หน้าเว็บ

1/29/2560

อนาคตของเอ็นจีโอที่รับเงินต่างชาติ

โดย...ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

ผู้เขียนแอบเชียร์ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่เงียบๆ ทั้งที่ไม่รู้จักชื่อเสียงประวัติของเขามาก่อน แต่รู้อย่างหนึ่งว่า หากฮิลลารี คลินตัน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นางคงบี้ไทยแบนติดดิน นางและพวกคงข่มขู่ไทยสารพัด แม้ไทยจะปรับตัวเก่ง แต่คงเหนื่อยกว่าหากต้องปรับตัวกับฮิลลารี นอกจากไทยแล้ว คนที่ดีใจที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง คือ ประธาราธิบดีปูติน แห่งรัสเซียนั่นเอง เพราะนโยบายของทรัมป์ที่ประกาศไว้ตอนหาเสียงไม่ได้มองรัสเซียและปูตินเป็นศัตรู ตรงกันข้ามกลับเห็นว่าต้องคบกับปูตินไว้ เล่นเอาพรรคเดโมแครตและกลุ่มอำนาจที่เป็นมือที่มองไม่เห็น หรือรัฐบาลล่องหนที่ชักใยคุมรัฐบาลอเมริกาที่ผ่านๆ มาไม่พอใจอย่างมาก
ถึงกับ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ(คนละคนกับผู้อำนวยการซีไอเอ)ซึ่งตั้งขึ้นมาหลังเหตุการณ์ 9/11 ออกมาขู่ทรัมป์ว่า หากดำเนินนโยบายที่แตกต่างจากที่นักยุทธศาสตร์อเมริกันวางไว้โดยไปใกล้ชิดกับผู้นำรัสเซีย ขอให้ดูอดีตประธานาธิบดีเคนเนดีเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน พูดง่ายๆ คือ กล้าที่จะข่มขู่ประธานาธิบดีของตัวเองว่า หากคิดไปคบหาสมาคมกับรัสเซีย ก็อาจจะโดนแบบที่ประธานาธิบดีเคนเนดีเจอ
บารัก โอบามา โกรธรัสเซียเพราะเห็นว่ารัสเซียเชียร์ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป อีกทั้งคงได้รับรายงานว่า หน่วยข่าวรัสเซียสามารถเจาะข้อมูลของพรรคเดโมแครตและแอบเอาไปให้ทีมงานของทรัมป์ โอบามาจึงออกคำสั่งขับนักการทูตรัสเซียประจำสหรัฐหลายคนออกนอกประเทศ แต่ครั้งนี้ประธานาธิบดีปูตินไม่ตอบโต้ เพราะเห็นว่าอีกไม่กี่วันโอบามาก็จะพ้นตำแหน่งแล้ว สู้รักษาความสัมพันธ์อันดีกับทรัมป์ไว้ดีกว่า

