หน้าเว็บ

9/11/2558

ย้อนแย้งนอกเวทีพูดคุยสันติสุขคือ..สันดานเดิมๆ ของขบวน BRN

ย้อนแย้งนอกเวทีพูดคุยสันติสุขคือ..สันดานเดิมๆ ของขบวน BRN
แบดิง โกตาบารู


เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 มีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นสำนักประชาสัมพันธ์และข้อมูลข่าวสารของ BRN ได้ทำการเผยแพร่คลิปวีดีโอใน You Tube ถัดมาแค่เพียงไม่แค่กี่ชั่วโมงทีมข่าวอิศราได้ทำแปลถอดความจากคำแถลงภาษามลายูโดย นายอับดุลการิม คาลิด โดยเนื้อหาได้ตัดทอนข้อความบางส่วนที่กล่าวพาดพิงถึงสถาบันหลักของชาติออกไปนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ออนไลน์

เนื้อหาแรกที่เกริ่นนำยังคงเป็นการปลุกระดมความว่า ถึงชนชาวมลายูปาตานีที่เคารพรัก จงเป็นประชาชาติที่เป็นหนึ่ง และจงมีความสามัคคีกัน อย่าได้จำนนต่อความพ่ายแพ้

ในแผนที่โลกอยากจะรู้เหมือนกันประเทศปาตานีมีที่ตั้งอยู่ตรงไหนกัน? มีแต่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ที่ผู้คนอยู่ร่วมอาศัยกันอย่างพหุวัฒนธรรม มีแต่กลุ่มขบวนการ BRN ที่คอยสร้างความแตกแยกให้แตกความสามัคคีขึ้นในชุมชน และในสังคม

มีการกล่าวในคลิปดังกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แม้กระทั่งด้านวัฒนธรรม ซึ่งต้นเหตุมาจากนักล่าอาณานิคมสยามด้วยวิถีที่ไร้ซึ่งความชอบธรรม

จะเห็นได้ว่าจุดประสงค์ของการเผยแพร่คลิปเพื่อต้องการโฆษณาชวนเชื่อ ต้องการปลุกระดม อีกทั้งชี้นำทางความคิดบิดเบือนความจริง ซึ่งคำแถลงในคลิปได้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จชต. ความเดือดร้อนของประชาชน การทำลายเศรษฐกิจไม่มีใครกล้ามาลงทุนในพื้นที่ มีการขัดขวางการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ถามว่าเพราะเกิดจากฝีมือใคร? ไม่ใช่กลุ่มขบวนการ BRN หรอกหรือ?

การต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ BRN ณ วันนี้ คือการต่อสู้ เพื่อการปฏิวัติประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ใช่หรือไม่? เพราะหากศึกษาจากพฤติกรรม และท่าทีที่ผ่านมาได้บ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัวของระดับแกนนำขบวนการได้อย่างชัดเจน แกนนำเสวยสุขสั่งการอยู่เมืองนอก ปล่อยให้สมาชิกแนวร่วมทำการต่อสู้อยู่ในพื้นที่ขาดการเหลียวแล สมาชิกและประชาชนทุกข์สุขไม่เคยเหลียวแล ไม่ได้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาชนตามที่ได้มีการกล่าวอ้างแต่ประการใดเลย
การต่อสู้ของขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN) ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป้าหมายสูงสุดคือการได้รับอิสรภาพ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของชาวมลายูปาตานีที่อยู่เหนืออำนาจอธิปไตยแห่งดินแดนที่สอดคล้องกับกฎบัตรของสหประชาชาติ (UN) ที่ 1514 และมีการกล่าวต่อไปอีกว่านานาประเทศต่างประจักษ์ชัดแล้วว่านักล่าอาณานิคมสยามนั้น ไม่ได้ให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง

ตามกฎกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองข้อ 1 ระบุว่า ประชาชนทั้งปวงมีสิทธิในการกำหนดเจตจำนงของตนเองโดยอาศัยสิทธินั้น ประชาชนจะกำหนดสถานะทางการเมืองอย่างเสรี รวมทั้งดำเนินการอย่างเสรี ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของตน

สิทธิในการกำหนดใจตนเอง (Self-determination) ข้อนี้ไม่สามารถกระทำได้ตามที่มีการรณรงค์และปลุกกระแสมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยได้ทำข้อแถลงตีความ (ข้อสงวน) สิทธิในการกำหนดใจตนเองไม่ได้กระทำได้ในทุกๆ เรื่อง และมีข้อสงวนไว้ว่า มิให้ตีความว่าอนุญาต หรือสนับสนุนการกระทำใดๆ ที่จะเป็นการแบ่งแยก หรือทำลายบูรณภาพแห่งดินแดน หรือเอกภาพทางการเมืองของรัฐ เอกราชอธิปไตย ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

รัฐบาลไทยเดินหน้าในการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ มีความตั้งใจ และจริงใจที่จะนำปัญหาความขัดแย้งไปพูดคุยกันบนโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางออกของปัญหาด้วยสันติวิธี นำพาสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่โดยเร็ววัน ลดการเผชิญหน้าด้วยการใช้กำลังอันจะนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ได้มีการหลอกลวงชาวปาตานีตามที่กลุ่มขบวนการ BRN ได้ทำการกล่าวหา  

ข้อเท็จจริง ผู้ที่หลอกลวงและใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือมาโดยตลอดคือขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN) ที่ได้กระทำทุกวิถีทางเพื่อขบวนการ แม้กระทั่งการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา นำมาซึ่งความเสื่อมเสีย สร้างความเสียหายให้กับผู้นับถือศาสนาอิสลามโดยรวม อีกทั้งยังเป็นผู้ที่คอยทำลาย ย้อนแย้งกับรัฐบาลไทยในทุกมิติ แม้กระทั่งการพูดคุยสันติสุขที่เกิดขึ้น ยังใช้สันดานเดิมๆ ทำการลอบกัดนอกเวทีด้วยการแถลงการณ์ผ่าน You Tube ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งส่อให้เห็นถึงความไม่จริงใจเหมือนดั่งเช่นทุกๆ ครั้งที่มีการพูดคุย

ตราบใดที่แนวคิดของขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN) ยังไม่เปลี่ยนแปลงและยังเดินหน้าในการปลุกกระแสกำหนดชะตากรรมตนเองของชาวมลายูปาตานี ทั้งๆ ที่ไม่สามารถกระทำได้เป็นการปลุกระดม และหลอกลวงประชาชนชาวปาตานี ยังคงเป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของแกนนำแนวร่วมที่หวังจะใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อสถาปนาตนเองขึ้นเป็นใหญ่

สุดท้ายนี้หากคลิปวีดีโอดังกล่าวเป็นของสำนักประชาสัมพันธ์และข้อมูลข่าวสารของ BRN จริง ผู้เขียนคิดว่าไม่ได้เป็นการสร้างสรรค์ใดๆ เลย ต่อบรรยากาศการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้กำลังรุดหน้า เพราะความขัดแย้งในหลายๆ ภูมิภาคของโลกไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงในการตัดสิน แต่จบลงด้วยการพูดคุย หันหน้าเข้าหากันหาทางออก และไม่ได้ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น แต่ต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจต่อกัน และที่สำคัญที่สุดต้องเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง...ขอให้สันติสุขกลับคืนมาสู่ดินแดนปลายด้ามขวานในเร็ววัน....อามีน...

--------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น