ตนไทยปลายด้ามขวาน
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่
3 จังหวัดชายแดนใต้ จากการรวบรวมสถิติย้อนหลังมีอยู่หลายหมู่บ้านด้วยกันที่มีเหตุเกิดขึ้นค่อนข้างถี่
และรุนแรง บ้านบันนังกูแว อำเภอบันนังสตา
จังหวัดยะลา เป็นหนึ่งหมู่บ้านในจำนวนนั้น
ที่เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทั้งเหตุลอบวางระเบิด เผาบ้าน เผารถ และเหตุการณ์ล่าสุดที่คนร้ายสร้างสถานการณ์กราดยิงสองสามีภรรยาด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิตคาบ้านพัก
ประวัติบ้านบันนังกูแว จากการบอกเล่าของชาวบ้าน เล่าว่าในอดีตตามตำนานที่ตั้งเป็นบันนังกูแว เข้าใจว่า มีทุ่งนามากในพื้นที่
และมีต้นกูแว (ต้นกก) ที่ใช้ในการสานเสื่อไว้ใช้สอยในครัวเรือน
บ้านกูแว เป็นพื้นที่เล็กๆ อยู่ห่างจากหมู่บ้านอื่น สมัยก่อนชาวบ้านสัญจรไปมาโดยใช้พื้นที่นาเป็นทางผ่าน
เรียกว่า บือแนกูแว จนกระทั่งในปัจจุบันได้เพี้ยนมาเป็น
“บันนังกูแว” จนกระทั่งในปัจจุบัน ในอดีตพื้นที่แห่งนี้มีการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างกลมเกลียว
สามัคคีกัน มีการปลูกบ้านเรือนตั้งอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
มีที่ดินทำกินแยกออกต่างหากจากหมู่บ้าน ซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก ประชากรส่วนใหญ่
มีจิตใจเอื้ออารีย์ ถ้อยทีถ้อยอาศัย พึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่อนข้างสูง มีการพูดคุยปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน
การเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ คนแก่ คนเฒ่า
ปัจจุบันบ้านบันนังกูแว ได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขอย่างสิ้นเชิง
แต่กลับเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่บ้าน ในรอบสามเดือนที่ผ่านมา
เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านแห่งนี้ อะไรคือสาเหตุนำไปสู่การก่อเหตุ
เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ เรื่องส่วนตัว ปัญหาการเมืองท้องถิ่น หรือเป็นเรื่องของปัญหาความมั่นคง
เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไฟใต้ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการรับรู้ของประชาชนทั่วไป
กลับมองบ้านบันนังกูแว คือพื้นที่แห่งความขัดแย้ง เป็นพื้นที่สีแดง
ยุคของสังคมข้อมูลข่าวสาร ยุคของการใช้สื่อ Socail Media มิอาจยับยั้งต่อการรับรู้ของสังคมภายนอกได้
กลุ่มหรือองค์กรที่คอยสั่นคลอนสร้างความแตกแยกในสังคม ได้หันมาใช้กลอุบาย กลวิธี
สร้างความหวาดระแวงในหมู่ประชาชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นกรรมวิธีสร้างความเสียหายให้กับคู่ขัดแย้ง
พร้อมสาดโคลนต่อฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นผู้ลงมือกระทำเข่นฆ่าประชาชน โดยปราศจากข้อมูลความจริงที่มิอาจยอมรับได้
ย้อนไปเมื่อปลายปี
2556 วันที่ 23
ธันวาคม เวลาประมาณ 19.45
น. คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุ
กราดยิงชาวบ้านบริเวณหน้ามัสยิดบ้านบันนังกูแว เป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิตทันที 1
ราย บาดเจ็บจำนวน 3 ราย มีเด็ก อายุ 12 ปี คนชราอายุ 70 ปี รวมอยู่ในนั้นด้วย
ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า และ M-16 จำนวนหลายสิบปลอกตกอยู่
ถัดมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 13.45 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณทางโค้งในหมู่บ้าน
เหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ อส. และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน และเหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่
23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 01.00
น. คนร้ายใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะ
กราดยิงแล้วเผาบ้านชาวบ้าน 2
หลัง เป็นเหตุให้ชาวบ้านสองสามีภรรยาเสียชีวิต 2 ราย บ้านเรือนเสียหาย รถยนต์โดนเผา 3 คัน
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า และ M-16 ตกเกลื่อนกว่า 50
ปลอก หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีและโปรยตะปูเรือใบระหว่างเส้นทาง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที้บ้านบันนังกูแว
จะเห็นได้ว่าคนร้ายมุ่งเป้าก่อเหตุกับประชาชนในหมู่บ้าน จนกระทั่งเสียชีวิตถึง 3
ราย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 ราย ภายในระยะเวลาแค่ 3 เดือน และเป็นที่น่ากังขาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนสงครามชนิดเดียวกัน
คือ อาก้า และ M-16
และล่าสุดได้ใช้ยุทธวิธีโปรยตะปูเรือใบเส้นทางในระหว่างหลบหนี
ซึ่งเป็นวิธีเดิมๆ ของคนร้ายที่ได้ใช้หลังการก่อเหตุในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ถึงกระนั้นกลุ่ม PerMAS (สหพันธ์นิสิตนักศึกษา และเยาวชนปาตานี)
โดยนายสุไฮมี ดูละสะ ประธานกลุ่มฯ ได้นำเยาวชนนักศึกษาลงพื้นที่แสดงสัญลักษณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อสร้างกระแส
พร้อมทั้งบิดเบือนใส่ร้าย กล่าวหาเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะที่ขั้นตอนพิสูจน์หลักฐาน
การเก็บรวบรวมหลักฐาน และวัตถุพยานในที่เกิดเหตุยังคงดำเนินอยู่ เพื่อดำเนินไปสู่กระบวนการยุติธรรมนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ตามกฎหมาย แต่นายสุไฮมี ดูละสะ กลับตั้งตนเป็นศาลเตี้ยตัดสินคดีเสร็จสรรพ โดยไม่รอผลสืบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
*************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น