ในกระแสการต่อสู้ด้านการเมืองระหว่างรัฐไทยกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนั้น ยุทธศาสตร์การสร้างแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อใช้เป็นมวลชนสนับสนุนเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างได้ผล โดยเฉพาะการใช้ความแตกต่างทางอัตลักษณ์ ประวัติ ศาสตร์ชาติพันธุ์และศาสนามาบิดเบือน โดยมุ่งหวังจุดประกายความแตกแยก สร้างสถานการณ์ให้ลุกลามจนนำไปสู่การเข้ามาแทรกแซงขององค์กรระหว่างประเทศแล้วเข้าสู่กระบวนการแยกตัวเป็นเอกราชต่อไป
ในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาขบวนการใช้วิธีการนี้ในหลายกลุ่มเป้าหมาย และที่เกิดผลมากที่สุดคือกลุ่มเยาวชนทั้งนอกและในสถานศึกษา โดยเฉพาะในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามหรือ “ปอเนาะ” โดยได้แอบแฝงเข้าไปในสถานศึกษาในภาพของครูสอนศาสนาอิสลาม ใช้การปลุกระดมบ่มเพาะด้วยการนำประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาอิสลามมาบิดเบือน เพื่อให้เกิดความคิดความเชื่อที่แตกต่าง สร้างความรู้สึกให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐและระบบการปกครองของรัฐไทย และเยาวชนส่วนหนึ่งจะถูกคัดเลือกเข้ารับการฝึกเป็นแนวร่วมปฏิบัติการ เพื่อใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ส่วนเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดจะถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ขยายผลในการสร้างแนวร่วมในสถานศึกษาในแห่งอื่นๆ ต่อไป
ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้การปลูกฝังโดยการบิดเบือนข้างต้น ได้แพร่กระจายไปสู่โรงเรียนตาดีกาซึ่งเป็นระดับเด็กเล็กที่ยังไร้เดียงสา เพราะง่ายต่อการปลูกฝังแนวคิดผิดๆ เหล่านั้น ซึ่งก็ดำเนินการโดยเยาวชนที่ได้ถูกคัดเลือกและผ่านกรรมวิธีการถูกปลูกฝังบ่มเพาะมาแล้วนั่นเอง โดยการแฝงตัวเข้าสู่องค์กรนักศึกษาระดับอุดมศึกษาสถาบันต่างๆ ทั่ว จชต. ซึ่งแนวร่วมเหล่านี้นอกจากจะเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐโดยใช้ชื่อ “องค์กรนักศึกษาใน จชต.” มาโดยต่อเนื่องแล้ว ยังได้ขยายแนวคิดเชิงลบนี้ไปยังสถาบันการศึกษาอื่นๆ ในหลายวิธีการ รูปแบบหนึ่งคือการจัดกิจกรรมอำพรางในลักษณะการอบรมจริยธรรมบ้าง แนะแนวการศึกษาบ้างเพื่อนำเยาวชนออกนอกสถานศึกษาแล้วทำการปลูกฝังความเชื่อผิดๆ มีการสอนให้ใช้ความรุนแรง ยุยงปลุกปั่นให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้รับรู้เนื่องจากได้แต่อนุญาตเพราะเห็นชื่อกิจกรรมดี แต่ไม่ได้ติดตามตรวจสอบรายละเอียด ปล่อยให้ผู้จัดกิจกรรมปฏิบัติไปตามอำเภอใจ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนั้นนับว่าร้ายแรง เพราะเป็นการกระทำต่อเด็กที่จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ให้มองว่าการกระทำรุนแรงนั้นๆ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
หากยังมองภาพความสูญเสียในระยะยาวไม่ออก ลองนึกถึงการทำลายสิ่งของสาธารณะ เผาตู้โทรศัพท์ เผากล้องวงจรปิด ความไม่มีวินัยในตนเอง การไม่ปฏิบัติตามกฏจราจร การใช้กฏหมู่เพื่ออยู่เหนือกฏหมาย และที่หนักมากที่สุดและเกิดขึ้นแล้วคือ การลอบเผาโรงเรียนที่ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเยาวชนที่ทำเพื่อต้องการได้โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนดูสิ แล้วลองพิจารณาดูว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศหรือไม่นอกจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้...เท่านั้น
นี่ไม่ใช่หรือคือผลงานอัปยศในการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติให้เกิดขึ้นกับเยาวชนเหล่านั้นของแนวร่วมที่แฝงตัวมาในคราบนักศึกษา ด้วยการปลูกฝังเช่นนี้เยาวชนเหล่านั้นจะเติบโตมาบนพื้นฐานความคิดแบบผิดๆแล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่ต่อไปอย่างสงบสุขได้อย่างไร และนี่คือการกระทำที่น่ารังเกียจของขบวนการฯ ที่มุ่งกระทำต่อเยาวชนแบบไร้จิตสำนึก
กิจกรรมของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการใช้พลังของเยาวชนหนุ่มสาวในเชิงสร้างสรรค์ ใช้ความเป็นปัญญาชนเข้าช่วยเหลือจรรโลงสังคมอย่างมีสำนึกรับผิดชอบเป็นสำคัญ และปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยพลังของนักศึกษานี่แหละที่เคยเป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งองค์กรนักศึกษาใน จชต. ส่วนใหญ่ก็ยึดถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เช่น การเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงอย่างจริงจัง การเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง หรือแม้แต่การประณามการก่อเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียเป็นจำนวนมากร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมอื่นๆ นี่สิคือบทบาทที่น่ายกย่องและสมควรขับเคลื่อนต่อไป
การปล่อยให้มีนักศึกษาซึ่งเป็นแนวร่วมของขบวนการฯ แอบแฝงเข้ามาอยู่องค์กรฯ แอบอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาในการทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคมในระยะยาว จึงเท่ากับเป็นการปล่อยให้ผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นทำลายชื่อเสียงและความตั้งใจดีของนักศึกษาในพื้นที่ จชต. ทั้งหมดให้เสียหายลงไปด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด ในยามที่บ้านเมืองยังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรายวันจากการกระทำอันป่าเถื่อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงได้ง่ายๆ ความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่ายเท่านั้นที่จะเป็นพลังอันสำคัญที่จะช่วยให้ฝันร้ายของพี่น้องประชาชนใน จชต. จบสิ้นลงได้โดยเร็ว
ในส่วนของนักศึกษาก็ขอเป็นกำลังใจในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความสงบสันติในบ้านเมืองของเราตามเจตนารมณ์และบทบาทที่สามารถทำได้ในฐานะปัญญาชนต่อไป แต่ถ้าจะให้บรรลุผลดีขึ้นลองตรวจสอบองค์กรของเราหน่อยเป็นไรว่า ใครเป็นผู้ที่ทำลายความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองของเราเหล่านักศึกษา ใครแอบเข้ามาอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาจัดกิจกรรมทำลายสังคมเพียงเพื่อเศษเงินที่แกนนำของขบวนการโยนให้ ถ้ายังไม่ทราบ...ดูภาพข้างบนนะ
ซอเก๊าะ นิรนาม
ดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
http://www.youtube.com/watch?v=Izw4H6-CILk&feature=relmfu
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น