หน้าเว็บ

8/07/2557

เผยวิธีใหม่ที่ ผกร. ใช้ชักจูงสมาชิกเข้าร่วมขบวนการ




 โดย..   IC . COM
จากเหตุการณ์ ผกร. ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องเพื่อสร้างสถานการณ์ จำนวน 4 จุด และจนท.เก็บกู้ได้ 2 จุด ในเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จว.น.ธ. เมื่อ 20  ก.ค.57 ซึ่ง ต่อมาในวันที่ 21 ก.ค. 57  จนท. ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยตามภาพจากกล้องวงจรปิดได้จำนวน 2 คน คือ นาย อับดุลเลาะ  อาแวกือจิ และนาย อับดุลรอฮิม  มูแย 
สรุปผล จากการซักถามทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตันหยงมัสในครั้งนี้ โดยรับหน้าที่เป็นผู้สำรวจเส้นทาง มีนาย อับดุลเลาะ มะมิง (โซล่าเลาะ) เป็นผู้สั่งการและลอบวางระเบิด รวมทั้งยังรับสารภาพอีกว่ารู้จักกับนาย อับดุลเลาะฯ เนื่องจาก นาย ซานูซี  ยาแต  ( ปัจจุบันถูกจำคุกในเรือนจำนราธิวาสจากคดีปล้นปืนร้อย.ร.15121 ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี )เป็นผู้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของทั้งสองคน(นาย อับดุลเลาะ  อาแวกือจิ และนาย อับดุลรอฮิม  มูแย )แก่ นาย อับดุลเลาะฯ  เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค. 57  ต่อจากนั้นนาย อับดุลเลาะฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการ โดยเล่าประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีให้ฟังจนทำให้คล้อยตาม และยินดีให้ความช่วยเหลือขบวนการ แต่ไม่เคยผ่านพิธีสาบานตน (ซุมเปาะ) แต่อย่างใด  สำหรับ สาเหตุการก่อเหตุ ครั้งนี้ มี 2 ปัจจัยคือ 1.นาย อับดุลเลาะ มะมิง (โซล่าเลาะ) ต้องการตอบโต้ จนท. ที่จับกุมตัว นายมะอูเซ็ง  มะมิง ซึ่งเป็นญาติของตนถูก จนท. จับกุม   กรณีปล้นปืน จากร้อย.ร.15121 ตามหมาย ป.วิ.อาญา และจนท. ยังสามารถยึด ปลย.M 16 คืนได้จำนวน 2 กระบอกรวมทั้งตรวจยึดเอกสารที่มีข้อความต่อต้าน นาย ภานุ  อุทัยรัตน์ ตรงกับคำสารภาพของนาย อับดุลรอฮิมฯ ว่านาย อับดุลเลาะฯเป็นผู้สั่งการให้แขวนป้ายผ้าต่อต้านนายภานุฯ และก่อเหตุวางระเบิดในครั้งนี้
ในประเด็นนี้ผู้ร่วมก่อเหตุระเบิด ที่ถูกจับกุมทั้งสองคนถูกหลอกให้เข้าร่วมขบวนการโดยอ้างเอกราชรัฐปัตตานีหรืออะไรก็ตาม แท้จริงผู้สั่งการคือ นาย อับดุลเลาะ มะมิง ( โซลาเลาะ )  ไม่ยอมรับความจริงต่อต้านอำนาจรัฐ และสนับสนุนญาติของตนเองทั้งที่เป็นผู้ทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงไม่รู้จัก แยกแยะดี-ชั่ว ถูก-ผิด และหากทุกคนในชาติมีความคิดสนับสนุนญาติของตนที่ทำผิดโดยไม่ยอมรับกฎหมายซึ่งทั่วโลกใช้เป็นกติกาของสังคม แต่กลับโทษ จนท. ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่  แล้วสังคมส่วนรวมเราจะอยู่กันอย่างไร ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคนจะอยู่อย่างไร
             สาเหตุการก่อเหตุ ปัจจัยที่ 2  จนท. ฝ่ายความมั่นคง คาดว่าเกิดจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จากเมื่อ 13 ก.ค.57  ชคต. (กำนัน,ผญบ.) จนท. ป่าไม้ กำลัง 3 ฝ่าย รวมกำลังเข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้และสามารถยึดไม้เถื่อนได้จำนวนหนึ่ง ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการตัดไม้เพื่อทำถนนซึ่งเป็นโครงการและใช้งบประมาณของ อบต. กาลิซา อ.ระแงะ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ทำให้ผืนป่าเสียหายไปเกือบห้าไร่ มีนักธุรกิจเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ชื่อบริษัท D.I.N.(ปัจจุบันให้น้องชายบริหารงานอยู่) และยังเป็นฐานคะแนนเสียงให้กับอดีต ส.ส. คนดังของ จว.น.ธ.  ซึ่ง จนท. คาดว่าเหตุกรณีข้างต้นทำให้มีกลุ่มอิทธิพลผู้เสียผลประโยชน์ไม่พอใจและคาดว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตันหยงมัส
           ในพื้นที่ จชต. แม้ปัญหาในแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน แต่ในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับพื้นที่ อ.ระแงะ คือ มักมี กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย,กลุ่มผู้มีอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่น,นักการเมืองในระดับชาติ ซึ่งบางคนอาจอยู่ทั้งสองกลุ่มหรือสามกลุ่ม และมีความเชื่อมโยงกันได้รับประโยชน์ และแสวงประโยชน์จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องการหรือสนับสนุนให้เกิดเหตุรุนแรง เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนบีบบังคับให้ประชาชนละทิ้งถิ่นฐานกิจการบางครั้งมีการข่มขู่บังคับซื้อกิจการในราคาต่ำรวมทั้งเป็นการฟอกเงินของตนหรือกลุ่มตนที่ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ค้าน้ำมันเถื่อน ค้าไม้เถื่อน ค้ายาเสพติด เป็นภัยแทรกซ้อน และเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันกับกลุ่ม ผกร.  ส่วนประชาชนที่ไม่ละทิ้งถิ่นฐานจำเป็นต้องอยู่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะอยู่แบบเกรงกลัวต่ออิทธิพลต้องปฏิบัติตามที่กลุ่มคนพวกนี้ต้องการ ไม่กล้าที่จะให้ความร่วมมือกับ จนท.  แม้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ ผกร. ก็จะทำเฉยเสีย ทำให้ ผกร. ยิ่งก่อเหตุสร้างสถานการณ์ขึ้นอีกเพราะนอกจากได้ประโยชน์จากข่มขู่ประชาชนแล้วผลที่ได้รับอีกประการคือลดความน่าเชื่อถือของ จนท.  ขอถามว่า แล้วทำไมประชาชนจึงไม่ร่วมกับ จนท. จัดการกับกลุ่มคนพวกนี้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือแจ้งให้ จนท. ทราบความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้(ในทางลับก็ได้) ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางติดต่อ จนท. อยู่หลายช่องทาง

ประเด็นสำคัญ ที่ผู้เขียนมีความห่วงใยและต้องการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทราบคือปัจจุบันกลุ่ม ผกร. เริ่มเปลี่ยนวิธีการชักชวน บุตร-หลาน ญาติพี่น้องของท่านเข้าร่วมขบวนการ โดยติดต่อผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยสะดวกรวดเร็ว เช่น ทางโทรศัพท์และสื่อสังคมออนไลน์ (อินเตอร์เนต,เฟสบุ๊ค,ไลน์) เพิ่มมากขึ้นโดยใช้วิธีการชักจูงต่างๆนาๆอาจเล่าประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนศาสนาบางครั้งถึงขั้นใช้ยาเสพติดเป็นสิ่งล่อจนเคยเกิดเป็นข่าวมาแล้วที่ บ้านต้นมะขาม จว.ป.น. ทำให้เยาวชนซึ่งเป็นบุตร-หลานของท่านและเป็นอนาคตของชาติต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเสียอนาคตเพราะกระทำผิดหรือร่วมทำผิดกฎหมายจากการถูกชี้นำชักจูงดังกล่าว
                               ...............................................................................
                                  
                                            
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น