หน้าเว็บ

4/02/2560

ยาลอ-มนารอ-ตานี บ้านฉัน

"Ruslan"


เมื่อเอ่ยชื่อ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้(3 จชต.)  คิดว่าท่านผู้อ่านคงจะคุ้นชินและรู้จักกันเป็นอย่างดี จากการติดตามข่าวสารในการนำเสนอของสื่อมวลชนต่อสถานการณ์ความไม่สงบอันเนื่องมาจากการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนต้องการรักษาผลประโยชน์ของตนเอง..โดยอ้างหลักการของศาสนา แล้วกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่เว้นแต่ละวันนับสิบกว่าปีที่ผ่านมา....

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ดินแดนที่มีความหลากหลายของการอยู่ร่วมของผู้คน หลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และประเพณีวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นที่ควรค่าแก่การศึกษาและดำรงไว้อยู่คู่กับชุมชน สังคมแห่งนี้ในอดีตที่ผ่านมาผู้คนต่างอยู่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่มีการปิดกั้นแยกเขาแยกเรา มีการเดินทางไปมาหาสู่ฉันท์ญาติพี่น้อง ช่วยเหลือซึ่งกัน แม้จะแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่สวยงาม

ตั้งแต่ฉันยังเด็กและยังเล็กอยู่ ฉันยังจำความได้ซึ่งคำที่ติดหูฉันในการเรียกชื่อจังหวัดในพื้นที่ชายแดนใต้ที่มีความคุ้นชินมาแต่ไหนแต่ไร จังหวัดยะลา จะเรียกกันว่า ยาลอความทรงจำในสิ่งที่ดีๆ ของจังหวัดนี้คือความภาคภูมิใจที่ จังหวัดยะลา ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดความสะอาดถึง 3 ปีซ้อน อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีการจัดวางผังเมืองแบบใยแมงมุมที่สวยที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย..

ส่วน จังหวัดปัตตานี ผู้คนในสามจังหวัดชายแดนใต้จะเรียกสั้นๆ ว่า ตานี ความสำคัญของจังหวัดนี้มีสถานที่สำคัญๆ มากมายทางประวัติศาสตร์ วัดวาอาราม ศาสนสถาน หรือแม้กระทั่งสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่อาศัย เช่น วัดช้างให้ มัสยิดกรือเซะ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เมืองโบราณยะรัง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ไม่ได้เป็นสังคมเชิงเดี่ยวแต่เป็นการอยู่ร่วมของพี่น้องชาวไทยพุทธ อิสลาม และชาวไทยเชื้อสายจีนที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่อดีต

จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ส่วนชื่อเดิมของจังหวัดนี้ที่คนดั้งเดิมใช้เรียกขานคือ  มนารา หรือ มนารอ ซึ่งมีความหมายว่า หอคอย ซึ่งได้กลายมาจากคำว่า กูวาลา มนารา ที่มีความหมายว่า กระโจมไฟหรือ หอคอยที่ปากน้ำส่วนชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธจะเรียกว่า บางนรา หรือ บางนาค

จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานีในปัจจุบัน หรือ ยาลอ-มนารอ-ตานี ที่เรียกกันตามภาษาชาวบ้าน แต่ไม่น่าเชื่อว่าห้วงสี่ปีที่ผ่านมาได้มีปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่ม PerMAS” ได้มีเคลื่อนไหวอย่างมีนัยทางการเมืองด้วยการคิดค้นวาทกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้เรียกชื่อจังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานีเสียใหม่ เพื่อปลุกกระแสความรู้สึกร่วมของผู้คนในพื้นที่ อีกทั้งหวังผลในเชิง สังคมจิตวิทยา

ปีกการเมืองกลุ่มขบวนการนำวาทกรรมมาสร้างความคุ้นชิน ด้วยการใช้เรียกชื่อกลุ่มของตนเอง ตั้งชื่อกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม สื่อเว็บไซต์ออนไลน์ สถานีวิทยุกระจายเสียง การจัดเวทีเสวนาต่างๆ ไม่เม้นแม้กระทั่งกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่เดินหน้าพูดคุยสันติสุขกับรัฐบาลไทยยังนำวาทกรรมดังกล่าวไปสอดแทรกชื่อกลุ่มของตนเอง

จังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลายพื้นที่มีความเจริญ เป็นเมืองที่น่าอยู่ มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีความสำคัญในฐานะหัวเมืองเศรษฐกิจ เมืองหน้าด่านที่ติดกับประเทศเพื่อบ้าน อีกทั้งยังเป็นเมืองรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เช่น อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อำเภอสุไหง โก-ลก จังหวัดนราธิวาส หรือบางพื้นที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาแต่ครั้งในอดีตเป็นเมืองเก่าที่มีความสำคัญ เช่น อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นที่ตั้งของ วังยะหริ่ง ผู้คนในอำเภอเหล่านี้และอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ยังคงมีความภาคภูมิใจกับการเป็น คนเบตง เป็น คนโก-ลก และเป็น คน ยะหริ่ง ไม่ได้ต้องการเรียกขานตนเองตามที่คนบางกลุ่มพยายามสร้าง วาทกรรม แต่อย่างใดเลย

พี่น้องของฉันเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง เมื่อมีใครถามมาจากไหน? ก็ยังคงมีการบอกกล่าวและตอบกลับไปว่ามาจาก จังหวัดปัตตานี ยะลา หรือนราธิวาส ไม่มีใคร? ที่ไหนเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนแค่บางกลุ่มด้วยการนำวาทกรรมที่ทำลายสังคมพหุวัฒนธรรม สร้างความแตกแยกในสังคม...

ยาลอ-มนารอ-ตานี บ้านฉัน!! บ้านที่ฉันอยู่อาศัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษปู่ย่าตายาย บ้านที่ฉันอยู่อาศัยอย่างมีความสุขภายใต้ความหลากหลาย สังคมพหุวัฒนธรรม หากมีใคร? ใช้วาทกรรม มาเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือผลประโยชน์กลุ่มตน ฉันยอมรับไม่ได้กับคนกลุ่มนั้น..หากยังดื้อรั้นยัดเยียด วาทกรรม ดังกล่าวมาให้ฉันและพี่น้องของฉันอีก.....เห็นควร ปา.....ทิ้งไปให้ไกลๆ จากแผ่นดินจังหวัดชายแดนภาคใต้...

----------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น