‘อิมรอน’
การเคลื่อนไหวของสหพันธ์นิสิตนักศึกษา
นักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ PerMAS ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานการเมืองของกลุ่มขบวนการ
BRN ในห้วงที่ผ่านมาได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อหน่วยงานความมั่นคงพอสมควร
มีความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐในรูปแบบต่างๆ
หากโอกาสได้เอื้ออำนวยเปิดช่องโหว่ให้โจมตีโดยอาศัยสถานะความเป็นนักเรียน
นักศึกษาเรียกร้องความสนใจจากบุคคลทั่วไปอย่างได้ผล
วิวัฒนาการที่สำคัญของการเคลื่อนไหวคงหนีไม่พ้นการหยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นตัวชูโรงในการขับเคลื่อน
มีการปลุกกระแสปาตานีนำอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นที่กำลังสูญหายให้สังคมกลับย้อนคืนสู่วิถีอิสลาม
แล้วใส่ร้ายป้ายสีว่ารัฐไทยเป็นผู้ทำลาย จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกจุดหนึ่งคือ
การแปลอัลกุรอ่านให้เป็นภาษาไทย
หลังจากนั้นจะมีการเคลื่อนไหวกดดันเรียกร้องในสิ่งที่ต้องการโดยการกล่าวอ้างศาสนา
อย่างเช่นการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดเสรีภาพในการคลุมญีฮาบในไทย
โดยในยุคปัจจุบันมีการพัฒนานำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด นายฟัรดี
ซาและ เลขาธิการกลุ่ม PerMAS
ได้ทำการโฆษณาชวนเชื่อด้วยการเผยแพร่ข้อมูลเป็นภาษาไทย
และภาษามลายูว่าการถูกคุกคามของนักศึกษาปาตานี ระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2558 ซึ่งจะเป็นการเฝ้าติดตาม
ตรวจค้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 10 เหตุการณ์ ด้วยกัน อาทิเช่น
สำนักงานกลุ่ม PerMAS จังหวัดยะลา, หอพักนักศึกษาในจังหวัดนราธิวาส,
บ้านเช่าย่านบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม.
และการจัดกิจกรรมของนักศึกษา PerMAS ในพื้นที่ต่างๆ
รวมทั้งกรณี นสพ.ไทยรัฐ นำเสนอข่าวสารมีนัยว่า กลุ่ม PerMAS มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล
สมุย โดยการเผยแพร่ภาษามลายูเพื่อต้องการสื่อไปยังสมาชิกกลุ่ม
และเครือข่ายในต่างประเทศ
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่
นายฟัรดี ซาและ เลขาธิการกลุ่ม PerMAS ได้นำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนตั้งใจสื่อให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีการคุกคามนักศึกษา
มีการใช้วาจาก้าวร้าวในลักษณะบีบบังคับนักศึกษา และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ความจริงย่อมเป็นความจริงถึงแม้ว่ากลุ่ม
PerMAS
จะทำการโฆษณาชวนเชื่อชี้นำให้ประชาชนชาวปาตานีหรือประชาชนทั่วไปให้เห็นคล้อยตามกับการบิดเบือนข้อเท็จจริง
แต่ตราบใดที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการเลือกปฏิบัติถึงแม้จะถูกกดดันการปฏิบัติหน้าที่จากองค์กรภาคประชาสังคมแนวร่วมขบวนการ
หรือแม้แต่กลุ่ม PerMAS ที่ทำการเคลื่อนไหวทุกครั้งที่มีการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนยุติธรรม
อย่างเช่นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้สนธิกำลังร่วมทำการติดตามจับกุมและปฏิบัติตามกฎหมายต่อผู้ต้องสงสัยเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณ
ถนน ณ นคร อำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส จำนวน 4 เป้าหมาย คือ หอพักบริเวณเยื้องโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์,
หอพักนักศึกษาบริเวณกำปงตาโก๊ะ, หอพักนักศึกษาบริเวณวิทยาลัยสารพัดช่าง และหอพักนักศึกษาซอยนรากุล
ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม
และในเวลาต่อมาได้ปรากฏว่ากลุ่ม
PerMAS
ซึ่งเป็นปีกการเมืองของขบวนการ BRN ได้ออกมาเคลื่อนไหวกดดันการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐในทันทีโดยการออกแถลงการณ์
เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และคุกคามเยาวชนนักศึกษา
อ้างว่าการติดตามจับกุมและปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บริเวณหอพักนักศึกษา
นักกิจกรรม
รวมทั้งควบคุมตัวเยาวชนนักศึกษาเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายมูฮัมหมัด
เซาฟีร อาแซ ผู้ช่วยผู้ประสาน PerMAS พร้อมนักศึกษา
ม.รามคำแหงร่วมแถลงการณ์ให้มีการยกเลิกการใช้กฎอัยการศึก
และปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดทันที, เครือข่ายนักศึกษามุสลิมอยุธยา
Ayutthaya Muslim Student Network ได้รวมตัวถือป้ายปล่อยตัวเพื่อนเรา“Free
Patani Student”คืนอิสรภาพแก่นักศึกษา หยุดคุกคามนักศึกษา
