หน้าเว็บ

3/21/2558

โจรใต้ฟาตอนี...ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำร้ายประชาชน

อิมรอน


จากเหตุการณ์คนร้ายจุดชนวนรถจักรยานยนต์บอมบ์ หน้าสถานีรถไฟรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ของเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 ราย และในเวลาต่อมา ส.อ.ทวีวัฒน์ อ่อนขวัญเพชร สังกัดกรมทหารพรานที่ 11 หนึ่งใน 9 รายที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จังหวัดยะลา ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


หลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ระบุว่าคนร้ายได้ใช้ระเบิดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ประกอบใส่ถังแก๊สปิคนิค จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร คนร้ายนำรถคันดังกล่าวมาจอดปะปนกับรถชาวบ้านบริเวณทางเข้า-ออกตลาดสดรือเสาะ หน้าสถานีรถไฟรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

ส่วนอีกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 20.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ มุ่งก่อกวนสร้างความปั่นป่วนด้วยการลอบวางเพลิงจำนวน 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

ซึ่งในเวลาต่อมาสื่อสังคมออนไลน์ที่สนับสนุนกลุ่มขบวนการ ผกร. ได้ออกมาชี้ว่าเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จของกลุ่มขวนการโจรใต้ที่สามารถทำการก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระงับยับยั้ง และให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกับประชาชนได้


ย้อนไปกับเหตุคาร์บอมบ์ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2558 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 คน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน บ้านเรือนเสียหายกว่า 20 หลัง การก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในเขตอำเภอเมืองนราธิวาส มีการวางแผน และเตรียมการมาเป็นอย่างดี รอก่อเหตุอย่างใจเย็นนับตั้งแต่รถยนต์ที่ใช้ประกอบระเบิดถูกปล้นสังหารไปจากคนขับรถรับ - ส่ง นักเรียนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งต่อมาใช้ก่อเหตุในการกราดยิง และวางระเบิดเทศบาลตำบลมะกรูดจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง.....ซึ่งผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบทั้งหมดที่ถูกโจรใต้สังหารเป็น "ผู้บริสุทธิ์"....

การเลือกเป้าหมายพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ด้วยการลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ซึ่งเป็นลูกแรกของปี 58 กลุ่ม ผกร. ยังคงมุ่งเป้าโจมตีไปยังกลุ่มชาวไทยพุทธ ชุมชนที่อยู่อาศัยและแหล่งประกอบอาชีพ ซึ่งมีผลทางจิตวิทยาทันทีหลังเกิดเหตุ

การเลือกพื้นที่ก่อเหตุในเขตเมือง ย่านเศรษฐกิจ คือวัตถุประสงค์หลักของระดับแกนนำสั่งการให้สมาชิกแนวร่วมลงมือก่อเหตุ แต่ประเด็นที่น่าสนใจตรงที่เป็นการเลือกจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน และมีกิจกรรมสำคัญโครงการ เดินสานใจสู่สันติ ซึ่งได้มีการจัดเวทีอยู่ไม่ไกลกับสถานที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งในงานดังกล่าวมีสื่อมวลชนสื่อกระแสหลัก ทีวีแทบทุกช่องจากส่วนกลางมาทำข่าวอยู่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยหลังเกิดเหตุมีการนำเสนอข่าวคาร์บอมบ์นราธิวาสแทบทุกสื่อเป็น ความบังเอิญ หรือ จงใจ

ก่อนหน้านี้หน่วยงานความมั่นคงได้วิเคราะห์สถานการณ์การเกิดเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวมซึ่งได้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น สถิติการเกิดเหตุรุนแรงปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ในห้วงเวลาเดียวกัน

มีสื่อหลายสำนักนำข้อมูลสถิติการเกิดเหตุที่ลดลง นำคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงไปเสนอข่าวกัน อย่างเช่นสำนักข่าวอิศราได้นำเสนอบทความภาคใต้บ้านเรา วันนี้ดีขึ้นแจะเป็นเพียงภาพลวงตาหรือจะเป็นจริงต่อจากนี้ไปคงจะต้องมาพิสูจน์กัน

เกจิอาจารย์จากหลายสำนักสื่อได้วิเคราะห์สาเหตุการปรับตัวลดลงของการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากมายหลายความคิด ซึ่งผู้เขียนเองขอร่วมคิดวิเคราะห์และนำเสนอให้กับผู้อ่านได้เป็นข้อมูล อาจจะมีมุมมองที่แปลกแตกแยกออกไปจากนักเขียนท่านอื่นๆ ซึ่งผู้เขียนคิดว่าสาเหตุที่สถิติการก่อเหตุของกลุ่ม ผกร. ปรับตัวลดลงอาจจะมาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

