หน้าเว็บ

5/05/2558

หนังไตรภาค‘บันนังกูแวเลือด’ ตอน แผนจองเวรฮากิม

อิมรอน

บันนังกูแว คือหมู่บ้านหนึ่งในตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ตามตำนานเล่าว่าที่ตั้งบ้านบันนังกูแว พื้นที่เดิมส่วนมากเป็นทุ่งนา และมีต้นกูแว (ต้นกก) อยู่เป็นจำนวนมากชาวบ้านใช้ในการจักสานเสื่อไว้ใช้สอยในครัวเรือน หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านอื่นๆ การเดินทางไปมาระหว่างหมู่บ้านจะใช้ทุ่งนาเป็นทางสัญจร ซึ่งจะมีการเรียกชื่อหมู่บ้านว่าบือแนกูแวจนกระทั่งในปัจจุบันได้มีการเรียกชื่อจนผิดเพี้ยนกลายมาเป็นบันนังกูแว

ในอดีตหมู่บ้านบันนังกูแว ผู้คนในหมู่บ้านมีความรักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน สมาชิกในหมู่บ้านส่วนใหญ่มีจิตใจเอื้ออารีย์ ถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยเหลือซึ่งกัน มีการพูดคุยปัญหาปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน อีกทั้งผู้น้อยยังเคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนของคนเฒ่าคนแก่

บันนังกูแวปัจจุบันนี้ได้แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากอดีตที่ผู้คนเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกลับมีความหวาดระแวงต้องระวังภัยไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองตอนไหน สถานการณ์ไฟใต้ที่ก่อเกิดได้ลุกลามทำลายความสุขของประชาชนจนหมดสิ้น กลุ่มขบวนการมุ่งสร้างความแตกแยกของผู้คนในสังคม ทำลายล้างผู้ที่ไม่เห็นด้วยไม่ให้ไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่หันหลังให้กับขบวนการ จะถูกตามฆ่าและทำลายชีวิตของคนครอบครัว

หากย้อนรอยมาดูเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับบ้านบันนังกูแวแห่งนี้ ชนวนเดือดละเลงด้วยเลือดผู้คนต้องสังเวยชีวิต คนแล้วคนเล่าต้องล้มหายตายจากโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่!!..
วันที่ 23 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 19.45 น. คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุกราดยิงชาวบ้านบริเวณหน้ามัสยิดบ้านบันนังกูแว เป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิตทันที 1 ราย บาดเจ็บจำนวน 3 ราย มีเด็ก อายุ 12 ปี คนชราอายุ 70 ปี รวมอยู่ในนั้นด้วย

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 13.45 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณทางโค้งในหมู่บ้าน เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้ อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ (ฮากิม) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พร้อมน้องชายและเพื่อนได้รับบาดเจ็บ

23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 01.00 น. คนร้ายใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะ กราดยิงแล้วเผาบ้าน 2 หลัง เป็นเหตุให้สองสามีภรรยา นายดอเลาะ-นางมารีแย ผดุง เสียชีวิต บ้านเรือนได้รับความเสียหายรถยนต์โดนเผา 3 คัน

วันที่ 20 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 15.25 น. คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงราษฎรเสียชีวิต 3 รายและได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ขณะขับรถยนต์กระบะอยู่บนถนนสาย 410 บ้านบันนังกูแว ผู้เสียชีวิตคือ นายดอรอแม ดาราเซะ, นางอาอีเสาะ เฮงดาดา, และ เด็กหญิงนูรอีมาน ดาราเซะ (อายุ 2 ปี 8 เดือน) ผู้ได้รับบาดเจ็บ เด็กชายสุไลมาน ขอสวัสดิ์ (อายุ 12 ปี 2 เดือน) ซึ่งบุคคลทั้งหมดเป็นสมาชิกในครอบครัวของฮากิม


และล่าสุดวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนบันนังสตา ชุดสิงห์ดำ และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านบันนังกูแว ถูกคนร้ายลอบยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย ซึ่งทุกคนล้วนเป็นเพื่อนสนิทของฮากิม  

ตั้งแต่ปลายปี 56 จนถึงปัจจุบันบ้านบันนังกูแวได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 6 ราย ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย ที่สำคัญผู้ก่อเหตุไม่มีการแยกแยะยังคงมุ่งก่อเหตุกระทำต่อเด็กซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอต้องมารับเคราะห์กรรมถึงแก่ชีวิตและได้รับบาดเจ็บถึง 3 รายด้วยกัน

