หน้าเว็บ

11/06/2560

อุดมการณ์ในการต่อสู้!!! ในปาตานี


          สิ่งที่ถูกผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังนำมาหยิบยก ให้กลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือผู้ก่อเหตุรุนแรงยึดถือเป็นอุดมการณ์ในการต่อสู้  (The ideology in the fight)  คืออะไร มีการออกแบบ สร้าง และใช้อย่างไร  ใคร่ขอนำมาไล่เรียงทีละประเด็นดังนี้
ทำไมเยาวชนวัยรุ่นหนุ่มสาวจึงตกเป็นเป้าหมาย!!!
เยาวชนหรือวัยรุ่นจะมีความกระตือรือร้นสูง  มีพลังและความปรารถนาอันแรงกล้า ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงและได้รับการยอมรับ อีกทั้งสังคมทั่วไปเชื่อและยอมรับว่าพลังเยาวชนเป็นพลังบริสุทธิ์ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็คืออยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงของวัย ซึ่งจะสับสน เคว้งคว้าง  ยังไม่แน่ใจในเป้าหมายของชีวิตตน  กอปรวุฒิภาวะยังน้อย หรืออ่อนต่อโลก  เป็นเป้าหมายที่ผู้นำ หรือผู้ที่ทำหน้าที่กระตุ้นแนวความคิด (catalyst)  สามารถที่จะเผยแพร่แนวความคิด สร้างแรงบันดาลใจ  เพื่อชักจูงให้เข้าร่วมขบวนการได้โดยง่าย ยิ่งถ้าผู้บอกเล่าเป็นครู  หรือผู้นำในด้านใดด้านหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากชุมชน และเป็น Idol เยาวชนเหล่านั้น เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งจะทำให้เยาวชนหลงเชื่อได้โดยบริสุทธิ์ใจ

การสร้างอุดมการณ์ร่วมกัน ทำอย่างไร!!!
การแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง คือปรัชญาในการปลูกฝังอุดมการณ์ที่สร้างขึ้นมา เช่น นำเรื่อง เชื้อชาติ ศาสนา มาตุภูมิ  มาขยายให้เห็นจุดร่วมและจุดต่างชัดขึ้น  ฉายภาพประวัติศาสตร์ที่หยุดนิ่งเพื่อสร้างความเคียดแค้น เกลียดชัง (hatred)  บนความแตกต่าง หรือไม่ก็ต้องสร้างเหตุการณ์ที่สำคัญเพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์เชิงบาดแผลร่วมสมัยไว้สำหรับการระลึกถึง  และใช้การกระตุ้นทางการเมืองและศาสนา เป็นระยะๆ เพื่อสร้างความเกลียดชังหล่อเลี้ยงอุดมการณ์ที่สร้างขึ้นมา ให้เชื่อว่าเป็นอุดมการณ์ในการต่อสู้ร่วมกัน โดยที่เหยื่อเหล่านั้น ไม่รู้เลยว่าอุดมการณ์ที่รับการปลูกฝังมานั้น  เป็นอุดมการณ์ที่ถูกวางแผน และสร้างขึ้นมา อาจจะเนื่องมาจากความเคียดแค้นส่วนตัวของบุคคล  หรือกลุ่มบุคคล ที่อาจจะเคยได้รับการปฏิบัติอย่างอยุติธรรม หรือหลงผิดคิดว่าคนคือตนกับรัฐเป็นสิ่งเดียวกันเท่านั้น  หรืออาจจะเป็นผลประโยชน์แห่งรัฐ ซึ่งกว่าที่เยาวชนผู้หลงเชื่อเหล่านั้นจะรู้ก็ถลำลึก และได้สูญเสียช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตไปเสียแล้ว กลายเป็นผู้หลงผิดในสายตาของรัฐ
  
แล้วอะไรคืออุดมการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้!!!

