หน้าเว็บ

8/02/2561

มูลนิธินูซันตารา...มูลนิธิเพื่อเด็กหรือเพื่อใคร?


"Ibrahim"

ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบในเชิงสังคมต่อเด็กและคนในพื้นที่อย่างรุนแรง  นอกจากตัวเลขการเสียชีวิตและบาดเจ็บแล้ว  ยังพบเด็กกำพร้าที่มีมากกว่าห้าพันคน  ส่วนใหญ่กำพร้าพ่อและกลุ่มที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น และยังพบปัญหาตามมาญาติที่ต้องรับภาระเป็นผู้ปกครองดูแลเด็กต้องการเงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ต้องการดูแลเด็ก ปัญหาเด็กที่ขาดพ่อหรือแม่  สาเหตุเกิดจากการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ ผกร.ในพื้นที่

ล่าสุด เพจ:มูลนิธินูซันตารา (NUSANTARA Patani ) ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าในพื้นที่ได้มีการประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมหารายได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันมีเด็กกำพร้า ประมาณ 200 คน ที่มูลนิธินูซันตาราให้ทุนการศึกษาต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่กำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการจัดกิจกรรมทุกๆครั้งที่ผ่านมา หากดูผิวเผินแล้วเหมือนเป็นการหารายได้ช่วยสังคมเป็นความปรารถนาดีในการช่วยเหลือเด็ก แต่โดยเนื้อแท้แล้วเด็กกำพร้าเหล่านี้เป็นผลพวงจากการใช้ความรุนแรงตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่สำคัญกลับมีกลุ่มองค์กรที่เปิดมูลนิธิขึ้นมาบังหน้าเพื่อทำการหากินกับเด็ก


การดำเนินกิจกรรมแทบทุกครั้งยังคงยึดความต้องการของกลุ่มตัวเองเป็นหลัก คือ นอกจากใช้โอกาสในการหารายได้เข้ามูลนิธิแล้วยังแสวงประโยชน์เข้าตนเอง และยังคงเชื่อว่านอกจากนี้แล้วยังมีการบ่มเพาะให้เด็กเยาวชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ บิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐคือ อาชญากรก่อความรุนแรงต่อครอบครัวเด็กล้วนแล้วเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่แทบทั้งสิ้นทำให้เด็กเกิดความโกรธแค้นจงเกลียดจงชังนำมาสู่การใช้ความรุนแรงที่ไม่มีวันจบสิ้น

สำหรับมูลนิธินูซันตารา (NUSANTARA Patani ) มีนายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ เป็นประธานมูลนิธิที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ประสานสอดคล้องกับปีกการเมืองกลุ่มขบวนการ BRN และเชื่อว่ายังมีองค์ต่างๆเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนมูลนิธิ โดยมูลนิธิดึงคนในพื้นที่เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มมีการโฆษณาชวนเชื่อให้มาทำบุญร่วมกันให้กับเด็กกำพร้า โดยอ้างหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อต้องการเงินเยียวยาเป็นหลัก แท้จริงแล้วการเข้ามาช่วยเหลือแอบแฝงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเป็นหลัก

ผู้เขียนตั้งใจสื่อเพื่อให้ทุกคนมีสติ ไม่ได้เขียนเพื่อมุ่งทำลาย แต่ให้ทุกคนคิดถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมูลนิธิเหล่านี้ และมองให้รอบด้านในการบริจาคช่วยเหลือไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นเด็กกำพร้าหรือว่าผู้ได้รับผลกระทบให้เห็นแง่มุมอื่นๆบ้าง ไม่ควรสนับสนุนเกินกว่าเหตุ แต่การช่วยกันบริจาคหรือระดมทุนเสมือนหนึ่งท่านยังต้องการคงความรุนแรงไว้ใช่หรือไม่? อีกทั้งสวนกระแสไม่ต้องการสันติสุขที่คนส่วนใหญ่ต้องการ สุดท้ายแล้วเป็นวัฎจักรของความชั่วร้ายตั้งแต่จุดเริ่มต้นความรุนแรงมาถึงขบวนการเยียวยาหากินบนความเดือดร้อนบนคราบน้ำตาของผู้สูญเสียสิ่งที่รับไม่ได้คือ การหากินกับเด็กซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ขาดพ่อและแม่ จากการกระทำของกลุ่ม ผกร.

--------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น