แด่สันติภาพปาตานี เช่นเดียวกับนักศึกษา มอ.ปัตตานี
ออกแถลงการณ์คัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการคุกคามการทำกิจกรรมของนักศึกษา
กระแสเรียกร้องของกลุ่มองค์กรต่างๆ
ที่เกิดขึ้น เป็นความพยายามของกลุ่ม PerMAS ในการปลุกเร้าในเครือข่ายสังคมออนไลน์
อีกทั้งมีการประสานงานกับกลุ่มนักศึกษาสถาบันต่างๆ
ให้มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเพื่อกดดันในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
อีกทั้งมีความพยายามให้มีการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ในเวลาต่อมาคำสารภาพของผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้ฉีกหน้า
PerMAS
โดยผลการซักถาม นายอัมรีย์ วรรณมาตร ได้ให้การยอมรับว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง
บริเวณถนน ณ นคร ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
นายรีดวน
สุหลง ให้การยอมรับว่าเคยผ่านพิธีสาบานตน (ซุมเปาะห์) และเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปก่อเหตุที่
ถนน ณ นคร ส่วนนายอิสมาแอ เจ๊ะโซะ ยอมรับทำหน้าที่เป็นคนนำชุดระเบิดชนิดขว้างเข้าไปในร้านต้นท้อน
แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงาน
คำสารภาพทั้งหมดของผู้ต้องสงสัยที่กลุ่ม
PerMAS
พยายามปกป้องเรียกร้องว่าเจ้าหน้าที่มีการคุกคามนักศึกษา น่าสมเพชสิ้นดี
นี่หรือผู้บริสุทธิ์...สุดท้ายคือโจรใต้ฟาตอนี..เป็นความจงใจวางแผนอย่างแยบยลยืมมือสะอาดของนักศึกษากลุ่มอื่นๆ
ให้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวจนเป็นแฟชั่น
อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่ง
นายฟัรดี ซาและ เลขาธิการกลุ่ม PerMAS ได้กล่าวถึงคือการตรวจค้นบ้านเช่าย่านบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
กทม. ของเจ้าหน้าที่
สืบเนื่องมาจากการก่อเหตุได้มีคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง
43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เมื่อ
26 พฤษภาคม 2556
หลังจากนั้นได้มีการแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ทำการก่อเหตุวันดังกล่าวเป็นกลุ่มคนร้ายจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
คือ นายอิดริส สะตาปอ, นายอัฟฟาฮัม สะอะ, นายคัมภีร์ ลาเต๊ะ, และนายนายอิบรอเฮง
แวแม ยังหลบหนีการจับกุมอีกหนึ่งคนคือ นายฮาเล็ม มะลี
เมื่อ 20
มีนาคม 2558 ศาลอาญากรุงเทพ ได้พิพากษาตัดสินจำเลย 4 คน ให้“จำคุกตลอดชีวิต” แต่ให้การยอมรับสารภาพ คงลดโทษ 1 ใน
3 เหลือจำคุก 66 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 60 บาท
โดย“โทษจำคุกให้คงเหลือ 50 ปี”
ที่กล่าวมาเป็นแค่สองเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างให้เห็น
ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ นายฟัรดี ซาและ เลขาธิการกลุ่ม PerMAS ได้พยายามเผยแพร่ข้อมูลเป็นภาษาไทย และภาษามลายูกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่คุกคามนักศึกษาปาตานี
ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุของเจ้าหน้าที่เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการซักถาม
เป็นการปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมายทุกประการ ไม่มีการซ้อมทรมาน
ไม่มีการบังคับขู่เข็ญใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญที่สุดคือผู้ต้องสงสัยยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่อหน้าพ่อแม่
และผู้นำศาสนา
เป็นความพยายามของกลุ่ม
PerMAS
ที่มีการประสานงานไปยังกลุ่มนักศึกษาสถาบันต่างๆ
ทั่วประเทศเพื่อให้ออกมาทำการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิด ซึ่งแน่นอนบุคคลที่กลุ่ม
PerMAS ช่วยเหลือคือพวกเดียวกันเป็นสมาชิกแนวร่วม RKK
ภายใต้การสั่งการของขบวนการ BRN ส่วนกลุ่ม PerMAS
ทำงานการเมืองมีหน้าที่ในการปลุกระดมมวลชนหาแนวร่วม
และยังทำหน้าที่อีกอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้คือหลอกกลุ่มนักศึกษาให้ทำการเคลื่อนไหวกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อกรณีมีการติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย
หรือผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ทำการก่อเหตุ
พร้อมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข...นี่คือหน้ากากที่แท้จริงของกลุ่ม
PerMAS ที่ใครๆ ต่างคิดว่าเคลื่อนไหวเพื่อชาวปาตานี...แท้จริงกระทำเพื่อกลุ่มขบวนการ
BRN….
----------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น