‘อิมรอน’
สถาบันปอเนาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีข่าวคราวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งก่อนหน้านี้สถาบันปอเนาะบางแห่งมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการ เมื่อมีการตรวจค้นเจอผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการหลบซ่อนตัวอยู่ มีการจับกุมอาวุธปืน,
อุปกรณ์ประกอบระเบิด และเอกสารตำราที่ใช้ในการปลุกระดมเป็นจำนวนมาก
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาไปหลายโรง
และล่าสุดโจรใต้ฟาตอนีได้ใช้สถาบันปอเนาะในการหลบซ่อนพักพิง
หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยทำไมบาบอเจ้าของสถานศึกษาไม่รู้ไม่เห็น
แต่กลับอ้างน้ำขุ่นๆ ได้ระดมชาวบ้านมาช่วยก่อสร้างอาคารโรงอาหารเพื่อให้ทันเปิดเทอม
และไม่ทราบมาก่อนว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติได้แฝงตัวเข้ามาพักอาศัย
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย อาคารโรงอาหารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายในโรงเรียนดารุลบารอกะฮ์
(มูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ) ซึ่งเป็นศูนย์เด็กกำพร้าบ้านสุไหงปาแน หมู่ 1 บ้านสุไหงปาแน ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาคดีความมั่นคง
และกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่
จากการเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่พบกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนอาศัยอยู่ภายในอาคาร
จึงร้องบอกให้ออกมาด้านนอกเพื่อทำการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ามีชาย 3 คน
ได้พยายามหลบหนีด้วยการปีนออกมานอกรั้วบริเวณเล้าไก่ด้านข้างโรงเรียน
ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ 3 นัด เพื่อเปิดทาง เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น
สิ้นเสียงปืนพบมีคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปด้านในบริเวณโรงอาหารของโรงเรียนเพื่อนำศพคนร้ายออกมาได้
ส่วนภายในอาคารโรงอาหาร
เจ้าหน้าที่พบว่ายังมีผู้ต้องสงสัยหลบซ่อนตัวอยู่ จึงได้เชิญผู้นำชุมชน
ผู้นำศาสนามาเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ยินยอมมอบตัว
แต่ผู้ต้องสงสัยยังไม่ยอมออกมาเจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมพื้นที่ทุกด้านไว้
พร้อมทั้งนำเครื่องขยายเสียงพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัว
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแต่ก็ยังไร้ผล
สำหรับการเข้าปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจากการซักถาม นายมูฮำหมัด
เจะหะ ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาว่ามีกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบจากนอกพื้นที่ได้แอบเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ภายโรงเรียนดังกล่าว
จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ต่อมาเวลา
13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ บริเวณกำแพงรั้วด้านหลังโรงเรียน
จุดที่คนร้ายถูกยิงเสียชีวิตแล้วนำศพคนร้ายออกมาตรวจสอบ
ทราบชื่อคือ นายมาฮามะซู เจะหะ อายุ 30 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 5/4 หมู่ 6 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมาย ป.วิอาญา
เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลปัตตานี
และให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับกุมตัวได้
จำนวน 2 คน คือ นายแวสาเฮาะ ดอเลาะ อายุ 30 ปี และ นายสุริยา ตาฮา อายุ 29 ปี
บุคคลทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ หมู่ 5 บ้านน้ำใส ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ
จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก, ซองกระสุน 1 ซอง พร้อมกระสุน และสิ่งของจำนวนหนึ่ง
ของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ส่งมอบให้กับสถานีตำรวจภูธรปัตตานี
เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปดำเนินกรรมวิธีซักถามทำการขยายผลต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายมาฮามะซู
เจะหะ มีประวัติเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายคดีและมีหมายจับศาล
จ.ปัตตานี เลขที่ จ 238/2557 ลง 23 ก.ค. 2557 ของ สภ.ยะหริ่ง
จ.ปัตตานี ในข้อหาวางเพลิง หมายจับเลขที่ จ 294/2557 ลง 27
ส.ค.2557 สภ.เมืองปัตตานี ในข้อหาก่อการร้ายอั้งยี่ ซ่องโจร และวางเพลิง หมายจับเลขที่ จ 91/2558 ลง 1 เม.ย.58 สภ.ยะรัง
จ.ปัตตานี ในข้อหาก่อการร้าย
จากแหล่งข่าวในพื้นที่ซึ่งได้ไปร่วมพิธีฝังศพ
นายมาฮามะซู เจะหะ ที่บ้านน้ำใส
ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี พบว่าบรรยากาศมีความเงียบเหงาผู้คนมาร่วมพิธีน้อยมาก
ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ไม่ได้มาร่วมพิธีฝัง ที่สำคัญโต๊ะอิหม่ามไม่มากระทำพิธีให้มีเพียงกลุ่มญาติๆ
และบุคคลจากหมู่บ้านอื่นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาร่วมพิธี
หากข่าวที่ได้รับมาเป็นความจริงย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้คนในพื้นที่มีความเบื่อหน่ายกับขบวนการโจรใต้เต็มที
ไม่เห็นด้วยกับการกระทำความรุนแรงที่ผู้เสียชีวิตได้ก่อขึ้น
ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านย่อมรับรู้และซึมซับจากความเดือดร้อนที่ได้รับ
แต่ไม่มีใครกล้าปริปากเนื่องจากกลัวเกรงจะถูกทำร้ายจึงได้แต่ก้มหน้าทนทุกข์ทรมานอยู่ร่วมกับสถานการณ์ร้ายที่ขบวนการโจรใต้ยัดเยียดให้
เนื่องจากไม่มีการอาบน้ำศพให้
นายมาฮามะซู เจะหะ โต๊ะอิหม่ามจึงไม่กระทำพิธีให้
ซึ่งไม่เห็นด้วยที่ไม่มีการจัดการศพตามหลักศาสนาอิสลามให้ถูกต้อง ซึ่งการจัดการศพ
จะต้องมีการอาบน้ำศพ, ห่อศพ, การละหมาดญะนาซะฮ์ และฝังศพ ขาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปไม่ได้
ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าผู้ก่อเหตุหลายรายที่เสียชีวิตไม่มีการอาบน้ำศพซึ่งเป็นความเข้าใจผิดคิดว่าเสียชีวิตเนื่องจากการญีฮาด ซึ่งเป็นกุศโลบายของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่อุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อหลอกใช้สมาชิกแนวร่วมที่ไปก่อเหตุตายไปไม่ต้องอาบน้ำศพ
กลุ่มขบวนการโจรใต้ยังคงอาศัยสถาบันปอเนาะในการหลบซ่อนตัว
ก่อนหน้านี้องค์กรภาคประชาสังคม และสื่อแนวร่วมได้มีความพยายามโจมตีเจ้าหน้าที่ไม่ให้ไปทำการตรวจค้นติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายในสถาบันปอเนาะ
โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นสถานที่ศึกษาหลักศาสนาอิสลาม เจ้าหน้าที่ควรจะต้องเคารพและให้เกียรติต่อสถานที่
ไม่สมควรใช้เป็นสมรภูมิในการสู้รบ
ซึ่งแท้จริงแล้วกลุ่มขบวนการต้องการแอบอ้างเพื่อให้สถาบันปอเนาะมีความปลอดภัย
และมีความสะดวกในการซ่องสุมกำลัง
ที่สำคัญคือการปลุกระดมนักเรียนในสถาบันปอเนาะให้เป็นสมาชิกแนวร่วมรุ่นใหม่ขึ้นมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ...นี่คือความจริงที่ประชาชนปาตานีจะต้องรู้เท่าทัน....เล่ห์เหลี่ยมโจรใต้ฟาตอนีเลวๆ....
--------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น