หน้าเว็บ

6/11/2561

ทำไมโจรใต้ ต้องฆ่าผู้นำทางศาสนา



อามีน ยา 
นับเป็นการก่อเหตุอันรุนแรงที่อยู่นอกเหนือความคาดฝัน เมื่อคนร้ายกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนสังหาร นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน  คณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นห้วงแห่งการถือศีลอด นำมาซึ่งความรู้สึกเศร้าสลดให้แก่คนไทยทั้งประเทศ  โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ส่วนราชการทั้งหลาย เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลอันเป็นที่เคารพรักและนับถือของคนทั่วไปในพื้นที่     นับเป็นการสูญเสียบุคคล ที่มีคุณค่า และสำคัญคนหนึ่งของประเทศ

            นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน  ไม่ใช่รายแรกที่ถูกโจรใต้ลอบฆ่าที่ผ่านมาโจรใต้ได้ฆ่าผู้นำศาสนามาแล้วหลายราย บางรายเสียชีวิตด้วยเหตุขัดแย้งส่วนตัวและบางรายเสียชีวิตด้วยน้ำมือผู้ก่อความไม่สงบส่วนมากแล้วจะเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ผู้เขียนจึงขอยกตัวอย่างบุคคลสำคัญถึงแม้ท่านจะจากเราไปแล้วก็ตาม


            -อิหม่ามยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 56 เวลา 16.38 น. ขณะซื้อกับข้าวเพื่อเปิดปอสอแถวตลาดจะบังติกอ เป็นเหตุเสียชีวิตทันที ต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 2556 นายมาฮูเซ็น แมฮะ ผู้ก่อความไม่สงบทีมสังหารขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก อิหม่ามยะโก๊บ หร่ายมณี งเป็นบุคคลที่อุทิศตนช่วยเหลือสังคม และให้ความร่วมมือกับส่วนราชการหลายด้าน ซึ่งเห็นได้จากการได้รับประกาศเกียรติคุณ และรางวัลอันมากมาย เช่น โล่รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมด้านศาสนาระดับประเทศ รางวัลพระราชทานผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายใต้ รางวัลพระราชทานผู้ดำเนินรายการวิทยุดีเด่นของสมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย รางวัลพระราชทานโครงการคัดเลือกผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
สาขาการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จนได้รับฉายาว่า วีรบุรุษสันติภาพชายแดนใต้



            -เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.60 เวลา 21.35 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ยิงนายอาแว เตาะสาตู(เสียชีวิต) และลูกชายได้รับบาดเจ็บ ขณะกำลังกลับจากละหมาดตารอแวะห์ที่มัสยิด ในพื้นที่ ม.5 ต.ปูโละปูโย อ.หนองจิก ปัตตานี นายอาแว เป็นอุสตาซ สอนศาสนา และเป็นเจ้าของโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลามศึกษา มีส่วนร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี เป็นแกนนำคนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการกำปงตักวา หรือชุมชนศรัทธา จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านการเสริมสร้างความยุติธรรมของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาได้เข้ามามีส่วนช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ช่วยรณรงค์ให้ผู้เห็นต่างเข้ามารายงานตนตามโครงการพาคนกลับบ้าน อาจกล่าวได้ว่านายอาแวเป็น “วีรบุรุษสันติวิธี” อย่างแท้จริง


            - ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้ลอบยิง นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน อายุ 55 ปี จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี และส่งต่อ รพ.ปัตตานี เเละได้เสียชีวิตลง วันที่ 10 มิ.ย. 61 เวลา 02:45 น. นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน เป็นรองประธานอิสลามจังหวัดปัตตานี และเจ้าของโรงเรียนปอเนาะลาลอ เขายัง เป็นหัวหน้าคณะอนุกรรมการบริหารพูดคุยสันติสุข เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับ สำนักงานเซฟตีเฮาส์ (SAFETY HOUSE) และศูนย์ประสานงานการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อีกด้วย  ทั้งนี้ในวันที่ 10 มิถุนายน 2561 มีพิธีละหมาดศพและพิธีฝังศพ นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี บริเวญบ้านลาลอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีประชาชน จาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลาปัตตานี นราธิวาส และสงขลา มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคน ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาครอบครัวและมิตรสหาย


            จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนเข่นฆ่าผู้นำทางศาสนาอิสลาม ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือรัฐในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่  อีกสาเหตุหนึ่งมาจากการที่อิหม่ามเป็นผู้นำศาสนาที่ต่อต้านการบิดเบือนหลักศาสนาอันดีงาม  ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับข้างฝ่ายขบวนการที่นำศาสนามาบิดเบือนเพื่อให้แนวร่วมหลงผิดเข้าร่วมขบวนการ  การปล่อยไว้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้โดยใช้ศาสนาที่ถูกบิดเบือนมาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว

            และหากจะมีใครซักคนที่ต้องถูกสังหารเพื่อสร้างกระแสความหวาดกลัวและยอมเชื่อฟังในคราวเดียวกันให้เกิดขึ้นกับแนวร่วมที่ถูกข่มขู่ใช้งานแล้ว  นายอดุลย์เดช เจ๊ะแน คือเหยื่อที่คุ้มค่าและได้ผลมากที่สุด

          เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ซึ่งจะสร้างความหวาดกลัวและให้ความร่วมมือของผู้นำศาสนาในพื้นที่ได้อีกนาน

          แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดผู้นำศาสนาที่ยึดมั่นในแนวทางตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในมุมของศาสนาอิสลามและการแสดงจุดยืนในการสร้างสันติในเมฆหมอกแห่งความขัดแย้งได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะฮฺแล้ว  ในฐานะที่ได้ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และเห็นถึงความตั้งใจจริงของท่านมาโดยตลอด ขอให้ความดีของท่านได้เกื้อหนุนให้ท่านไปสู่โลกอาคีเราะห์อย่างที่ท่านตั้งใจด้วยเถิด..... ด้วยจิตคารวะ  อามีน     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น