หน้าเว็บ

2/14/2560

กลุ่ม ผกร.เป็นมิจฉาชีพ โจรปล้นเงิน และเกี่ยวข้องธุรกิจผิดกฎหมายจริงหรือ!!

"Ibrahim"


นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนจำนวน 413 กระบอก จากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2559 จากการเปิดเผยข้อมูลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ได้สรุปสถิติเหตุรุนแรงและความสูญเสียจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้น่าสนใจเลยทีเดียว

เหตุรุนแรง 3 ปีงบประมาณล่าสุด พบว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2557 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 663 เหตุการณ์ ปีงบประมาณ 2558 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 264 เหตุการณ์ ลดลง 399 เหตุการณ์ และปี 2559 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 193 เหตุการณ์ ลดลง 71 เหตุการณ์ นัยความรุนแรงที่ลดลงตามลำดับ เป็นตัวบ่งชี้อะไรได้หลายอย่าง ที่สำคัญมีผลต่อสังคมจิตวิทยาของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการอยู่อย่างสงบสุข

แต่ในอีกด้านหนึ่งของความมืด ท่ามกลางความสงบเงียบ ปราศจากเหตุร้ายรายวันเสมือนหนึ่ง   ทุกอย่างกำลังก้าวข้ามเข้าสู่สภาวะปกติ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงต้นน้ำแห่งความชั่วร้ายกลับเคลื่อนไหวยัดเยียดความเจ็บปวดให้กับประชาชนอีกครั้ง แสดงตัวตนซัยตอนในร่างคนมุ่งทำการก่อเหตุ

ยะลา - วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ยามดึกสงัดผู้คนทั่วไปต่างหลับนอน พักผ่อน กลับมีคนร้าย       ไม่ทราบจำนวน ซึ่งคาดว่ามีจำนวนหลายคนพร้อมอาวุธปืนครบมือบุกโรงโม่หินมนู ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา ทำการจี้บังคับเจ้าหน้าที่ รปภ.3 คน ของโรงโม่หินมัดมือไขว้หลังด้วยผ้าเทปกาวสีดำ จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้แยกย้ายกันไปจุดไฟเผาอาคาร  รถยนต์ ของโรงโม่หินมนู และโรงโม่หินศิลาทองซึ่งอยู่ติดกันได้รับความเสียหาย

ปัตตานี - เวลา 08.50 น. วันเดียวกัน ได้มีคนร้าย 3 คน ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ พร้อมอาวุธปืนครบมือกราดยิง นายสมาแอ ดอเลาะ นายก อบต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านพักเพื่อไปทำงานที่ อบต.ฯ บริเวณถนนสาย ปาโต๊ะ – บอมวง บ.ปาโต๊ะ ม.5 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.และขนาด 7.62 มม. ตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุจำนวนหลายสิบปลอก

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น.เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน แบบ 4 ประตู ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน จอดทิ้งไว้อยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ พื้นที่ ม.4    ต.ตาลีอายร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะคันเดียวที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุยิง นายก อบต.ปิยามุมัง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์

จากความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในเวลาต่อมาหน่วยงานความมั่นคง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุลอบยิงนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เสียชีวิต รวมถึงเหตุลอบวางเพลิงรถแม็คโคร รถบรรทุกสิบล้อ ภายในโรงโม่หินมนู และโรงโม่หินศิลาทอง เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เนื่องจากการข่าวสืบทราบว่า ทั้ง 2 กรณีนั้น มีที่มาที่ไปโดยกรณีของ นายสะมะแอ ดอเลาะ ซึ่งเป็นนายก อบต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พบว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ นายสะมะแอ    ได้เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมบอกว่า ตนกำลังถูกมือปืนมุ่งปองร้าย จึงต้องเปลี่ยนรถที่ใช้เป็นพาหนะตลอดเวลา นอกจากนี้ยังขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลคุ้มครองดูแลตน 

ส่วนกรณีของโรงโม่หินของ จ.ยะลา ทราบว่าน่าจะมาจากการขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์กันเองของคนในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าจะมีการยืมมือกลุ่มผู้ก่อความสงบมาใช้ในการก่อเหตุด้วยหรือไม่?

