หน้าเว็บ

6/05/2560

งามไส้!! อัญชนา - พรเพ็ญ พฤติกรรมที่ไม่เคยเปลี่ยน

"Ruslan"


จากกรณี นายดาโห๊ะ  มะถาวร ครูโรงเรียนตาดีกา ประธานชมรมตาดีกา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ได้หายตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 24/1 หมู่ 3 ตำบลทุ่งพอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ซึ่งหลังการหายตัวไปเวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา นายดาโห๊ะฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับภรรยาและญาติว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปกักขังไว้ในสถานที่คล้ายกับค่ายทหาร และต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นายดาโห๊ะ ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยปลอดภัย ทั้งนี้ภายหลังจากเหตุการณ์ นายดาโห๊ะ ได้หายตัวไปนั้นได้มีการใช้สื่อต่างๆ ชี้นำให้สังคมเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการสร้างความหวาดระแวงและทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายดาโห๊ะ มะถาวร ไปศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อทำการสอบถามหาความจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร?
ผลจากการสอบถาม นายดาโห๊ะฯ ได้ให้การสารภาพว่า ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับตัวดังที่ได้กล่าวอ้าง และปรากฏเป็นข่าว โดยในวันดังกล่าวตนเองได้นัดให้ผู้หญิงที่รู้จักกันทางเฟสบุ๊ค มาประมาณ 5 เดือน มารับที่บริเวณหมู่บ้าน และเดินทางไปพักที่บ้านฝ่ายหญิงที่จังหวัดสตูล และในระหว่างนั้นได้ติดต่อกับภรรยาและญาติมาอย่างต่อเนื่องว่า ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปขังในสถานที่เหมือนค่ายทหารแต่ปลอดภัยดี และต่อมาเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560 ได้เดินทางกลับบ้านโดยให้น้องชายไปรับที่สถานีรถโดยสาร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ภายหลัง นายดาโห๊ะฯ ได้หายตัวไปนั้น นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ และสื่อแนวร่วมได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ และใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการสื่อสาร เพื่อให้สังคมเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามบังคับให้สูญหาย ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวง และไม่เชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ


  พฤติกรรมที่ผ่านมาของกลุ่ม NGOs บางองค์กรและสื่อแนวร่วมขบวนการ มักชอบแถด้วยข้อความ       ไร้พยานหลักฐานไร้ข้อเท็จจริง ชอบเสริมเติมแต่งข้อมูลด้วยตัวอักษร ไม่เคยมีพยานหลักฐานใดๆ นำมาแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งต่างจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐานเด่นชัด รวมถึงการนำกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ก่อนจะนำเสนอข้อมูลทุกครั้ง ซึ่งมีความแตกต่างกันเป็นการสะท้อนเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูล เหมือนเหรียญคนละด้าน หรือด้านมืดกับด้านสว่าง แต่ที่เจ็บปวดใจคือคนในพื้นที่บางกลุ่ม กลับหลงเชื่อการนำเสนอข้อมูลที่ไร้หลักฐานข้อเท็จจริง เพราะคนเหล่านี้ชอบอ้างว่า “เขาเล่ามา เขาพูดมา เขาบอกว่าจับผิด เขาบอกว่าโดนทรมาน เขาบอกว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนทำ เขาบอกว่าเป็นการจัดฉาก เขาบอกว่าเจ้าหน้าที่อุ้ม”เมื่อเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กลับสื่อให้สังคมเห็นว่าถูกจับโดยไร้หลักฐานอีกแล้ว!! พี่น้องของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลงเชื่อกลายเป็นเหยื่อของ กลุ่ม NGOs และสื่อแนวร่วมของกลุ่มผลประโยชน์ BRN โดยไม่ทันคิดวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงรอบด้าน กลับกลายเป็นประเด็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้


การบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 ซึ่งมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ใคร!! ที่กระทำความผิดกฎหมายจะลงโทษอย่างไรนั้นจะต้องระมัดระวังกันในการนำเข้าข้อมูลเพื่อทำการเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์
“มาตรา 14” ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
การนำข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จของนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ สมควรจะต้องดำเนินคดีเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมในสังคม

สำหรับนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และนางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ เคยถูกฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการเผยแพร่รายงานสิทธิมนุษยชนปี 59 อันเป็นเท็จ ได้รับการถอนฟ้องให้ แต่พฤติกรรมกลับไม่เคยเปลี่ยน ไร้จิตสำนึกแทนที่จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม หาข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำเสนอและเคลื่อนไหวใดๆ แต่ก็ยังไม่หลาบจำคงนำเสนอข้อมูลบิดเบือนอันเป็นเท็จ นี่คงเป็นบทเรียนในการออกแถลงการณ์การเผยแพร่ข้อมูล ถ้าถามหาความรับผิดชอบของ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจ และสื่อบางสำนักจะมีมากน้อยแค่ไหน? ควรจะออกมาขอโทษต่อสังคมและคนในพื้นที่โดยเฉพาะครอบครัวของนายดาโหะด้วย หรือแค่เป็นการกระทำสาดโคลนใส่ผู้อื่นแต่ไม่ยอมชำระล้างปล่อยให้เหม็นต่อไป...คอยติดตามกันต่อไป
------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น