wartani. نشرون المشاركات "اعتقال متطوع شبكة الخياطة منظمة Perwani (منظمة نساء باتاني) ". يحدث هذا الحدث في 25 أكتوبر 2018. الساعة 02:00 مساء. ضابط ثلاثة وكالة بقيادة الشرطة مركز شرطة ناراثيوات والوحدة الخاصة الجندي الأسودتانجونج مس والقسم الإدارة حوالي 15 سيارة التيلا أعرف العددالقوات الدقيق. كانوا حاصرا منزل رقم 59، المكان الرابعة، القرية بوغو، المركزراغيق، المحافظة ناراثيوات لقد أظهروا أنفسهم ويطلبون التحقق المنزل و يدعون الأعضاء الحاضرين في المنزل في ذلك الوقت لنزهة. وفي ذالك الوقت، أجرى الموظفون التحققون  في الداخلي المنزل.
      وقالالصفحة: مكتب الاعلامي Wartaniبأن من التحققلم عثورالأشياء المشبوهةأو أي شيء غير قانوني و لكن السلطات استولت 1 هاتف وكان الهاتف المذكورة يملك للأخ الأصغر لمالك المنزل الذي مات. فلذالك احتجز المسؤولون المالك المنزل هي خديجة  جيءلونجإلى وحدةالخاصة تنجونج مس للإاستفسار ثم في حوالي الساعة 06.00 مساء في نفس اليوم أرسلها إلى المعسكرإنغأيوتتأبوريحان، المحافظة باتانيلتوسيع التأثير. و الآن ، خديجة  جيءلونج كان لا يزال محتجزًا في معسكر إنغأيوتتأبوريحان، المحافظة باتاني وما زلنا لا نعرف مصيرها.
      المشاركات  المذكورة من صفحة: مكتب الاعلاميWartaniيريدون تدمير البرفي إنفاذ القانون من مسؤولي الدولة. خصوصا احتجاز خديجة جيءلونج التي هي نساء التي حساسة للمشاعروالحملة بالدعائية لتوجيه العقل لأولئك الذين يتابعون الأخبار موافقا.
جو المرحلة الكشف الحقيقة.
      في 6 نوفمبرالماضي.  وحدة خاصة الجندي الأسود 45 تعيين مرحلة "كشف الحقيقة" في القضية دعوة خديجة جيءلونج إلى مركز الأسئلة، وحدةالذكاء العسكري (القسم الجبهة)،المحافظات الحدوديات الجنوبيات، المعسكرإنغأيوتتأبوريحان، القرية بوتونج، المركزنونج جيك، المحافظة باتاني في 25 أكتوبر 2018 ،بينضمون مسؤولون حكوميون والزعماء الدينيين وأقارب خديجة والقرويون في المجتمع حضروا حوالي 200 أشخاص في مسجدالقرية بوغو، المكان 4 ، القرية بوغو، المركزراغيق، المحافظة ناراثيوات لتوضيح سبب حاجة الضابط إلى احتجاز خديجة بسبب الاشتباه في أنها يشارك وارتبط الحادث أطلق النار على أحمد حأسامات في المركزجارنج، المحافظة باتاني في 17 يناير 2018 بحكم المادة 8 و 15 مكرر من الأحكام العرفية 2457 ب.
       يبدأالمرحلة من القادة وحدة الخاصة الجندي الأسود45 وأوضح بسبب احتياز "خديجة"لطرح الأسئلةلأن أخذت خديجة الهاتف من شقيقها الأصغرالتي مات للإستخدام. وإذايفحص الفني فوجد أنها الارتباط بقائد العنيفين. فيجب أن أدعوهالشرح للمسؤلين ثم قالت "خديجة" بأن في خلال الاحتجاز فيهتمون الموظفون بجيدة بين عملية الاستفسارو لا يعتقد أنها سيتم الاعتناء من المسؤلين برعاية جيدةمثل هذا. في المرحلة ، سألت خديجة القائد وحدة خاصة الجندي الأسود45 ستدعوهالسؤال أيضا؟أم لا. فأوضح القادة وحدة الخاصة الجندي الأسود 45إن لم يكن دليل صلة متعلقة بالعنف أو دعمت العنيفين لمضايقةأو تسبب الاضطرابات في المنطقة فلا تحتاج إلى دعوة ولكن لقد دعوتك في هذا المرةبسبب وجود رابط من الهاتف المذكورة وهي يملك لشقيقهاالأصغر وهو مرتبط بقائد العنيفين فلا بد من دعوةهاللتحقيق بتورط العنيفين أم لا. المرحلة كشفت الحقيقة التي عقدت هذه المرة. المرحلة كشفت الحقيقة التي عقدت في هذه المرة جعل الزعيم الديني وقادة المجتمع والحاضرين يعرفون الحقائق ويعرفون عملية العنيفين خدعون الناس الذين جاهلين. ويجب أن يدعمون العنيفين على مضض.