นราธิวาส – วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 10.45 น. คนร้ายจำนวน 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืน M-16 ยิง นายปกรณ์ ลิปิการวงศ์ อาชีพรับซื้อเศษยางพารา เสียชีวิตขณะยืนอยู่หน้าบ้านตนเอง ณ บ้านเลขที่ 104 ถ.เทศบาล 8 ม.3 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ในคราวเดียวกัน นายอุสมาน สะหะบูดิง ซึ่งยืนอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุถูกลูกหลงกระสุนจากคนร้ายเสียชีวิตไปด้วย

คดีนี้คนร้ายก่อเหตุสะเทือนขวัญ คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่ม ผกร. ซึ่งมีการเตรียมการ และวางแผนมาอย่างดี กลุ่มคนร้ายมีด้วยกัน 6 คน แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก มีจำนวน 4 คน ได้บุกใช้อาวุธปืน M-16 ยิงนายปกรณ์ฯ เสียชีวิต พร้อมทั้งได้ลอบวางเพลิงรถที่จอดอยู่ภายในร้านได้รับความเสียหายก่อนที่จะหลบหนีไป

ส่วนคนร้ายชุดที่ 2 จำนวน 2 คน ได้ทำหน้าที่คุมเชิงอยู่ที่ปากซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ เพื่อไม่ให้เข้ามาทำการช่วยเหลือนายปกรณ์ฯ และจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่ง นายอุสมาน สะหะบูดิง ถูกกระสุนปืนลูกหลงของคนร้ายชุดที่ 2 เสียชีวิต ขณะนั่งรอซื้อรถ จยย.มือ 2

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 เหตุการณ์ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้ปะทุความรุนแรงขึ้นอีกระลอกเหตุยิงนายก อบต.ปิยามุมัง เสียชีวิต และเหตุลอบวางเพลิงรถแม็คโคร รถบรรทุกสิบล้อ ภายใน โรงโม่หินมนู และโรงโม่หินศิลาทอง ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงชี้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่อาจจะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลัง ก็จะต้องรอข้อมูลการสืบสวนต่อไป

ส่วนเหตุคนร้ายบุกยิงเถ้าแก่รับซื้อเศษยางพารา และหนุ่มรอซื้อรถ จยย.มือ 2 ดับ คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่ม ผกร.ในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ผ่านมาพบว่าทุกครั้งหลังเกิดเหตุ ทุกคนจะพุ่งเป้าไปที่ปัญหาการก่อความไม่สงบ จนกระทั่งทำให้ลืมเรื่องอื่น ๆ เช่น ขบวนการค้ายาเสพติด ขบวนการลักลอบสินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน ส่งผลทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาพความรุนแรงเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นทั้งหมด เป็นรูปแบบของการก่อความไม่สงบ สร้างความหวาดกลัวให้กับนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำการค้าการลงทุน รวมถึงกระทบต่อการสร้างความปรองดองระหว่างคนในพื้นที่ สิ่งที่สำคัญเมื่อเป็นเช่นนี้ ส่งผลให้ผู้ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้

อย่างไรก็ตามใช่ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะไม่มีความเชื่อมโยงกับสิ่งผิดกฎหมายเลยทีเดียว ที่ผ่านมาพบว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุน หรืออยู่เบื้องหลังความรุนแรงทั้งที่เกิดขึ้น เช่นเหตุการณ์ในเรื่องส่วนตัว ปมความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ตลอดจนปัญหาในเรื่องการเมืองท้องถิ่น

หรือแม้กระทั่งในหลายๆ เหตุการณ์ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกลับกลายเป็นมิจฉาชีพ เป็นโจรปล้นเงิน กระทำในสิ่งผิดกฎหมายซะเอง พฤติกรรมส่อให้เห็นว่าไร้อุดมการณ์ มุ่งกระทำการป่าเถื่อนสุดโต่ง
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเลี่ยงการใช้กำลัง ลดความรุนแรง สร้างความเข้าใจให้ต่อคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของชาวบ้านเป็นหลัก จนกระทั่งเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงตามลำดับ ในเมื่อผู้คนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ดีกินดี ส่งผลให้การแก้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ควบคู่กับการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนตามมาตรการที่เข้มงวดเช่นเดิม.
----------------------
  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น