          ประการที่ 1 อาจจะมาจากสภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง อีกทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีนโยบายปรับลดราคาน้ำมันเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน ได้ส่งผลดีให้กับผู้บริโภค ผู้ใช้รถ ได้มีโอกาสใช้น้ำมันในราคาถูก
          ซึ่งจากผลดังกล่าวทำให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับผลกระทบอย่างจัง ซึ่งจากการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนในห้วงที่ผ่านมากลุ่มพ่อค้าน้ำมันเถื่อนหัวใสได้มีการประกาศลดราคาน้ำมันลงเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลแต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้รายได้ที่ได้จากการค้าน้ำมันเถื่อนหดหาย ซึ่งเงินที่ได้จากการค้าน้ำมันเถื่อนทุกคนต่างทราบดีว่าเป็นแหล่งเงินทุนที่ใช้สนับสนุนกลุ่มขบวนการ BRN ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ไฟใต้

          ประการที่ 2 เหตุผลทางการเมืองเนื่องจากการเข้ายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) และในเวลาต่อมาได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน มีผลต่อนักการเมืองอาชีพที่จะต้องหยุดกิจกรรมลง ไม่มีการเลือกตั้งในทุกระดับเนื่องจากรอประกาศใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รอวันคลอดอย่างเป็นทางการ
          เมื่อไม่มีการเลือกตั้งการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในทุกระดับ โดยเฉพาะการเมืองในท้องถิ่นที่มีการแข่งขันสูงไม่มีการจัดการเลือกตั้ง เป็นสุญญากาศทางการเมือง ปลอดความขัดแย้ง ไม่ต้องใช้กำลังเข้าห้ำหั่นลงทุนจ้างมือปืนทำการเข่นฆ่าคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งในหลายพื้นที่กลุ่มขบวนการได้หนุนหลังเพื่อให้คนของตัวเองเข้ามามีอำนาจ

ที่กล่าวมาเป็นแค่แง่ความคิดของผู้เขียนเอง ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้สถานการณ์ไฟใต้ลดลงอาจจะมาจากสาเหตุอื่นๆ อีกก็เป็นได้ แต่ถือได้ว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่สถิติการก่อเหตุได้ลดลง ความสงบ สันติสุขจะได้เกิดขึ้นเสียทีต่อจากนี้ไป จะชั่วคราวหรือถาวรหรือไม่นั่นค่อยมาติดตามความคืบหน้าในเวทีการพูดคุยเพื่อสันติสุขชายแดนใต้ของรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้คิดต่างจากรัฐกันว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่?...อย่างไร?

แต่มีสิ่งหนึ่งที่หน่วยงานความมั่นคงได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนถึงแนวทางการปรับลดกำลัง จะมีการใช้กองกำลังในพื้นที่ซึ่งเป็นลูกหลานพี่น้องมลายูปาตานีแทนกองกำลังทหารต่างถิ่น เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องด้วยกันเอง และขั้นตอนต่อจากนั้นจะมีการถอนกำลังกลับที่ตั้งปกติทันทีหากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีการก่อเหตุร้ายรายวันซึ่งเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

ณ ปัจจุบันนี้ประชาชนมลายูปาตานี เริ่มรู้แล้วว่าใคร? คือผู้ทำลายสันติสุข ใคร? คือผู้สร้างความแตกแยกในสังคม เหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน วิถีชีวิตที่แปรเปลี่ยนไปเพราะถูกทำลายการอยู่ร่วมกันอย่างพหุวัฒนธรรมของพี่น้องต่างศาสนิก ต่างเชื้อชาติที่อยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความแตกต่างมาอย่างช้านาน

ซึ่งรูปแบบในการโฆษณาชวนเชื่อจะมีการปล่อยข่าวลือตามร้านน้ำชา การเคลื่อนไหวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ชี้นำทางความคิดให้เห็นว่าพี่น้องมลายูปาตานีถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีการลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์เพื่อดึงงบประมาณ เข่นฆ่า ทารุณกรรม รังแกประชาชนทุกรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่ฝีมือของนักรบฟาตอนีแต่ประการใด แต่ ณ เวลานี้ วันนี้ ความผิด ความชั่วร้าย ความสุดโต่งที่กลุ่มขบวนการ ผกร.ได้ปกปิดไว้ ไม่สามารถตบตาพี่น้องประชาชนมลายูปาตานีได้อีกต่อไป ประชาชนรู้แล้วว่า ผู้ร้ายตัวจริง ที่แฝงตัวอยู่ในมุมมืด อาศัยโล่ห์เกราะกำบังจากพี่น้องประชาชนแล้วลอบทำร้าย ลอบกัดไม่กล้าสู้ซึ่งๆ หน้า ไม่ใช่ใครที่ไหนนักรบ RKK” หรือนักรบหน้าตัวเมียที่กลุ่มขบวนการยกย่องนักหนา และมักชอบแอบอ้างอยู่เสมอว่าเป็นนักรบของประชาชนเพื่อทำการปลดปล่อยปาตานีเป็นเอกราช...

---------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น