หน้าเว็บ

5/28/2558

แกะรอยโจรใต้..ปะทะดับ 2 จับเป็น 4

อิมรอน
กรรมติดจรวดรวบทันควันโจรใต้ฟาตอนีพร้อมชี้จุดซ่อนอาวุธปืนสงคราม จับเป็น 4 ราย เกิดการปะทะเสียชีวิตจากการติดตามจับกุม 2 ราย ในพื้นที่ 2 จุด จังหวัดปัตตานี ขยายผลจากการซักถามติดตามจับกุมอีก 1 จุด ในพื้นที่จังหวัดยะลา

จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม และเกิดการปะทะที่โรงเรียนดารุลบารอกะฮ์ หมู่ที่ 1 ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย คือ นายมาฮามะซู เจะหะ และสามารถควบคุมตัวสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ 2 คน คือ นายแวสอเฮาะ  ดอเลาะ และนายสุริยา ตาฮา เมื่อ 2 พฤษภาคม 2558 นำตัวไปเข้าสู่กระบวนการซักถาม

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่าสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ทำการเคลื่อนไหวในอำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอมายอ คือนายนิอิดือเระ เจะแห และนายอาซิ ดาโอง และเมื่อ 12 พฤษภาคม 2558 ได้พบความเคลื่อนไหวบุคคลทั้งสองได้ออกจากแหล่งหลบซ่อนตัวบ้านชะมา หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ทำการเคลื่อนไหวก่อเหตุยิงอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอมายอ ในพื้นที่บ้านน้ำใส หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ และหลังก่อเหตุได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่บ้านบูดน หมู่ที่ 1 ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี

13 พฤษภาคม 2558 หลังสืบทราบแหล่งกบดานของสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุมเป้าหมาย และเกิดการปะทะขึ้น เป็นเหตุให้สมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 1 ราย คือ นายนิอิดือเระ เจะแห และควบคุมตัวสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ 1 คน คือนายอาซิ ดาโอง

นายอาซิ ดาโอง เจ้าตัวได้ให้การว่าหลังจากก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอมายอเสียชีวิตแล้ว ตนเองได้นำอาวุธปืนเล็กยาว M-16 จำนวน 3 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว ไปทำการซุกซ่อนไว้ที่ริมทุ่งนาในพื้นที่บ้านบูดน หมู่ที่ 1 ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี

15 พฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนทันทีในพื้นที่บ้านบูดน หมู่ที่ 1 ตำบลปะโด  อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ผลการปฏิบัติคว้าน้ำเหลวไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด

หลังจากนั้น นายอาซิ ดาโอง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาอาวุธปืน คือนายจอร์แดน (ชื่อจัดตั้ง) ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่านายจอร์แดน ได้ใช้บุคคลชื่อว่า นางรอกิเยาะ เฮาะยา เป็นผู้จดทะเบียน ดำเนินการตรวจสอบพบว่า นางรอกิเยาะ เฮาะยา เป็นภรรยาของ นายอุสมาน ดิง จึงได้ให้นายอาชิ ดาโอง ทำการชี้ภาพถ่ายเพื่อยืนยันตัวบุคคล เมื่อมีการตรวจสอบจากแหล่งข่าวพบว่า นายอุสมาน ดิง เดินทางไปพักแรมอยู่ที่บ้านของภรรยาในพื้นที่บ้านปาแตรายอ หมู่ที่ 2 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา

23 พฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร จึงสนธิกำลังเพื่อเข้าติดตามจับกุมเป้าหมาย คือ นายอุสมาน ดิง หรือจอร์แดน ในพื้นที่บ้านปาแตรายอ หมู่ที่ 2 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลาทันที และได้นำตัวมาดำเนินกรรมวิธีซักถาม โดยนายอุสมาน ดิง ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าทำหน้าที่เก็บอาวุธปืนเล็กยาว M-16 จำนวน 6 กระบอก แต่ได้มอบให้นายอาซิ ดาโอง ซึ่งถูกควบคุมตัว เมื่อ 13 พ.ค. 58 และนายนิอีดือเระเจะแห (เสียชีวิต จากการปะทะในที่เกิดเหตุ) ได้นำไปใช้ในการก่อเหตุลอบยิงนายดือนัน เจะโด อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอมายอ เมื่อ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันตนเองเก็บรักษาอาวุธปืนไว้เพียง 3 กระบอก  ซึ่งได้ซุกซ่อนไว้บริเวณทุ่งนาบ้านบือราแง หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำดำ จำนวน 2 กระบอก และบริเวณศาลากุโบร์ บ้านปูลา หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานีอีก 1 กระบอก

ภายในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบพื้นที่ซุกซ่อนอาวุธปืนตามที่ นายอุสมาน ดิง ได้ให้การไว้ จำนวน 2 จุด ดังนี้
          จุดที่ 1 บริเวณทุ่งนา ในพื้นที่ บ้านบือราแง หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดงฯ ผลการตรวจสอบพบอาวุธปืน ปืนเล็กยาว M-16 จำนวน 2 กระบอก (สามารถพิสูจน์ทราบหมายเลขปืนได้ จำนวน 1 กระบอก คือ หมายเลข 9579241 ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบในฐานข้อมูล/บัญชีอาวุธปืนสูญหาย หรือถูกปล้น ส่วนอีก 1 กระบอก ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากถูกลบเลือน)
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบเสื้อเกราะกันกระสุน จำนวน 2 ตัว และ ปุ๋ยยูเรีย บรรจุในแกลลอน ขนาดความจุ 5 ลิตร จำนวน 3 แกลลอน
          จุดที่ 2 บริเวณศาลากุโบร์ในพื้นที่ บ้านปูลา  หมู่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดงฯ  ผลการตรวจสอบไม่พบอาวุธปืน หรือสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ความเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ของนายซอบือรี และนายมะฮามะซูเจะหะ กับสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่ม อำเภอทุ่งยางแดง ยืนยันเครือข่ายการติดต่อสื่อสาร นำไปสู่การเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

การติดตามจับกุมตัวนายนิอิดือเระ เจะแห และนายอาซิ ดาโอง ได้อย่างรวดเร็วหลังทำการก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ถูกจับกุมตัวได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่ทันตั้งตัวนำไปสู่การขายผลชี้แหล่งซ่อนอาวุธปืน ซึ่งทุกขั้นตอนไม่มีการบังคับขู่เข็ญ ละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรง ถือได้ว่าปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย มีการปฏิบัติเป็นขั้น เป็นตอนจากเบาไปหาหนัก หลีกเลี่ยงการปะทะนำไปสู่การสูญเสีย แต่เมื่อมีการขัดขืนไม่ยอมมอบตัวกลับทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยที่ใครๆ ต่างไม่อยากให้เกิดขึ้น

เหตุการณ์ทุกครั้งที่ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีการวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อมุ่งหมายเอาชีวิตของผู้คน มีการปฏิบัติการที่โหดเหี้ยมซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับไม่ได้ การดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงได้อย่างทันควันถือได้ว่าได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนปาตานีต่อเจ้าหน้าที่รัฐในการนำตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายต่อไป
-------------------------------




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น