หน้าเว็บ

12/16/2559

“เอ็นจีโอ”ต้องคัดค้านอย่างโปร่งใส


ปัจจุบันการทำงานของ เอ็นจีโอ หรือองค์กรเอกชนที่อ้างประโยชน์เพื่อสังคม กำลังถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานหลัก ของประเทศต่างๆ เพราะที่ผ่านมา เอ็นจีโอ จะแสดงตัวเป็นผู้คัดค้านโครงการและนโยบายต่างๆ โดยอ้างมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ซึ่งก็เหมือนดาบสองคม เพราะ การคัดค้านของเอ็นจีโอ มีทั้งบวกและลบ มีผลต่อการพัฒนาประเทศโดยตรง
หลังจากที่มีตัวอย่าง กลุ่มต่อต้านถ่านหินในประเทศออสเตรเลีย และอินเดีย ถูกเปิดโปงโดย วิกิลีกส์ ว่า เอ็นจีโอ เหล่านี้ ได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากมูลนิธิอเมริกาอย่างลับๆ มี จอห์น โปเดสตา นักการเมืองของอเมริกา เป็นประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีให้กับ ฮิลลารี คลินตัน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวด้วยทำให้มีปฏิกิริยาจากรัฐบาลต้องมาตอบโต้การคัดค้านครั้งนี้ เพราะถือว่าถูกแทรกแซงกิจการภายใน
ประเด็นนี้น่าจะเป็นตัวอย่างได้ว่า การเคลื่อนไหวของ เอ็นจีโอ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องหรือมีเจตนาที่บริสุทธิ์เสมอไป ในบางกลุ่มบางกรณี อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ อาทิไม่ว่าจะเป็นการคัดค้านการสร้างเขื่อนหรือการคัดค้านการทำเหมืองหรือคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้า เป็นต้น
เพราะเมื่อมองถึงผลกระทบจากการคัดค้านไม่ว่าจะเป็นการชะลอโครงการหรือระงับโครงการ จะมีผลกระทบแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและความเป็นอยู่ปากท้องของชาวบ้านทั้งสิ้น
โดยผลกระทบเหล่านี้ เอ็นจีโอ ไม่ต้องรับผิดชอบหรือเยียวยาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เอ็นจีโอ ทำงานจนบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่นโยบายของประเทศและการพัฒนาประเทศกลับได้รับผลกระทบโดยตรง
จึงจำเป็นต้องมาทบทวนกันใหม่ว่า การที่เอ็นจีโอคัดค้านโครงการหรือนโยบายต่างๆของรัฐ ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนและกฎหมายมามากมายและได้รับการรับรองหรือเป็นความต้องการของประชาชนแล้ว
จะเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายและต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือไม่
รัฐบาล ออสเตรเลีย มีข้อมูลว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในออสเตรเลียและต่างประเทศ มีมูลนิธิที่ได้รับข้อยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุน ทั้งๆที่การพัฒนาเหมืองถ่านหินในรัฐควีนส์แลนด์สามารถจะสร้างงานได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นอัตราด้วยซ้ำไป
ปรากฏว่า เอ็นจีโอเหล่านี้ได้รับเงินสนับสนุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท มี 8 กลุ่มเอ็นจีโอที่จดทะเบียนเป็นองค์กรการกุศลและมีสิทธิได้รับเงินบริจาคเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียตรวจสอบรายได้ของเอ็นจีโอบางกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการถูกถอดออกจากองค์กรการกุศล ถือว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดระดับโลก และเพื่อความโปร่งใสในการทำงานของเอ็นจีโอ รัฐบาลออสเตรเลียกำลังเตรียมที่จะออกกฎหมายให้เอ็นจีโอเปิดเผยที่มาของแหล่งเงินจากต่างชาติแล้ว
เพราะถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง

โดย..หมัดเหล็ก www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น