ในช่วงแรกๆ ของการสร้างสถานการณ์ไม่มีกลุ่มใดๆ ออกมายอมรับ  เรียกร้อง หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ  ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความสับสน ว่าใคร และทำเพื่ออะไร แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งขบวนการที่คิดว่า ตนเองมีอิทธิพลมากสุด  ได้ออกมาแถลงการณ์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2556  , ตุลาคม 2558 และ เม.ย.60 ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง ก็ไม่ได้กล่าวถึงอุดมการณ์ในการต่อสู้แต่อย่างไร มีเพียงข้อเรียกร้องและความต้องการได้รับการยอมรับ แม้กระทั่งแถลงการณ์ล่าสุดของกลุ่มผู้แทนในการพูดคุย ซึ่งผู้แทนจากขบวนการสำคัญก็เป็นหนึ่งในนั้น ก็มีเพียงความต้องการได้รับการยอมรับถึงกับเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กฎหมายพิเศษรับรองสถานะของตน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีเอกภาพและสถานะปัจจุบัน ที่ชัดเจน ประมวลจากภาพเหล่านี้ก็อาจจะเป็นคำตอบได้ว่า สาเหตุที่ขบวนการและกลุ่มเหล่านี้ไม่เคยพูดถึงอุดมการณ์ในการต่อสู้เลยก็เพราะว่ามันไม่เคยมีกระมัง  มีแต่ผู้หลงผิด ยึดติดในสิ่งที่ถูกสร้างและได้รับปลูกฝังขึ้นมาเท่านั้น ที่ยังหลงผิดคิดว่านั่นคืออุดมการณ์ของขบวนการที่ตนร่วมอยู่ และหลงว่าตนกับขบวนการคือสิ่งเดียวกัน