      وطلبت خديجة الذين في المجتمع لفهم أداء المسؤولين. ولبينة من دعوة لطرح الأسئلة وعادت الآن إلى الحياة المنزلية بشكل طبيعي وطلب قادة الوحدة الخاصة الجندي الأسود45  لكل فرد في المجتمع ساعدون على منع لا أدع العنيفين محاكاة ساخرةأو اختلاس فوائد المجتمع لدعم المجموعة الإنفصالية.
      يعطون الوكالات الحكومية فرصةويفتحون القناة لأولئك الذين ارتكبوا الجريمةأو ربما يكون ضال لجعل استسلموا وظهروا للانضمام إلى المشروع أخذ الناس العودة إلى الوطن. الجميع ارتكبت خطأمن وقت مضي ولكن إذا تابوا ويقبلون ما اعتادوا فعله. فالمجتمع مستعد لتوفير الفرص ويغفر ما كان فعلوه في الماضي لأولئك الذين ارتكبوا الجرائم لعادوا ليكونوا أهل الخير في المجتمع وعادوا إلى الحياة الطبيعية وعاشوا بسعادة في عائلاتهم. الدروس المستفادة من خديجة في هذالمرة فهي مثال لقد ضلت إلي طريقة المجموعة الإنفصالية بالجهل و لكن عندما اعترفت بالخطأفالمجتمع مستعدا ليغفر. فلذلك،دور المجتمع في المشاركة حماية فنحن بحاجة إلى إنشاء حصانة للمجتمع ويجب علينا ألا نسمح للمجموعة العنيفة يقنعون و يزعمون ويستخدموننا كأدوات لدعم الفعل الشرير لقتل الناس بعد الآن. وعرض المعلومات غير المستديرة للصفحة: المكتب الاعلاميWartaniنطلب إلي القراء لإستخدام نحث القراء على توخي الحذرللثقة لأنهم يقدمون الأخبار.
----------------

11/21/2561

Penggunaan penyertaan oleh masyarakat dalam menyelesaikan masalah di wilayah sempadan selatan.

Kes Halaman: Pejabat Media Wartani menyiarkan mesej menahankan akan sukarelawan rangkaian jahitan Organisasi Perwani”. melakukan kejadian ini pada 25 Oktober 2018, Kira-kira 02.00 Petang. Pegawai tiga pihak yang dipimpinkan oleh pegawai polis Narathiwat dan Unit Tertentu Tentera Hitam Tanjong Mes dan Pihak Pemerintahan kira-kira 15 buah kereta yang tidak diketahuikan bilangannya dengan tepat dan mengepungkan mereka itu akan rumah nombor 59, Tempat 4, Mukim Bongo, Daerah Rangek, Narathiwat dengan mereka itu memperkenalkan diri dan meminta untuk memeriksakan rumah dan menjemputkan akan ahli-ahli yang ada di dalam rumah itu untuk keluar daripada rumahnya dan memeriksakan oleh pegawai akan rumahnya.
          Halaman: Pejabat Media Wartani menceritakan lagi bahawa pemeriksaan itu tiada didapatkan perkara yang ragu-ragu atau apa-apa yang haram tetapi pegawai merampaskan satu buah telefon bimbit dan telefon itu dimiliki oleh adik lelaki yang mati bagi tuan rumah. Maka pegawai menahankan akan tuan rumah yaitu Khadijah Cek Long dan membawakan dia ke Unit Tertentu Tanjong Mes untuk menyiasatkan dia dan pada 06.00 petang pada hari yang sama menghantarkan mereka itu akan dia ke Kem Inggayutthaborihan, Pattani untuk mengembangkan kesannya. dan sekarang, Khadijah Cek Long masih ditahankan dia di Kem Inggayutthaborihan, Pattani dan tidak diketahuikan nasibnya.
          Dalam poskan Pejabat Media Wartani akan hal yang tersebut. Mahulah mereka itu untuk memusnahkan akan legitimasi penguatkuasaan undang-undang pegawai kerajaan. Terutamanya penahanan Khadijah Cek Long yang menjadi seorang wanita maka bersensitiflah ia kepada perasaan dan didorongkan oleh mereka itu dengan propaganda untuk membimbingkan idea untuk mereka yang mengikuti berita itu telah bersetuju dengan dia.
Suasana  pentas mendedahkan kebenaran.
