หน้าเว็บ

1/24/2555

บิดเบือนป้ายสี นี่หรือสื่อมวลชนอินโดนีเซีย



การสังหารมุคตาร์ กีละ นักการเมืองที่มีทีท่าอนาคตไกลด้วยนโยบายพรรคการเมืองของชาวมลายู เพื่อคนมลายู ซึ่งมีที่มาไปอย่างชัดเจนและเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าการลอบสังหารเขามีสาเหตุมาจากความขัดแย้งในเรื่องการเมืองเชิงสร้างสรรค์ที่เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้เกิดมีขึ้นใน จชต. บวกรวมไปกับเรื่องความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุรุนแรงที่กำลังสร้างบาปกรรมให้กับประชาชนใน จชต. อย่างไม่หยุดหย่อนในทุกวันนี้ นอกเหนือจากการความพยายามที่จะใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการวางแผนเป็นอย่างดี แต่ต้องมีอันล้มลงอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากคนร้ายที่ลอบสังหารมุคตาร์ กีละ ถูกชุดคุ้มครองหมู่บ้านยิงตอบโต้จนเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ที่ก่อเหตุร้ายมาอย่างโชกโชน รวมถึงกรณีรุมทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างครูจูหลิงอย่างทารุณจนเสียชีวิตที่กลายเป็นตำนานความโสมมและติดตรึงอยู่ในใจคนทั่วโลกจนถึงขณะนี้

ล่าสุดมีการกล่าวอ้างอย่างขาดจรรยาบรรณของสื่อมวลชนอินโดนีเซียที่ประโคมข่าวการสังหารมุคตาร์ กีละว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือแปลตรงๆ ว่าเจ้าอาณานิคมไทย ทั้งๆ ที่รู้ดีจากการชี้แจงและให้ข่าวสารอย่างตรงไปตรงมาของรัฐบาลไทยว่าคนร้ายที่เสียชีวิตจากการตอบโต้ของชุดคุ้มครองหมู่บ้านเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการและมีเจตนาป้ายสีโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ การนำเสนอข่าวสารดังกล่าวจึงไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้นอกจากจะมีเจตนาแอบแฝงบางประการซึ่งก็ฟันธงได้เลยว่าเป็นการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่กำลังกระทำทารุณกรรมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่ในขณะนี้ แล้วเหตุผลใดล่ะที่สื่อมวลชนอินโดนีเซียต้องส่งเสริมกลุ่มคนที่ก่อเหตุร้ายนี่เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ และรัฐบาลอินโดนีเซียต้องตอบมายังรัฐบาลไทยอย่างชัดเจนด้วยว่าเหตุใด

การให้การสนับสนุนด้วยการบิดเบือนข่าวสารและเผยแพร่อย่างไร้จรรยาบรรณครั้งนี้อาจเป็นผลสืบเนื่องมากจากการที่รัฐบาลอินโดนีเซียสนับสนุนให้มีการประชุมของกลุ่มขบวนการพูโล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยมาโดยต่อเนื่องอย่างเปิดเผยและมีการนำเสนออย่างกว้างขวางโดยสื่อมวลชนอินโดนีเซียในเว็บไซต์ “ซัวรา อิสลาม ด็อตคอม” http://www.suara-islam.com/ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการนำเสนอบิดเบือนได้อย่างน่าสะอิดสะเอียนว่าทางการไทยใช้วิธีเข่นฆ่าประชาชน ลิดรอนสิทธิมุนษยชนทุกวิถีทางเพื่อดำรงความเป็นเจ้าอาณานิคม ซึ่งการนำเสนอในลักษณะนี้สำหรับในโลกปัจจุบัน ในโลกที่มีการมุ่งเน้นและพัฒนาความรู้ จริยธรรมและจิตใจคนเป็นอย่างดีไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ที่เจริญแล้วย่อมต้องสำนึกได้ว่าสิ่งที่ได้ทำไปมันถูกต้องตามครรลองหรือมันผิดแต่อยากจะทำ คงเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าน่าสงสารที่เอาคนมีปัญญาแค่หางอึ่งมาเป็นปากเป็นเสียง ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ด้วยปลายปากกา

ความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะสร้างความสงบสุข สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ลองถามคนในพื้นที่ดูก็จะรู้ว่าเขารับทราบเป็นอย่างดีถึงความจริงใจ มุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและทำมาโดยต่อเนื่อง มุ่งหวังเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอันเป็นที่รัก การเข้ามาก้าวก่ายป้ายสีในลักษณะนี้ถือว่าล้ำเส้นในฐานะเพื่อนบ้านหรือไม่ จริงอยู่ว่าสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงในการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ให้มวลชนรับทราบแต่การนำเสนอโดยไม่รับผิดชอบก็เป็นเรื่องน่าขยะแขยงของคนที่ได้รับเกียรติทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าบ้านหรือ watch dog  น่าจะลืมไปแล้วหรือยังถึงหน้าที่ที่ตนควรทำ


กรณีการบิดเบือนข่าวการลอบสังหารนายมุคตาร์ กีละ ในประเทศไทยน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่ชี้วัดให้เห็นว่ามาตรฐานของสื่อมวลชนอินโดนีเซียอยู่ในระดับไหน โลกเค้าไปถึงไหนแล้วอย่าดักดาน เห็นแก่พวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ควรจะเป็นอยู่เลย มองภาพของความเป็นจริง พิจารณาถึงสิ่งที่ควรทำแล้วมาร่วมมือกันสร้างสันติภาพในภูมิภาคบ้านเราดีกว่ามั้ย หรือว่าความคิดดีๆ แบบนี้ไม่เคยมีในใจมาก่อนเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น