เยาวชนเป้าหมายระหว่างการปลูกฝัง จะเป็นอย่างไร!!!
เราอาจวิเคราะห์กระบวนการสร้างแนวร่วมที่ปฏิบัติอยู่ในพื้นที่ จชต.เทียบเคียงกับบันไดสู่การก่อการร้าย (Staircase to Terrorism) ของ Moghaddam ได้ดังนี้
เยาวชนผู้หลงผิดเมื่อได้รับการปลูกฝัง ตอกย้ำ จะเกิดการตีความทางจิตวิทยา รู้สึกว่าอัตลักษณ์ของตนและกลุ่มตนถูกคุกคาม ไม่มีความสำคัญ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ยิ่งรวมเข้ากับประสบการณ์ตรงที่พบเห็น หรือการบอกเล่าของบางคนในกลุ่มที่ได้รับประสบการณ์ตรง จะยิ่งสามารถสร้างความคุมแค้น เกลียดชังได้ง่ายขึ้น ซึ่งขั้นแรกนี้จะถูกปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย
ทำให้เยาวชนที่ได้รับการปลูกฝังเหล่านั้นต้องพยายามหาทางออกเพื่อต่อต้านความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม หลงเชื่อโดยสนิทใจในสิ่งที่ได้รับการปลูกฝัง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแยกตัวเองจากผู้ที่ไม่ได้คิดเหมือนตน ปฏิเสธความคิดของผู้อื่น แม้กระทั่งคนในครอบครัว
การเลือกเยาวชนเป้าหมายจะต้องเป็นเยาวชนที่มีความประพฤติเรียบร้อย มีความอ่อนไหวง่ายต่อการปลูกฝังอุดมการณ์ทางความคิด โดยที่ผ่านมาส่วนมากจะเป็นครูสอนศาสนา รุ่นพี่หรือบุคลากรในสถานศึกษาที่เป็นนักจัดตั้ง ทำการปลุกระดม ชักชวนให้เยาวชนเป้าหมายเข้าสู่ขบวนการ ซึ่งจะแบ่งเป็นเยาวชนที่อยู่ในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา
การเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ในการชักชวนเยาวชนเป้าหมายเข้าร่วมอุดมการณ์ ปัจจุบันมีความสะดวกมาก เพราะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจกับเทคโนโลยีทางการสื่อสารมากยิ่งขึ้น มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง จึงเป็นช่องทางให้กลุ่มขบวนการ ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโน้มน้าว ชักชวนกลุ่มเยาวชนเป้าหมายที่มีคุณสมบัติดังกล่าว พร้อมกับมีการนัดพบปะเพื่อปลูกฝังอุดมการณ์แนวความคิดต่อต้านรัฐ พัฒนาเยาวชนเป้าหมายไปเข้าสู่ขบวนการตามขั้นตอนในการจัดตั้งเพื่อเป็นสมาชิกร่วมอุดมการณ์ต่อไป
พัฒนาการต่อมาก็คือไม่ยอมรับความจริงที่รับรู้ได้ในภายหลัง มีแนวคิดที่สุดโต่ง ใช้ความรุนแรง (Violent Extremism) ขาดสำนึกในเรื่องผิดชอบชั่วดี ต้องการแก้แค้น คิดว่าฆาตกรรมเป็นสิ่งที่ไม่ผิด แยกตัวออกจากครอบครัว เชื่อว่าการใช้ความรุนแรงเป็นทางที่ถูกต้องตามหลักความเชื่อศาสนาโดยถูกปลูกฝังในทางที่ผิด เป็นสิ่งที่ทำให้เหนือฝ่ายตรงข้ามและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำและพร้อมที่จะใช้หรือเข้าร่วมกับกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตน และเป็นผู้เข้าร่วมขบวนการในที่สุด
เมื่อร่วมขบวนการแล้วเป็นอย่างไร!!!
ผู้เข้าร่วมขบวนการจะต้องรับการฝึกเพื่อสร้างความฮึกเหิม และความมั่นใจในการก่อเหตุรุนแรง สร้างความเกลียดชังหล่อเลี้ยงอุดมการณ์ร่วมในการต่อสู้ที่สร้างขึ้นมา เริ่มก่อเหตุจากง่ายๆ ให้มีหมายจับเพื่อยึดโยงทางกฎหมายอีกที ขยับจากเรื่องง่ายไปยาก เรื่องเล็กไปใหญ่ตามลำดับ หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การสร้างกงล้อแห่งความหวาดกลัว     โดยเริ่มจากสร้างความรุนแรงและเสียหายในพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลกระทบในด้านที่ต้องการ  สร้างความหวาดกลัว และการจดจำ  เป็นวงจรไปเรื่อยๆ โดยผู้เข้าร่วมขบวนการไม่รู้ว่าจะหาทางออกจากกงล้อนี้ได้อย่างไร
เมื่อรู้แล้ว จะออกจากขบวนการได้อย่างไร!!!
ผู้เข้าร่วมขบวนการไประยะหนึ่งแล้ว จะรับรู้ความจริงและตระหนักในสำนึกความรับผิดชอบ ชั่ว ดี อยากออกมาจากขบวนการ ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ติดพันธะทางกฎหมาย พันธะขบวนการสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ตลอดจนความไม่รู้ เป็นอุปสรรคไม่สามารถทำตามที่ใจตนเองต้องการ จะปรึกษาปัญหานี้กับใครก็ไม่ได้ มีแต่เพื่อนร่วมขบวนการจำใจต้องร่วมขบวนการไปเรื่อยๆ การหาทางออกที่ดีที่สุดของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป  แต่รัฐบาลมองว่าเยาวชนเหล่านี้คือผู้หลงผิด ซึ่งควรได้รับโอกาส และโครงการพาคนกลับบ้านที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่ขณะนี้เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้หลงผิดเหล่านี้ เมื่อรู้แล้วจะยอมเป็นตัวแทนของผู้ที่มีความเกลียดชัง เคียดแค้นเป็นการส่วนตัว ไปเพื่ออะไร

"ดำดิ่งมหาสมุทร"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น