หน้าเว็บ

5/18/2561

สมาชิกพูโลและครอบครัว 103 คน ยอมมอบตัวกับ จนท.รัฐ หลังจากกบดานในมาเลย์นานหลายปี



           Pulo (พูโล) คือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต. ของประเทศไทย ส่วนหนึ่งถูก จนท.รัฐ ตามจับกุม ส่วนหนึ่งได้หลบหนีไปประเทศมาเลเซีย และใช้ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่ปะทะกับ จนท.รัฐ ไปขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาเลเซีย โดยอ้างว่าถูก จนท.รัฐบาลไทย กดขี่ข่มเหง ขอให้มาเลย์เข้ามาช่วยเหลือ และตั้งศูนย์อพยพในประเทศมาเลเซีย แต่ผิดคาด!! รัฐบาลมาเลเซียไม่เชื่อ และไล่กลับประเทศไทย แต่กลุ่มพูโลก็กลับประเทศไทยไม่ได้เพราะก่อเหตุ ก่อคดี ฆ่าคน ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก มีคดีตามหมายจับมากมาย จะขออยู่มาเลย์ เขาก็ไม่ให้อยู่ (กลับก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ถึง) ก็เลยต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ที่มาเลย์ ไม่มีบัตรประชาชน ไม่ได้รับสิทธิใดๆ อยู่แบบอดๆ อยากๆ แต่ผู้นำกลุ่มอย่างนายกัสตูรี มะห์โกตา นายใหญ่พูโล อยู่สุขสบายที่สวีเดน เมื่อเวลาผ่านไป สมาชิกกลุ่มพูโล ทยอยเข้ามอบตัวต่อรัฐบาลไทยเป็นจำนวนมาก
        นายเลาะ อายุ 65 ปี หนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ตนเองได้หนีไปมาเลเซียเมื่อสามสิบปีก่อน จนมีลูกหลานรวมหลายสิบคน
        สามสิบปีแล้วที่เราไม่ได้กลับบ้าน หนีไปอยู่มาเลย์จนมีลูก 5 คน ตอนนี้มีหลานอีกหลายสิบคน วันนี้ก็ได้กลับมาหมดแล้ว ได้เจอญาติ ลูกก็ได้กลับบ้าน และจะมีเอกสารสิทธิ์ว่าเป็นคนไทยนายเลาะ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
        "ดีใจมาก ขอบคุณโครงการนี้ที่ทำให้ได้กลับบ้านสิ่งที่อยากได้ หลังจากนี้ คืออาชีพ ถ้าเป็นไปได้อยากได้อาชีพที่อยู่ใกล้เขตแดนไทยมาเลย์ เพราะพอมีลู่ทางทำมาหากินได้บ้าง ที่สำคัญ สามารถคุยกับคนอื่นที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการให้กลับเข้ามาร่วมโครงการได้ด้วย  เพราะจะเดินทางง่ายและสะดวก" นายเลาะ กล่าวเพิ่มเติม
        ส่วนหลานสาวของนายเลาะ กล่าวว่า "ดีใจมากที่ได้กลับมา ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมา อยู่ที่โน่นก็เรียนหนังสือไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้กลับมาตั้งใจจะเรียนหนังสือ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เขาได้กลับบ้าน"
        พูโล ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน 3 จชต. ของประเทศไทย แต่หากมีอีกหลายกลุ่มที่ก่อเหตุฆ่าผู้บริสุทธิ์ สร้างสถานการณ์ความรุนแรง แย่งชิงอำนาจกันเอง ก่อให้เกิดความเสียหาย และสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ติดตามจับกุมกลุ่มก่อความไม่สงบเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง บ้างก็ถูกจับกุมและส่วนหนึ่งก็หนีไปต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าผู้นำแต่ละกลุ่มจะไม่มีใครอยู่ในประเทศไทย จะคอยสั่งการด้วยการติดต่อสื่อสารจากต่างประเทศ มาเป็นระยะๆ อย่างที่เคยได้ยินกันว่า ลูกน้องถูกจับ บ้างล้มตาย แต่ลูกพี่กินนอนสุขสบายที่ต่างแดนบทบัญญัติจากพระเจ้าไม่เคยมีว่าให้ฆ่าคนหรือทำชั่วแต่อย่างใด มีเพียงบทบัญญัติจากพวกผู้นำกลุ่ม แกนนำขบวนการฯ เท่านั้นที่กำหนดขึ้นมาเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดม ชักชวนมวลชนให้หลงเชื่อ และคล้อยตาม แต่ผลสุดท้ายก็ต้องถูกจับกุม หรือไม่ก็ตาย รับกรรมกันต่อไป
        สมาชิกกลุ่ม หรือแนวร่วมขบวนการฯ ส่วนที่ยังหลงเหลือหรือหลบหนีอยู่ จงใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ว่าอะไรถูก อะไรผิด ท่านจะยังเชื่อผู้นำหรือแกนนำของท่านอยู่อีกหรือ สิ่งที่ท่านได้มาคืออะไร ติดคุก ความตาย เพียงแค่นั้นหรือที่ท่านจะได้รับ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะกลับตัวกลับใจและยอมมอบตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น