หน้าเว็บ

5/18/2560

กลุ่มผลประโยชน์ “BRN” ขบวนการนอกศาสนา

"RUSLAN"

ปัญหาไฟใต้ยังคงเกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลามากกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 47 ได้สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชน เศรษฐกิจ การเมือง และวิถีชีวิต อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ด้วยความห่วงใยจากทุกภาคส่วนต่อสถานการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ความจริงปรากฎได้ต่อสู้อยู่กับใคร? หน่วยงานความมั่นคงได้รู้ว่าผู้ที่สร้างความปั่นป่วนในสามจังหวัดชายแดนใต้ คือ ขบวนการบีอาร์เอ็น (BRN-Coordinate) การต่อสู้ของขบวนการ บีอาร์เอ็น“ตัวการป่วนใต้ที่ยังคงก่อเหตุร้ายรายวัน และมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม เห็นได้จากการชักจูงเยาวชนมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้มาปลูกฝังแนวความคิด ความเชื่อเรื่อง รัฐปัตตานีและเข้าพิธี ซุมเปาะ” (สาบานตน) จากคำสารภาพของผู้ที่ต้องการออกจากการเป็นแนวร่วมหลายครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ และดำเนินกรรมวิธีซักถามแนวร่วมหลายคนมีความต้องการถอน ซุมเปาะ” (ถอนคำสาบาน) เพื่อพ้นสภาพจากการเป็นขบวนการอย่างถูกต้องตามหลักการของขบวนการ บีอาร์เอ็น
แนวความคิด หากเรามาพิจารณาถึงหลักการ ซุมเปาะของกลุ่มขบวนการมีบีบบังคับให้กลุ่มเยาวชนมุสลิมผู้ที่มีหน่วยก้านดี มีลักษณะเป็นผู้นำ ก็จะมีการส่งไปฝึกหลักสูตรที่เรียกว่า (อาร์เคเค) ที่อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อสำเร็จหลักสูตรมาแล้ว จะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อ ครูสอนศาสนาในโรงเรียนตาดีกา หรือโรงเรียนปอเนาะ จากนั้นจะเข้าสู้กระบวนการถ่ายทอดแนวความคิดแบ่งแยกดินแดนให้กับนักเรียนในโรงเรียนที่กลุ่มคนเหล่านี้เป็นครูสอนศาสนาอยู่ โดยจะมีเฝ้ามองในการคัดเลือกนักเรียนที่จะมาเป็นแนวร่วมจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติที่กลุ่มขบวนการได้วางไว้ คือ ต้องเรียนเก่ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะถือว่าเป็นคนที่ มีอุดมการณ์จากนั้นจะดึงมาเข้าพิธี ซุมเปาะก่อนจะส่งเข้าทำการฝึกยุทธวิธีทางทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
   กระบวนการ ในส่วนของผู้นำศาสนาแนวร่วมกลุ่มผลประโยชน์ BRN-Coordinate จะมีการจัดตั้ง อุสตาสเพื่อการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา ดึงมวลชนให้เข้าสู่แนวร่วม อุสตาสเหล่านี้จะได้รับการจัดตั้งจากภายในองค์กร หลังจากนั้นจะมีพิธีสาบานตน ซุมเปาะต่อคัมภีร์อัลกุรอาน ตามหลักความเชื่อของกลุ่มในแนวทางที่จากหลักศาสนาอิสลาม โดยจะให้ผู้ที่จะเข้าร่วมกับขบวนการ ทำการเปล่งวาจาสาบาน 3 ข้อ ด้วยกัน กล่าวคือ จะยอมเสียสละทรัพย์สินชีวิตเพื่อกอบกู้รัฐปัตตานี และปกป้องศาสนาอิสลาม ,จะไม่ยอมแพร่งพรายความลับขององค์กรให้ผู้ใดทราบโดยเด็ดขาด ,จะมาทุกครั้งที่มีการนัดหมาย และเชื่อฟังผู้นำอย่างเคร่งครัด ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะมีการแพร่ขยายไปยังสถานที่ปฏิบัติทางศาสนา เช่น มัสยิด ตาดีกา รวมไปถึงสถาบันปอเนาะ โดยจะมี อุสตาส ครูสอนตาดีกา และเยาวชนมุสลิมเป็นผู้ลงพื้นให้ความรู้และปลุกกระแสความเชื่อให้ประชาชนในพื้นที่คล้อยตามหลักการละแนวคิดอุดมการณ์ของกลุ่ม บีอาร์เอ็นเนื่องจากคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเคารพหลักการและคำพูดของผู้นำศาสนาเป็นหลัก ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของกลุ่ม BRN เหมือนเป็นการทำเกมทางการเมือง การใช้กลุ่มองค์กรนิสิตนักศึกษา รวมทั้งภาคประชาสังคม ปลุกระดมแนวคิด การสร้างมวลชนเพื่อทำการเคลื่อนไหว นำข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐไปขยายผล รวบรวมเพื่อสื่อไปยังองค์กรมุสลิมระหว่างประเทศ (โอไอซี) โดยให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าแทรกแซงเพื่อให้มองเห็นความจำเป็นของการมี รัฐใหม่ซึ่งเป็นรัฐที่มีความเฉพาะทางด้านเชื้อชาติ-ศาสนา ฝ่ายตรงข้ามยังให้ความสำคัญกับ พลังมวลชน” (People Uprising) ซึ่งถือเป็น พลังหลักแห่งความสำเร็จในการปฏิวัติเพื่อแยกรัฐปัตตานีออกจากอำนาจรัฐไทย โดยไม่ใช้อำนาจทางทหาร เน้นกลยุทธ์ที่ว่า หากทำให้มวลชนเชื่อหรือศรัทธาไม่ได้ให้ใช้วิธีทำให้กลัว
      “การลงสนามของกลุ่มแนวร่วมใหม่ที่เป็น เยาวชนชาย หรือ เปอร์มูดอที่ผ่านการฝึก จะลงสนามทำการก่อเหตุในลักษะก่อกวนในพื้นที่ เช่น การวางระเบิด เผาเสาไฟฟ้า ลอบยิง จนไปถึงการลอบสังหาร ซึ่งจะค่อยปรับและเพิ่มขีดความสามารถในการก่อเหตุเป็นลำดับ แต่ที่น่าสลดใจทางกลุ่มใช้ศาสนามาอ้างในการก่อเหตุและลงมือก่อเหตุในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีทั้ง มัสยิด กูโบร์ วัด เช่นเหตุการณ์ลอบยิงประชาชนกำลังจะไปละหมาดที่มัสยิด ฆ่าราษฎรที่กำลังจะไปทำบุญที่วัด และที่น่าสลดใจมากกว่านั้นกลุ่ม บีอาร์เอ็น ยังมีการกระทำที่เลวร้าย โดยยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตแล้ว กำลังนำศพไประกอบทางศาสนาที่ลุ่มฝั่งศพ กูโบร์ยังไปลอบวางระเบิดต่ออีกที่ลุ่มฝั่งศพ (ชั่วเกินคำบรรยายจริงๆ) ขอตั้งฉายาเลยว่า กลุ่มผลประโยชน์ BRN ขบวนการนอกศาสนา”  เหอ!! หลักการที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม BRN ที่ทำเพื่อประชาชนชาวปาตานี ทำเพื่อศาสนาอิสลาม แท้จริงแล้วทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่ามั้ง...


-----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น