แบมะ ฟาตอนี
เมื่อ 21 พฤษภาคม 2557
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคม ตัวแทนจาก จังหวัดปาปัว และ จังหวัดกาลีมันตัน
ประเทศอินโดนีเซีย เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวนายเจ๊ะมุ มะมัน ราษฎร บ้านปะลุกาแปเราะ
หมู่ 7 ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
เนื่องในโอกาสครบ 100 วัน เหตุลอบยิงครอบครัวนายเจ๊ะมุ
ทำให้บุตรชายเสียชีวิต 3 คน เป็นส่วนหนึ่งในการ ร่วมรณรงค์ SAVE
PATANI CHILDREN จากนั้นเดินทางต่อไปยังหาดตะโล๊ะสะมิแล ตำบลแหลมโพธิ์
อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน ส่วนนายสุไฮมิง ดูละสะ
ประธาน PerMAS มอบหมายให้นายฮากิม พงติกอ รองประธาน PerMAS จัดทำคลิปวิดีโอภาษาอังกฤษ lnternationalPeaceday @ Patani 21093 เนื้อหาแสดงจุดยืนร่วมกับประชาชนปาตานีต่อสู้ทางการเมือง
เพื่อกำหนดใจตนเอง จนกว่ากระบวนการสันติภาพจะเกิดขึ้น
กลุ่ม PerMAS ยังคงโฆษณาชวนเชื่อทุกรูปแบบที่มีช่องทางในการต่อสู้ด้านการเมืองควบคู่การดำเนินทางการทหารของ BRN กรณีการเสียชีวิตบุตรชาย นายเจ๊ะมุ มะมัน 3 คน กลุ่ม PerMAS
ได้ใช้ยุทธวิธีนำตัวนายเจ๊ะมุ เป็นเครื่องมือในการให้ข่าวกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐทั้งๆ
ที่เป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ มีการนำตัวนายเจ๊ะมุ ไปเก็บไว้ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึง
มีการเปิดเวทีแถลงข่าวเพื่อสื่อไปยังต่างชาติ การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ของกลุ่ม PerMAS คนที่ติดตามข่าวสารเท่านั้นที่รู้เท่าทันพออ่านเกมส์ออก
แต่สำหรับใครอีกหลายคนที่ไม่มีข้อมูล หรือรับข้อมูลข่าวสารด้านเดียวอาจจะเอนเอียงหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อสวยหรูของกลุ่ม
PerMAS อย่างชนิดลืมตาไม่ขึ้น
ทุกครั้งที่กลุ่ม PerMAS เคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์จะใช้กลุ่มนิสิตนักศึกษา นักเรียนและเยาวชนปาตานี
เป็นเครื่องมือ ดั่งเช่นในครั้งนี้ที่มีเครือข่ายภาคประชาสังคม ตัวแทนจาก จังหวัดปาปัว และ จังหวัดกาลีมันตัน
ประเทศอินโดนีเซีย เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวนายเจ๊ะมุ มะมัน
โดยการติดต่อประสานงานขององค์กรเครือข่ายแนวร่วม มีการใช้เด็กตัวเล็กๆ
ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมายืนถือป้ายเพียงเพื่อต้องการสื่อภาพ SAVE PATANI CHILDREN
กลุ่ม PerMASได้รับแหล่งเงินทุนมาจากไหนในการเคลื่อนไหว
ในการจัดกิจกรรม รวมกระทั่งการจัดเวทีเสวนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จากแหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคงฟันธงว่าส่วนหนึ่งได้รับมาจากการค้ายาเสพติดของบิดาภรรยานายฮาเต็ฟ โซ๊ะโก อดีตประธานกลุ่ม PerMAS ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา
การเคลื่อนไหวของกลุ่มในการดำเนินการจัดกิจกรรมมีการแอบแฝงโครงการที่เขียนขึ้นมาแค่บังหน้าเนื้อในที่แท้จริงคือการยุยงปลุกปั่น
สร้างกระแสชาตินิยมปาตานีขึ้นมา
เพื่อนำไปสู่การลงประชามติกำหนดใจตนเองซึ่งเป้าหมายสุดท้ายเดียวกันกับ BRN คือ “เอกราช” วิธีการต่อสู้ที่ต่างเอื้อประโยชน์ระหว่างกันและกัน
ก่อนหน้านี้ กลุ่ม PerMASได้สร้างกระแสในการทักทายของพี่น้องมุสลิมปาตานี ว่า SATU PATANI แปลว่าหนึ่งเดียวปาตานีให้ฮิตติดปากของเยาวชนคนรุ่นใหม่เพื่อสร้างการรับรู้และต้องการสื่อถึงความต้องการในการร่วมกันต่อสู้ในวิถีทางการเมืองเป็นการต่อสู้แบบ