นี่คือหนังไตรภาคเรื่องยาวบันนังกูแวเลือดอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งสนธยาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่บ้านบันนังกูแว หรือเหตุการณ์อื่นๆ นอกพื้นที่ จะมีชื่อบุคคลผู้หนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ด้วยแทบทุกครั้งไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม คือนายอับดุลฮากิม ดาราเซะ หรือฮากิม อดีตอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งแทบทุกครั้งที่เกิดเหตุมีใบปลิวแอบอ้างการกระทำเพื่อแก้แค้นตอบโต้รัฐ ที่ปล่อยให้ฮากิมระรานชาวบ้าน

ฮากิมคือใคร? ทำไมเขาถึงถูกตามจองล้างจองผลาญจากกลุ่มขบวนการด้วยการลอบวางระเบิดรอดตายอย่างหวุดหวิดพร้อมน้องชายและเพื่อน มีการทิ้งใบปลิวกล่าวหาฮากิมระรานชาวบ้าน กระทำต่อพ่อแม่ และหลานวัยแค่ 2 ขวบ ของฮากิมต้องถูกขบวนการฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม!! และล่าสุดเพื่อนสนิทถูกลอบยิงบาดเจ็บถึง 6 ราย

ฮากิมเคยเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มขบวนการ จุดเปลี่ยนนำไปสู่จุดแตกหัก!! เมื่อมีการสั่งการให้ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองฮากิมเลยตัดสินใจหันหลังให้กับขบวนการ นำมาซึ่งความไม่พอใจของระดับแกนนำที่เคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านบันกูแว และหลังจากนั้นฝันร้ายได้ตามหลอกหลอนฮากิมต้องนอนผวาแทบทุกคืน

เขาถือว่าผมสกปรกแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นก็มาโยนใส่ กล่าวหาว่าผมเป็นคนทำทั้งหมด นี่คือคำกล่าวของฮากิม ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา และทุกเหตุการณ์ถูกโยงมาถึงตัวเขา
ฮากิมถูกระบุว่าเกี่ยวพันกับเหตุคนร้ายบุกยิง นายดอเลาะ ผดุง และนางมารีแย ผดุง สองสามีภรรยาจนเสียชีวิตในบ้านบันนังกูแว หลังจากฮากิมโดนระเบิดแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์

นายดอเลาะ ผดุง มีพฤติกรรมเป็นแกนนำแนวร่วมตั้งแต่ปี 2553 หลังจากนายมะยาหะรี อาลี ซึ่งเป็นแกนนำในพื้นที่บ้านบันนังกูแว ได้ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต จึงได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทน

นางมารีแย ผดุง ภรรยานายดอเลาะฯ เป็นแกนนำฝ่ายสตรีเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทำหน้าที่ปลุกระดมมวลชน ชักชวนให้ราษฎรออกมาชุมนุมต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่บ้านบันนังกูแว ส่วนนายอาแซ (ซัน) ผดุง บุตรชายเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการ จบการศึกษาชั้น 10 จากโรงเรียนธรรมวิทยา ในระหว่างกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิด 7 จุด ภายในเขตเทศบาลนครยะลา

บันนังกูแวเป็นบ้านเกิดของฮากิมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองสามีภรรยามุสลิมวัยชราเป็นเรื่องที่คนในพื้นที่รับไม่ได้ และหลังจากนั้นชื่อของเขาก็ไปปรากฏในใบปลิวใบแล้วใบเล่า เช่นเหตุขว้างระเบิดเข้าไปในร้านขายก๋วยจั๊บ ในตัวเมืองยะลา เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2557 แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน, เหตุสังหาร ด.ต.เอกพงษ์ ศักดายุทธ อดีตตำรวจสันติบาลวัย 65 ปี เสียชีวิตคาปั๊มน้ำมันใน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม 2557

รวมถึงเหตุสังหารหมู่ 3 ศพ คณะผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกาสังใน ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา เมื่อบ่ายวันพุธที่ 2 เมษายน 2557 โดยหนึ่งในสามเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิงถูกคนร้ายตัดคออย่างโหดเหี้ยม

ข้อความใบปลิวไม่ได้กล่าวหาว่าฮากิมเป็นคนกระทำ แต่อ้างว่าเป็นการกระทำต่อผู้บริสุทธิ์อีกศาสนาหนึ่ง เพื่อแก้แค้นตอบโต้พฤติกรรมของฮากิมที่ถูกอ้างว่ากระทำต่อผู้บริสุทธิ์ในศาสนาอิสลาม...ศาสนาเดียวกับเขา

