แบมะ ฟาตอนี
คนชายแดนใต้รู้ดี...ว่าการถูกปกครองโดยทหารมันเป็นยังไงชีวิตที่ถูกบังคับโดยกฎหมายพิเศษเป็นยังไง
ทั้งกฎอัยการศึก,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปภายใต้กฎอัยการศึก กองทัพสามารถสั่งปิดสื่อ ห้ามนักวิชาการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ห้ามวิจารณ์ ห้ามเถียง ห้ามสงสัย ห้ามขายหนังสือบางเล่ม และห้ามอื่นๆ อีกมากมายเพราะไม่ยอมรับว่าความคิดเห็นที่หลากหลาย คือเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตยข่าวสารที่อยู่ในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ฯลฯ จึงถูกบอกเล่าผ่านการตัดแต่งเปลี่ยนโดยผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่งสิ่งไหนที่ไม่อยากให้ประชาชนรู้ ประชาชนก็จะไม่ได้รู้
ทั้งกฎอัยการศึก,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปภายใต้กฎอัยการศึก กองทัพสามารถสั่งปิดสื่อ ห้ามนักวิชาการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ห้ามวิจารณ์ ห้ามเถียง ห้ามสงสัย ห้ามขายหนังสือบางเล่ม และห้ามอื่นๆ อีกมากมายเพราะไม่ยอมรับว่าความคิดเห็นที่หลากหลาย คือเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตยข่าวสารที่อยู่ในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ฯลฯ จึงถูกบอกเล่าผ่านการตัดแต่งเปลี่ยนโดยผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่งสิ่งไหนที่ไม่อยากให้ประชาชนรู้ ประชาชนก็จะไม่ได้รู้
ที่มาเพจ:Patani Peace สันติภาพปาตานี
ข้อความข้างต้นคือความเคลื่อนไหวในการประกาศใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้บางส่วนที่นำมาเสนอ
สาระสำคัญของการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน
ในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธการระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย
และเจ้าหน้าที่พลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
การบังคับใช้กฎหมายพิเศษในการแก้ไขปัญหา
3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการใช้กฎหมาย 3 ฉบับด้วยกัน ฉบับที่ 1 พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
พ.ศ.2457 เป็นกฎหมายที่เน้นความรวดเร็วเพื่อประโยชน์ในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรงให้สงบโดยเร็ว
ฉบับที่ 2
พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 เป็นกฎหมายที่เน้นการป้องกันและปรับเปลี่ยนทัศนคติให้กับผู้หลงผิด
ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการขยายผล ให้ข้อมูลกลุ่ม เครือข่ายและแนวร่วม
ผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ และที่สำคัญจะเป็นกฎหมายที่มีความยุติธรรมโดยให้อำนาจทั้งฝ่ายพลเรือน
ตำรวจ ทหาร และอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาลยุติธรรม และฉบับที่ 3 พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พุทธศักราช 2551เป็นกฎหมายที่เน้นการเปิดโอกาสให้คนที่กระทำความผิดสามารถกลับตัวกลับใจเข้ามาร่วมพัฒนาประเทศได้
ซึ่งกฎหมายทั้ง 3
ฉบับนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการนำมาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เนื่องจากเป็นพื้นที่พิเศษที่ต้องใช้การผสมผสานกฎหมายทั้งข้อดีและข้อเสียเข้าด้วยกัน
รัฐบาลไทยมีนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ด้วยสันติวิธีอย่างชัดเจน
และในห้วงที่ผ่านมา หน่วยงานในจังหวัดชายแดนใต้ ได้ใช้กฎหมายความมั่นคงอย่างระมัดระวังและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้นๆ
รวมทั้งเลือกใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
เพื่อให้ประโยชน์ต่อการสร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่เป็นหลัก
การประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
พ.ศ.2457 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้หากเปรียบเทียบกับการประกาศของกองอำนวยการรักษาความสงบ (กอ.รส.) ที่สำคัญๆ คือ
ฉบับที่ 1
การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ฉบับที่
2 การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ฉบับที่
3
ห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00 น.- 05.00
น.กฎอัยการศึกที่นำมาใช้ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาไฟใต้
ไม่ได้มีความเข้มงวดและสร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่เลย
มีการนำกฎหมายเพียงบางส่วนมาบังคับใช้กับผู้ที่กระทำความผิด
และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานเท่านั้น
เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ มีกลุ่มองค์กร NGOs บางกลุ่ม นักวิชาการอิสระ
และผู้ที่ต่อต้านอำนาจรัฐที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ได้ออกมาโจมตีพยายามหยิบยกผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าว
กล่าวหาว่าโดนลิดรอนสิทธิเสรีภาพต่างๆ นาๆ
นำไปขยายผลเป็นเรื่องเป็นราวให้ผู้ที่อยู่นอกพื้นที่เห็นคล้อยตาม
ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
เป็นความพยายามที่ต้องการสื่อไปยังต่างประเทศให้เข้ามาแทรกแซงตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
รวมไปถึงประเด็นการซ้อมทรมานที่มีการบิดเบือนความจริงดั่งเช่นมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
ที่เป็นข่าวอื้อฉาว
มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
และสื่อมวลชน
ในส่วนตัวผู้เขียนเองที่เป็นคนพื้นที่ลังกาสุกะแห่งนี้
เดินทางไปไหนมาไหนไม่เคยคิดเลยว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรามีการประกาศใช้กฎอัยการศึก
ยิ่งชาวบ้านทั่วไปที่ตั้งหน้าทำมาหากินเลี้ยงชีพหาเช้ากินค่ำแทบไม่มีผลกระทบใดๆ เลย
ไปถามไม่รู้จักด้วยซ้ำอะไรคือกฎอัยการศึก ในนามส่วนตัวอาจจะมีผลกระทบหน่อยตรงที่มีการตั้งด่านเหมือนกับดอกเห็ด
ในการตรวจตรารถราที่ผ่านไปมาของของเจ้าหน้าที่ทหาร แต่ชาวบ้านทั่วไปต่างยอมรับได้
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในสังคมโดยรวมและเป็นภาพชินตาไปแล้วที่ด่านเหล่านี้อยู่คู่กับวิถีชีวิตชาวบ้าน
ประชาชนต่างรอคอยและเรียกหาในการนำพาสันติสุขกลับคืนมา ณ
ดินแดนปาตานีแห่งนี้ ดินแดนแห่งพหุวัฒนธรรม ภาพแห่งการอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องของพี่น้องต่างศาสนา
ทุกคนต่างอดทนและได้รับความเดือดร้อนจากการก่อเหตุของกลุ่มโจรใต้
พร้อมสนับสนุนการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย
เพื่อก้าวไปสู่ฝัน..สันติสุข ร่วมกัน
@@@@@@@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น