หน้าเว็บ

7/13/2557

ชินทาโร่ ฮารา ซามูไรรับจ้างสร้างความแตกแยก เนรคุณแผ่นดินที่ให้อาศัยพักพิง

บินหลา ปัตตานี

ชินทาโร่ ฮารา ซามูไรรับจ้างผู้สร้างความปั่นป่วน, บ่อนทำลายประเทศที่เข้ามาอาศัยพักพิง และสร้างความแตกแยกใน จชต. ในคราบของนักวิชาการ สถานะอำพราง อาจารย์ประจำภาควิชาภาษามลายู คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มอ.ปัตตานี เป็นมุสลิมหลังเข้ารับอิสลามเมื่อ ๑๐ ปีก่อน นามอาหรับ  บาดีอุซซามาน เริ่มต้นจากการเรียนภาษามลายูที่มหาวิทยาลัยเคโอะ ประเทศญี่ปุ่น ติดตามครูชาวมาเลเซียมาลงพื้นที่รัฐยะโฮร์ มาเลเซีย เรียนต่อสาขามลายูศึกษา ที่มหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซีย มาเก็บข้อมูลที่ปัตตานี ก่อนตัดสินใจย้ายถาวรและสมัครเป็นอาจารย์ มอ.ปัตตานี ได้ซึมซับความเชื่อและวิถีชีวิตมุสลิมจนนำไปสู่การรับอิสลาม และผันชีวิตเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนในปีกด้านการเมือง โดยอ้างในเรื่องของความเป็นธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการปฏิบัติงานของ จนท.รัฐ และเรียกร้องในเรื่องต่างๆ และใช้อำนาจหน้าที่ความเป็นอาจารย์บิดเบือนข้อเท็จจริง ในการปลุกระดมบ่มเพาะให้กับนักศึกษา เป็นผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นที่ปรึกษาร่วมในชุมนุมกลุ่มเรียกร้องและร่วมประชุมสัมมนากับกลุ่มแนวร่วม นอกจากนี้ยังเขียนบทความลงในสื่อโซเชียลมีเดียสร้างความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะใน จชต. อีกด้วย


          ผลงานความเลว ของชินทาโร่ สุนัขรับใช้ BRN-ผู้ให้กำเนิดวาทกรรม รัฐไทย นักล่าอาณานิคมสยาม โดยไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ว่าพื้นที่ปัตตานี ปกครองโดยประเทศสยามมาก่อนเป็นขี้ค่าของ BRN (ฮาซัน  ตอยิบ) ในการแปลข้อเรียกร้อง ๕ ข้อ ของ BRN ที่ลงใน www.youtube.com และแปลเอกสาร, ป้ายผ้าของขบวนการ BRN เป็นภาษาไทย, เป็นกระบอกเสียงของ ฮาซัน ตอยิบ ผ่านทางสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน

            - ร่วมเสวนากับองค์กรภาคประชาสังคมที่เป็นแนวร่วมและให้การสนับสนุนกลุ่มขบวนการ เช่น กลุ่ม PerMASศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้, มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม, สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันสลาตัน, สำนักสื่อ WATANI ซึ่งแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ บ่อนทำลายชาติไทย ปลุกระดมสร้างความแตกแยกในสังคม เช่น แสดงความคิดเห็นว่า การเรียกร้องของชาวปาตานีถูกปฏิเสธมาตลอดทำให้คนมลายูบางกลุ่มต้องใช้อาวุธและเข้าในป่า แม้ส่วนตัวไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบแต่การเรียกร้องสิทธิของขบวนการ และคนใน จชต. เป็นสิ่งที่ชอบธรรม แสดงให้เห็นชัดว่า ชินทาโรเป็นแนวร่วมของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนอย่างแน่นอน


- นำองค์กรภาคประชาสังคม และนักข่าวลงพื้นที่พบปะผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยอ้างความยุติธรรม เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน แล้วนำเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใส่ร้าย จนท. โดยอ้างว่ารับทราบจากประชาชนในพื้นที่
- มีการเขียนบทความบิดเบือนความจริงที่สื่อออกมาในเชิงลบต่อ จนท. ล่าสุดเขียนลงใน เว็บไซต์ Deepsouthwatchเมื่อ ๖ ก.ค.๕๗ เรื่อง รายงานการประชุมกับฝ่ายทหาร มีการเขียนบทความภาษาอังกฤษ บิดเบือนข้อเท็จจริงโดยสรุปดังนี้