ฮากิมถูกกลุ่มขบวนการโจรใต้ตามล่าด้วยการลอบวางระเบิดหวังสังหารเขากับน้องชายและเพื่อน ขณะขับรถยนต์อยู่ในพื้นที่บ้านบันนังกูแว แต่กลับรอดหวุดหวิด ถัดจากนั้น 7 วันสองสามีภรรยาตระกูลผดุงก็ถูกสังหาร และมีกระแสข่าวว่าเป็นการกระทำของเขาเพื่อแก้แค้นที่ถูกลอบวางระเบิด

กระทั่ง 20 เมษายน 2557 ครอบครัวของ ฮากิมคือ นายดอรอแม ดาราเซะ พ่อวัย 54 ปี นางอาอีเสาะ เฮงดาดา แม่วัย 49 ปี และ เด็กหญิงนูรอีมาน ดาราเซะ หลานสาววัยเพียง 2 ขวบ ก็ถูกคนร้ายยิงตายคารถทั้ง 3 คน บนถนนสาย 410 ที่เชื่อมระหว่างบันนังสตากับเมืองยะลา

ฮากิมเคยประกาศแตกหักกับขบวนการต่อหน้าชาวบ้านบันนังกูแว....
หากต้องการอย่างนั้นก็ได้ ทุกคนไม่ว่าใครก็รักชีวิตของตัวเอง คุณก็รักชีวิตคุณ ผมก็รักชีวิตผม หากใครอยากได้ชีวิตผมก็เข้ามา ถ้าพวกคุณได้พวกคุณก็ชนะ ถ้าผมได้ผมก็ชนะ

ซึ่งหลังจากนั้นฮากิมถูกตามไล่ล่าจากกลุ่มขบวนการโจรใต้ซึ่งถูกคนของขบวนการติดตามลอบทำร้ายมาตลอด ทั้งไล่ยิงรถ ซึ่งเกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง และลอบวางระเบิดรถยนต์ เกิดขึ้น 2 ครั้ง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวตามที่ปรากฏเป็นข่าว

หลังเกิดเหตุหน่วยงานความมั่นคงได้ลงพื้นที่บันนังกูแว เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งภายในท้องถิ่น ซึ่งต่อมามีบทสรุปเบื้องต้นว่า เหตุรุนแรงดังกล่าวเป็นการแก้แค้นกันของคนสองตระกูลในบันนังสตา ผดุง – ดาราเซะ แต่หลายคนเชื่อว่าน่าจะมีอะไรที่สลับซับซ้อนมากกว่านั้น! เหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนชุดสิงห์ดำซึ่งเป็นเพื่อนสนิทฮากิม และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านบันนังกูแว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 ย่อมประจักษ์ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าไม่ใช่การแก้แค้นส่วนตัว

บันนังกูแวอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ยังคงเป็นดินแดนแห่งสนธยาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ตราบใดที่การแก้ปัญหาความขัดแย้งยังไม่บรรลุผลนำไปสู่สันติสุขอย่างแท้จริง ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาของกลุ่มขบวนการยังคงมีการใช้กระสุนและระเบิดทำลายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองกับฝ่ายรัฐ ที่สำคัญสมาชิกแนวร่วมที่หันหลัง หรือไม่สนับสนุนกลุ่มขบวนการกลับถูกระรานติดตามหมายเอาชีวิตอย่างไม่ละเว้น เป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ากลุ่มขบวนการ BRN นอกจากจะมีความโหดร้ายป่าเถื่อนสุดโต่งแล้ว ยังมีการบังคับขืนใจพี่น้องมลายูปาตานีให้เข้าร่วมขบวนการโดยไม่มีข้อแม้ ใครตีตัวออกห่างจะถูกลงโทษด้วยการฆ่าทิ้งในทันที...
------------------------
อ่านบทความประกอบที่เกี่ยวข้อง

-เหตุเกิดที่บันนังกูแว บันนังสตา http://pulony.blogspot.com/2014/03/3-socail-media-2556-23-19.html
-ย้อนรอยความจริงเหตุยิงราษฏรบันนังกูแว http://pulony.blogspot.com/2014/03/blog-post_5617.html
-บันนังกูแวเลือดฆ่าล้างครัวดาราเซะhttp://pulony.blogspot.com/2014/04/blog-post_22.html
-เมื่ออับดุลอากิม ดาราเซะประกาศแตกหักกับขบวนการ http://pulony.blogspot.com/2014/06/blog-post_19.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น