Pada 6 November yang lepas. Unit Tertentu Tentera Hitam mengadakan pentas "mendedahkan kebenaran" kes Jemputan Khadijah Cek Long ke Pusat Persoalan, Unit Perisikan Ketenteraan Bahagian Dihadapan, Wilayah Sempadan Selatan. Kem Inggayutthaborihan, Mukim Bo Thong, Daerah Nong Cik, Wilayah Pattani pada 25 Oktober 2018, majlis ini ada pegawai kerajaan dan pemimpin agama dan saudara-mara Khadijah dan orang-orang didalam masyarakat itu disertaikan kira-kira 200 orang di Masjid Kampung Bongo, Tempat 4, Mukim Bongo, Daerah Rangek, Wilayah Narathiwat untuk menerangkan mengapa pegawai perlu menahankan akan Khadijah kerana disyakikan akan bahawasanya terlibat ia dan menghubungikan ia dengan kejadian pembunuhan Ahmad Hasa meninggal dunia di Daerah Jarang, Pattani pada 17 Januari, 2018, Menurut kuasa Seksyen 8 dan 15 bis Akta Undang-undang tentera 2457 B.
Pada peringkat pembukaan pentas, Bermula dari Panglima Unit Tertentu Tentera Hitam 45 menerangkan ia mengenai sebab ditahankan "Jah" untuk menyiasatkan dia kerana digunakan Jah akan panggilan telefon adik lelakinya yang mati. Apabila memeriksakan teknikal maka didapatikan bahawa dia berkaitan dengan pemimpin keganasan maka perlu menjemputkan dia untuk memberikan keterangan kepada pihak berkuasa. Kemudian diberitahu oleh “Jah” akan bahawasanya semasa ia kena tahan itu mendapatkan kejagaan dengan baik yang tidak dijangkakan dahulu bahawa pegawai kerajaan akan menjagakan dengan baik seperti ini. Dan bertanya oleh Jah akan panglima akan bahawasanya akan menjemputkan dia untuk bertanya lagi? Atau tiada. Maka menerangkan oleh panglima Unit Tertentu Tentera Hitam 45 akan bahawasanya jika tiada ada bukti yang berkaitan dengan keganasan atau bukti yang menyokong penkeganasan untuk mengganggu atau menyebabkan kerusuhan di kawasan maka tidak perlu dijemputkan bahkan yang dijemputkan pada kali ini kerana bersambung ia dengan telefon adik lelaki Jah yang dikaitkan dengan pemimpin kumpulan keganasan maka perlu dijemputkan untuk bertanya bahawa Jah menyertai kumpulan keganasan atau tiada. Pada diadakan pentas mendedahkan kebenaran pada kali ini membuatkan pemimpin agama dan pemimpin komuniti dan para peserta mendengarkan dia dan diketahui akan fakta-fakta dan akan proses-proses yang penkeganasan dieksploitasi akan orang yang jahil daripadanya dan menyokongkan ia akan penkeganasan dengan berat hati.
Jah, Memintakan orang didalam masyarakat untuk memahami dalam prestasi pegawai dan disedari dalam menjemputkan dia. dan saya boleh kembali ke kehidupan dirumah dengan biasa. adapun panglima memintakan akan semua orang didalam masyarakat untuk  membantu memantau untuk tidak dieksploitasikan oleh penkeganasan atau mengambilkan manfaat orang didalam kampung untuk menyokong kumpulan kemerdekaan.
Agensi-agensi kerajaan membukakan saluran bagi mereka yang melakukan kesalahan atau mereka yang pernah bersesat untuk melaporkan diri dan menyertai projek membawa orang pulang ke rumah. Setiap orang pernah berkesalahan bahkan jika bersedar dan mengaku akan apa yang pernah dilakukan. Maka komuniti dan masyarakat bersediakan untuk memberikan peluang dan memaafkan akan apa yang pernah dilakukan pada masa lalu untuk mereka yang pernah melakukan kesalahan itu boleh menjadi orang yang salih didalam masyarakat dan kembali berkehidupan seperti orang yang biasa dan bergembira dengan keluarga. Pelajaran daripada kes Khadijah  Cik Long pada kali ini menjadi contoh yang bermasuk ia ke dalam kumpulan keganasan dengan sesat kerana kejahilannya bahkan apabila mengaku ia. Maka bersediakan oleh masyarakat untuk memaafkan dia. Oleh itu, peranan yang lebih penting bagi masyarakat didalam mengambil bahagian untuk melindungi maka mestilah menjanakan akan kebal kepada masyarakat. Jangan biarkan penkeganasan menghasut dan digunakan orang-orang didalam masyarakatnya sebagai alat untuk menyokong tindakan jahat dan membunuhkan orang-orang lagi. Adapun pembentangan maklumat yang tidak bulat oleh halaman: Pejabat Media Wartani, Meminta pembaca untuk menggunakan kebijaksanaan untuk mempercayaikan akan berita mereka.
----------------