NON-VIOLENT (การต่อสู้โดยไม่ใช้กำลัง) อย่างกรณีการเสียชีวิตของบุตรชายนายเจ๊ะมุ
มะมัน ได้หันมาใช้คำว่า SAVE PATANI CHILDREN
ซึ่งในส่วนนี้ผู้เขียนเองเห็นด้วยที่ต้องการให้ทุกฝ่ายไม่ว่าหน่วยงานภาครัฐ
หรือกลุ่มขบวนการ BRN
หรือผู้ที่มีความคิดต่างจากรัฐหยุดการละเมิดสิทธิทำร้ายเด็ก
แต่หากมองอีกมุมหนึ่งของกลุ่ม PerMAS ที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ในการเคลื่อนไหวมีนัยยะอย่างอื่นแอบแฝงในเรื่องของผลประโยชน์มากกว่า
ภาพที่สื่อออกไปเป็นภาพกิจกรรมง่ายๆ
แต่ได้ใจแนวร่วมหรือองค์กรที่สนับสนุนแหล่งงเงินทุนในการเคลื่อนไหวอยู่ เป็นการจัดฉากบังหน้าแต่เบื้องลึกจริงๆ
ระดับแกนนำกลุ่มรู้ดีว่าต้องการอะไร ทุกครั้งที่มีการจัดเวทีเสวนา
ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว องค์กรร่วมของกลุ่ม PerMAS มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นระบบ
เพื่อแย่งชิงพื้นที่สื่อโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนลงแรงในการว่าจ้างในการโฆษณาประชาสัมพันธ์
การดำเนินเกมส์กลุ่ม PerMAS ถามว่าได้อะไรจากการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง
เงินทุนจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาในองค์กรจากการสนับสนุนขององค์กรต่างชาติ
หรือจากการฟอกเงินจากการทำธุรกิจผิดกฎหมาย เคยมีหน่วยงานหรือองค์กรใดได้ทำการตรวจสอบหรือไม่
สถานะบัญชีเป็นอย่างไรหรือองค์กรเหล่านี้ไม่มีการรายงานสถานะบัญชีให้กับผู้สนับสนุนเงินทุนรับทราบ
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ไม่แปลกที่อดีตประธาน PerMAS อย่างนายฮาเต็ฟ โซ๊ะโก มีเงินไปซื้อที่ดินผืนใหญ่
ทำเลดีติดถนนลพบุรีราเมศร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สงสารน้องๆ
นักเรียนนักศึกษาและเยาวชน ที่เป็นเครือข่าย กลายเป็นเครื่องมือทำมาหากินของกลุ่ม PerMAS
ระดับแกนนำงาบงบก้อนโตเสวยสุข
ระดับล่างเป็นแค่ตัวละครฉากหนึ่งที่ต้องแสดงโดยไร้ค่าตัว สิ่งที่กลุ่ม PerMAS หยิบยื่นให้กับมวลสมาชิกมีอะไรบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอัน
สร้างองค์กรขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ
บินไปต่างประเทศเป็นว่าเล่นเอาเงินมาจากไหนในการจ่ายตั๋วค่าเครื่องบิน
ค่าโรงแรมหรู
ถ้าไม่ใช่เพราะตัวละครหลังฉากแสดงบทบาทน่าสงสารเพื่อดึงแหล่งเงินทุนจากกระเป๋านัก NGOs
ต่างชาติ
คอยจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่ม PerMAS ให้ดี ต่อจากนี้ไปจะมีความขัดแย้งภายในองค์กรเนื่องจากผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ระยะหลังๆ นายสุไฮมี ดูละสะ
ได้ลดบทบาทตัวเองลง การจัดกิจกรรมหลายครั้งนายฮากิม พงติกอ รองประธาน PerMAS เคลื่อนไหวแทน พร้อมกับการเปิดเกมรุกในด้านสื่อมีการจัดทำคลิปวิดีโอภาษาอังกฤษ
ของการจัดกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ เพื่อต้องการสื่อไปยังต่างประเทศ โดยใช้น้องๆ
เยาวชน นักเรียน
นักศึกษาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวดังผ้าขาวบริสุทธิ์เป็นเครื่องมือดึงความสนใจ
หยุดเถิดสงสารน้องๆ เหล่านี้ คุณทำอะไรก็ทำไป
ประชาชนปาตานีในพื้นที่ต่างรู้ดีว่ากลุ่ม PerMAS หากินบนความเดือดร้อนของพี่น้องมุสลิมปาตานีด้วยกันเอง
และที่สำคัญ PerMAS คือปีกหนึ่งของขบวนการ BRN
@@@@@@@@@@@@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น