หน้าเว็บ

3/11/2557

สื่อเว็บไซต์แนวร่วมป่วนใต้

ตนไทยปลายด้ามขวาน

          ความจริงจากจังหวัดชายแดนใต้ในวันนี้ ทุกคนไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งทางความคิดที่ยืดเยื้อมานาน มีการใช้กองกำลังของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน (BRN) ในการเดินเกมส์สร้างสถานการณ์ ควบคู่การปลุกระดมแนวความคิดทางการเมืองโดยกลุ่ม PerMAS ฝ่ายรัฐได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลมาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เป็นปัญหาตามมาในปัจจุบันนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการต่อสู้ทางความคิด ชิงไหวชิงพริบในการโฆษณาชวนเชื่อ การต่อสู้ทางเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ ที่มีเนื้อหาบิดเบือนความจริง อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของผู้ก่อความไม่สงบ และทำให้ประชาชนในพื้นเกิดความเข้าใจผิด นั่นละคืองานหลักของกลุ่มแนวร่วมที่จะต้องกระทำทันที
         
     การดำเนินการของเว็บไซต์แนวร่วมที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับกระบวนการ BRN มีอยู่หลายเว็บไซต์ด้วยกัน เนื้อหาหลักๆ คือ การบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสื่อให้เห็นว่าการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เกิดจากฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ปกป้องผลประโยชน์อันมหาศาลของกลุ่มขบวนการ กับธุรกิจผิดกฎหมายที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนแหล่งเงินทุนในการก่อเหตุร้ายรายวัน เว็บไซต์ SUARA-AMPERA.COM คือเว็บไซต์หลักอันดับต้นๆ ที่ขยันออกมากล่าวหาโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐไทย ภาพที่นำมาลงประกอบบทความข่าวในเว็บไซต์ดังกล่าวพยายามนำภาพที่สื่อแล้วสร้างผลกระทบต่อความรู้สึก ให้ผู้ติดตามเกิดความเข้าใจที่ผิด เพื่อต้องการทำลายภาพลักษณ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นสำคัญ อย่างกรณีการนำภาพมาเขียนข่าว “Isu Patani Darussalam Kian Hangat” จากการตั้งข้อสังเกตบุคคลที่อยู่ในภาพ การแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ เครื่องแบบที่บุคคลในภาพแต่งไม่เคยเห็นหน่วยไหนใช้ รวมกระทั่งอาวุธปืนที่ถือไม่ปรากฏมีใช้ในทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ลักษณะการถืออาวุธเหมือนการจัดฉากขึ้นมาหากพิจารณาให้ดี เป็นไปได้หรือที่ทุกคนในภาพแอ๊คชั่นท่าที่เหมือนกัน คือการชักอาวุธปืนออกมาพร้อมจะยิง น่าจะมีการกำกับอยู่เบื้องหลัง ความบังเอิญคงไม่เกิดขึ้นถึงเพียงนี้ นี่แค่การจับผิดภาพ เพียงภาพเดียวเท่านั้น ของกระบวนการจัดฉากขึ้นมาโดยขาดความแนบเนียน เพื่อนำมาหลอกให้ประชาชนเข้าใจเจ้าหน้าที่ไปในทางที่ผิด มุ่งสร้างความเกลียดชัง ความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม ในส่วนภาพล่างคือภาพของการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับโจรใต้ BRN ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นจริงในหลายๆ ครั้ง ที่มีการติดตามจับกุม แล้วเกิดการต่อสู้กันขึ้นนำไปสู่ความสูญเสียที่หลายๆ ฝ่ายไม่อยากให้เกิด กลับมีการกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

          การดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องแก้ปัญหา จะปล่อยให้ปัญหานี้ผ่านไปแต่ละวันไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความรู้สึก ต่อการรับรู้ของประชาชน และต่างประเทศที่ขยายเป็นวงกว้างเพราะจะเป็นปัญหาสืบเนื่องไปถึงต่างประเทศด้วย ขอให้ผู้อ่านแยกแยะเว็บไซต์ไหนนำเสนอข้อเท็จจริง เว็บไซต์ไหนจ้องแต่สร้างความแตกแยกทางความคิด บิดเบือนความจริงเพื่อจุดประสงค์เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือเรื่องที่สำคัญมากที่สุด ทั้งนี้เว็บไซต์เหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย แต่ได้ทำการจดทะเบียนอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่สามารถไปทำอะไรได้เลย
      จากปัญหาดังกล่าวทางการมาเลเซียได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ต้องการกลั่นแกล้งรัฐบาลไทย และแสดงให้เห็นว่า มีความพยายามที่จะบอกว่าการแก้ปัญหาของไทยไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการต่อสู้ในเชิงความคิด ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เกิดปัญหาขึ้น เป็นการซ้ำเติมปัญหาไม่ใช่การช่วยแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นอย่าไปคาดหวังความร่วมมือใดๆ อีกเลยกับความไม่จริงใจของประเทศดังกล่าว ตราบใดที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรายังคงให้แหล่งพักพิงแก่โจรใต้ BRN เหล่านี้เข้าไปหลบซ่อนตัวหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐไทย ซึ่งเป็นปัญหาระหว่างประเทศในการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการกฎหมายบ้านเมือง ก่อเหตุแล้วหลบหนีข้ามแดนเก็บตัวเงียบ รอจังหวะดีๆ แอบเข้ามาก่อเหตุซ้ำ เมื่อมีการจับกุม องค์กรอิสระแนวร่วม NGOs กลุ่มนักศึกษา PerMAS สื่อแนวร่วมโจรใต้โหมประโคมข่าวบิดเบือนความจริง โฆษณาชวนเชื่อ ปล่อยข่าวลือซึ่งเป็นสูตรสำเร็จในการสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายตนเองว่าโดนรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐบ้าง มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการกดขี่ข่มเหงรังแกชาวมุสลิมปาตานี ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา เข่นฆ่าผู้นำศาสนา ครูตาดีกา รวมไปถึงผู้ที่มีหมายคดีติดตัวอยู่ในระหว่างประกันตัวชั้นศาล

           โจรใต้ BRN ใครอย่ายุ่งเมื่อโจรใต้ BRN เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐจะมีการเชิดชูเกียรติเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากมีการปลูกฝังแนวความคิดอย่างผิดๆ มาโดยตลอดว่าการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น เป็นการเสียชีวิตเพราะการต่อสู้ในแนวทางของอัลลอฮฺ และเป็นชะฮีดที่ไม่ต้องอาบน้ำศพ ทั้งที่ความเป็นจริงอิสลามสอนไม่ให้ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าผู้นั้นจะนับถือศาสนาใดก็ตาม กล่าวคือ ไม่ฆ่าเด็ก สตรี คนชรา พลเรือนผู้บริสุทธิ์ อิสลามไม่อนุญาตให้ทำร้ายนักบวช ทำลายศาสนสถาน และไม่อนุญาตให้ฆ่าเด็กและสตรี เพราะอิสลามมิได้มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะสงครามหรือการต่อสู้เพียงอย่างเดียว การต่อสู้ในลักษณะของการทำสงครามนั้นจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของศาสนาตลอดเวลาเพื่อสันติภาพ ไม่ทำลายทรัพย์สิน ไม่ตัดโค่นและเผาทำลายต้นไม้ ไม่ฆ่าสัตว์ แต่ต้องให้ความเมตตาและเอาใจใส่ แต่ที่กล่าวมาโจรใต้ BRN ไม่มีเลยแม้สักข้อเดียว การกระทำความผิดในการก่อเหตุได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชนแนวร่วม องค์กร NGOs  กลุ่มนักศึกษา PerMAS นักวิชาการบางกลุ่ม ได้กระโดดออกมาปกป้องอย่างเต็มตัว สื่อเว็บไซต์แนวร่วมป่วนใต้ได้ขยายผลบิดเบือนความจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง แต่คงมีสักวันประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้จะรู้เท่าทัน..ขบวนการหลอกลวงโจรใต้ BRN ที่ตามหลอกหลอนความจริงที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

**********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น