            ประการแรก เข้าใจว่า จนท.ทหาร จะจับตัวและไม่แน่ว่าจะขัง ๗ วัน นั้น ชินทาโร่ วิตกในความผิดที่ตนเคยกระทำเลยคิดไปเองว่าทหารจะจับตัว ตามกฎอัยการศึกทหารมีสิทธิเรียกหรือเชิญมาได้ถ้าเป็นบุคคลต้องสงสัยและมีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทำผิดถึงจะควบคุมตัวไว้ต่อเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม มิใช่จะใช้อำนาจตามอำเภอใจที่จะกักขังใครก็ได้ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็จะปล่อยตัวให้กลับบ้านไป

            ประการที่สอง ในเรื่องการวิจารณ์การทำงานของ จนท.รัฐ และ คสช. ที่แก้ตัวว่าได้หยุดการดำเนินการใดๆ ผ่านสื่อตั้งแต่ได้มีการยึดอำนาจการปกครอง แสดงว่ายอมรับว่าก่อนที่ คสช. จะทำรัฐประหาร เมื่อ ๒๒ ก.ค.๕๗ได้เคยดำเนินการ ชินทาโร่ ประสาทคุณเลอะเลือนแล้ว คุณไม่รู้หรือกฎอัยการศึกใน จชต. ประกาศตั้งแต่ปี ๔๗ แล้วไม่ใช่มีผลบังคับเมื่อ คสช. ประกาศ เมื่อ ๒๒ พ.ค.๕๗ คุณประพฤติไม่ถูกต้องก่อนที่ คสช.จะประกาศก็ผิดเหมือนกัน จนท.รัฐมีสิทธิ์ควบคุมตัวได้ ๗ วัน เหมือนกัน เมื่อเห็นว่ามีความผิดแต่ที่ผ่านมาจนท.รัฐ พยายามจะไม่ใช้อำนาจเต็มตามที่กำหนดเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขจะใช้อำนาจเมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น แต่ชินทาโร่ สมองกลวงคิดว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำได้ไม่เห็นเป็นไรไอ้คุณโง่รู้ไว้ที่ทำก่อนนั้นนะก็ผิดเหมือนกัน แต่ จนท. พยายามผ่อนปรนให้


            ประการที่สาม การพบ มทภ.๔ ในวันที่ ๑๘ มิ.ย.๕๗ เกรงว่าจะถ้าถูกจับ จะเป็นลางร้ายกับภรรยาที่ตั้งท้องได้ ๓ เดือน กำลังเตรียมเดินทางไปฮันนีมูนที่อินโดนีเซีย นี่ก็เช่นกันไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไร หรือทำชั่วไว้มากมายจึงกลัวถูกจับ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เป็นสากลและมีความเป็นมาตรฐานและยุติธรรมไม่สามารถจับผู้ที่บริสุทธิ์ได้ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว

            ประการที่สี่ การที่กล่าวว่าการสวดขอสันติสุขโดยผู้นำศาสนาในท้องถิ่น ดำเนินการจัดโดยฝ่ายทหารเป็นการกล่าวที่บิดเบียนจากความจริง ทหารทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้การสนับสนุนเท่านั้น

            ประการที่ ๕ ที่ มทภ.๔ ถามว่า คุณจะมีความสุขไหมถ้าผมทำสิ่งเหล่านั้นในประเทศของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณทำในประเทศของผม ชินทาโร่ ตอบว่า ผมมีความสุขมากและเคารพในสิทธิของเขา ต้องเรียกว่าไอ้โคตรเลว รู้ว่าคนอื่นมาบ่อนทำลายชาติตนยังยอมให้เขาทำ มีความสุขและเคารพในสิทธิของเขาที่จะสร้างความแตกแยกในชาติของตน อย่างนี้เขาเรียกว่าคนขายชาติ

            พฤติกรรมที่ชินทาโร่ ทำเปรียบเสมือนอสรพิษที่ทำร้ายและทรยศต่อประเทศที่ให้ที่อยู่อาศัย และที่ทำกินจนมีอาชีพการงานที่มั่นคง ชินทาโร่ คุณเคยนึกถึงบุญคุณของแผ่นดินไทยบ้างไหม คุณรู้จักคำว่ากตัญญูต่อแผ่นดินที่ให้ที่พักพิงบ้างหรือไม่ ชาวอาทิตย์อุทัย ยึดถือเรื่องซื่อสัตย์กตัญญูเป็นที่หนึ่ง คุณเป็นผีป่าซาตานมาจากไหนจึงไม่มีสิ่งนี้ในสันดาน ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเสียชื่อเพราะเวตาล ชินทาโร่ชิงสุนัขมาเกิด

-------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น