แต่ใช่ว่าปูตินจะอยู่เฉย คนแบบปูตินมีฤทธิ์เดชไม่แพ้กัน แม้เขาไม่ขับนักการทูตในรัสเซีย แต่เขากลับไปตอบโต้ด้วยการขับไล่องค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ ต่างชาติที่รับเงินจากจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงิน (คนเดียวกับโจมตีค่าเงินบาทไทยเมื่อปี 2540) ที่มาเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนฯ ในรัสเซีย โซรอสเป็นคนที่หนุนพรรเดโมแครตอย่างเปิดเผย และต้องการให้ฮิลลารีได้รับเลือกตั้งดป็นประธานาธิบดี ขณะเดียวกันก็ใช้ กองทุนสังคมเปิด(Open Soicety Foundations) ของตนสนับสนุนเอ็นจีโอท้องถิ่นและต่างประเทศล้มรัฐบาลประเทศที่ขัดใจอเมริกามาแล้วหลายแห่ง จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
ไม่ถึงกับต้องขับทูตอเมริกันออกไป เพียงแค่จัดการกับเอ็นจีโอทุกแห่งในรัสเซีย ที่รับเงินสนับสนุนจาก จอร์จ โซรอส ก็เท่ากับตบหน้าโอบามาและฮิลลารี ถือว่าเป็นการเล่นเกมที่ชาญฉลาดและสุขุมกว่าเยอะ
ขณะเดียวกันฮิลลารี ได้ประกาศขับไล่เอ็นจีโอต่างชาติและท้องถิ่นที่รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิของจอร์จ โซรอส เคลื่อนไหวอยู่ในฮังการี ในข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ รัฐบาลมาซิโดเนีย รัฐเล็กๆ ที่แยกตัวจาดยูโกสลาเวีย ได้ประกาศห้ามเอ็นจีโอที่รับเงินจากมูลนิธิจอร์จ โซรอส ดำเนินกิจกรรมในบางประเทศในข้อหารับเงินต่างชาติมาบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ รัฐบาลมาซิโดเนียเปิดโปงว่า มูลนิธิจอร์จ โซรอส ได้เคลื่อนไหวร่วมกับ ยูเสด สถานทูตบางแห่งและรัฐบาลบางประเทศ ซึ่งไม่ต้องเอ่ยชื่อก็รู้ว่าคือสหรัฐอเมริกานั่นเอง ได้ให้เงินเอ็นจีโอและองค์กรทางสังคมหลายแห่งในการบ่อนทำลายประเทศ กดดันให้รัฐบาลมาซิโดเนียทำตามความต้องการของสหรัฐ ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ
เวลานี้มีการจัดตั้ง ขบวนการเอสโอเอส(Stop Operation Soros Movement) หรือขบวนการปฏิบัติการหยุดยั้งการบ่อนทำลายจากกลุ่มโซรอส ขึ้นมาในมาซิโดเนียและเริ่มแพร่หลายไปในหลายประเทศ บรรดา เอ็นจีโอที่รับเงินจากจอร์จ โซรอส หรือรับเงินจาดยูเสด บ่อนทำลายประเทศของตัวเองอาจถูกจับหรือถูกขับออกนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียได้ระงับใบอนุญาตของเอ็นจีโอในประเทศที่รับเงินจากต่างชาติ รวมทั้งที่รับเงินจากจอร์จ โซรอส เพราะเกรงว่าจะมาบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ รายงานข่าวบอกว่า เอ็นจีโออินเดียประมาณสองหมื่นแห่งต้องยุติกิจกรรมโดยสิ้นเชิง
ความเคลื่อนไหวของจอร์จ โซรอสนั้น เชื่อว่าทรัมป์ทราบดี ทั้งทรัมป์และโซรอสนับว่าเป็นคู่มวยที่ถูกคู่สูสีกัน เพราะร่ำรวยด้วยกันทั้งคู่ แต่ทรัมป์มีอำนาจทางการเมืองและกฎหมาย ดังนั้นโซรอส คงโค่นทรัมป์ไม่ได้ง่ายๆ
เรื่องเอ็นจีโอหรือนักการเมือง หรือสื่อมวลชนรับเงินจากต่างชาติมาทำงานนั้น รัฐบาลประเทศต่างๆ ตื่นตัวมากขึ้น ทรัมป์เองประกาศชัดเจนว่า ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ภายใน 5 ปีหลังพ้นตำแหน่ง และห้ามทำหน้าที่ล็อบบี้ยิสต์ให้รัฐบาลต่างชาติ ตลอดชีวิต พูดง่ายๆ ก็คือ รับเงินเขามาแล้ว ความสัมพันธ์เปรียบเสมือน นายจ้างกับลูกจ้าง” ที่ลูกจ้างต้องทำงานตามที่นายจ้างต้องการ และบ่อยครั้งสิ่งที่นายจ้างต่างชาติต้องการอาจกระทบต่อผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ
รัฐบาลไทยน่าจะกำหนดให้เอ็นจีโอ ซึ่งมีจำนวนหลายร้อยถึงพันองค์กร และส่วนใหญ่รับเงินจากต่างชาติมาทำงานเปิดเผยที่มาของเงิน เพื่อความโปร่งใสและแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากทำเพื่อการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าภาคประชาสังคมไทยไม่ค่อยมีเงิน แต่ถ้ารับเงินจากต่างชาติมาเพื่อดำเนินการในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับต่างชาติ หรือสอดคล้องกับนโยบายของต่างชาติ แต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติไทย ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเอ็นจีโอหลายแห่งที่รับเงินสนับสนุนจากอเมริกา เช่น มูลนิธิเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย (เอ็น.อี.ดี.) ยูเสด (ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากสถานทูต) ให้เคลื่อนไหวส่งผลกระทบต่อสถาบันสูงสุดและเสถียรภาพของรัฐบาล คาช. เราจะพบเห็นเจ้าหน้าที่สถานทูต และสถานกงสุลบางคนไปวุ่นวายอยู่แถวภาคเหนือ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้กระแสต่อต้านการรับเงินจากต่างชาติมาบ่อทำลายประเทศตนเองค่อนข้างสูง คนไทยจำนวนไม่น้อยหงุดหงิดกับเอ็นจีโอบางสำนักที่ต่อต้านรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง อย่างไรก็ดี ใครรับเงินต่างชาติมาอย่างบริสุทธิ์ใจเพื่อช่วยให้พี่น้องคนไทยมีสภาพที่ดีขึ้น ก็ไม่ต้องกังวล แต่ควรเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินจากต่างประเทศ การใช้จ่ายเงินอย่างโปร่งใส สังคมตรวจสอบได้

-------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น