โดย.. IC .
COM
จากเหตุการณ์
ผกร. ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องเพื่อสร้างสถานการณ์ จำนวน 4 จุด และจนท.เก็บกู้ได้ 2
จุด ในเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จว.น.ธ. เมื่อ 20 ก.ค.57 ซึ่ง ต่อมาในวันที่ 21 ก.ค. 57 จนท. ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยตามภาพจากกล้องวงจรปิดได้จำนวน 2 คน คือ นาย
อับดุลเลาะ อาแวกือจิ และนาย
อับดุลรอฮิม มูแย
สรุปผล
จากการซักถามทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตันหยงมัสในครั้งนี้
โดยรับหน้าที่เป็นผู้สำรวจเส้นทาง มีนาย อับดุลเลาะ มะมิง (โซล่าเลาะ)
เป็นผู้สั่งการและลอบวางระเบิด รวมทั้งยังรับสารภาพอีกว่ารู้จักกับนาย อับดุลเลาะฯ
เนื่องจาก นาย ซานูซี ยาแต (
ปัจจุบันถูกจำคุกในเรือนจำนราธิวาสจากคดีปล้นปืนร้อย.ร.15121 ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี
)เป็นผู้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของทั้งสองคน(นาย อับดุลเลาะ อาแวกือจิ และนาย อับดุลรอฮิม มูแย )แก่ นาย อับดุลเลาะฯ เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค. 57
ต่อจากนั้นนาย อับดุลเลาะฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการ โดยเล่าประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีให้ฟังจนทำให้คล้อยตาม
และยินดีให้ความช่วยเหลือขบวนการ แต่ไม่เคยผ่านพิธีสาบานตน (ซุมเปาะ)
แต่อย่างใด สำหรับ สาเหตุการก่อเหตุ
ครั้งนี้ มี 2 ปัจจัยคือ 1.นาย อับดุลเลาะ มะมิง (โซล่าเลาะ) ต้องการตอบโต้ จนท.
ที่จับกุมตัว นายมะอูเซ็ง มะมิง ซึ่งเป็นญาติของตนถูก
จนท. จับกุม กรณีปล้นปืน จากร้อย.ร.15121 ตามหมาย ป.วิ.อาญา และจนท. ยังสามารถยึด ปลย.M 16 คืนได้จำนวน 2 กระบอกรวมทั้งตรวจยึดเอกสารที่มีข้อความต่อต้าน นาย
ภานุ อุทัยรัตน์ ตรงกับคำสารภาพของนาย
อับดุลรอฮิมฯ ว่านาย อับดุลเลาะฯเป็นผู้สั่งการให้แขวนป้ายผ้าต่อต้านนายภานุฯ
และก่อเหตุวางระเบิดในครั้งนี้
ในประเด็นนี้ผู้ร่วมก่อเหตุระเบิด
ที่ถูกจับกุมทั้งสองคนถูกหลอกให้เข้าร่วมขบวนการโดยอ้างเอกราชรัฐปัตตานีหรืออะไรก็ตาม
แท้จริงผู้สั่งการคือ นาย อับดุลเลาะ มะมิง ( โซลาเลาะ ) ไม่ยอมรับความจริงต่อต้านอำนาจรัฐ
และสนับสนุนญาติของตนเองทั้งที่เป็นผู้ทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงไม่รู้จัก
แยกแยะดี-ชั่ว ถูก-ผิด
และหากทุกคนในชาติมีความคิดสนับสนุนญาติของตนที่ทำผิดโดยไม่ยอมรับกฎหมายซึ่งทั่วโลกใช้เป็นกติกาของสังคม
แต่กลับโทษ จนท. ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่
แล้วสังคมส่วนรวมเราจะอยู่กันอย่างไร
ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคนจะอยู่อย่างไร
สาเหตุการก่อเหตุ ปัจจัยที่ 2 จนท. ฝ่ายความมั่นคง
คาดว่าเกิดจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จากเมื่อ 13 ก.ค.57 ชคต. (กำนัน,ผญบ.)
จนท. ป่าไม้ กำลัง 3 ฝ่าย รวมกำลังเข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้และสามารถยึดไม้เถื่อนได้จำนวนหนึ่ง
ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการตัดไม้เพื่อทำถนนซึ่งเป็นโครงการและใช้งบประมาณของ อบต.
กาลิซา อ.ระแงะ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ทำให้ผืนป่าเสียหายไปเกือบห้าไร่
มีนักธุรกิจเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ชื่อบริษัท D.I.N.(ปัจจุบันให้น้องชายบริหารงานอยู่)
และยังเป็นฐานคะแนนเสียงให้กับอดีต ส.ส. คนดังของ จว.น.ธ. ซึ่ง จนท.
คาดว่าเหตุกรณีข้างต้นทำให้มีกลุ่มอิทธิพลผู้เสียผลประโยชน์ไม่พอใจและคาดว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตันหยงมัส
ประเด็นสำคัญ
ที่ผู้เขียนมีความห่วงใยและต้องการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนทราบคือปัจจุบันกลุ่ม
ผกร. เริ่มเปลี่ยนวิธีการชักชวน บุตร-หลาน ญาติพี่น้องของท่านเข้าร่วมขบวนการ
โดยติดต่อผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยสะดวกรวดเร็ว เช่น
ทางโทรศัพท์และสื่อสังคมออนไลน์ (อินเตอร์เนต,เฟสบุ๊ค,ไลน์) เพิ่มมากขึ้นโดยใช้วิธีการชักจูงต่างๆนาๆอาจเล่าประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนศาสนาบางครั้งถึงขั้นใช้ยาเสพติดเป็นสิ่งล่อจนเคยเกิดเป็นข่าวมาแล้วที่
บ้านต้นมะขาม จว.ป.น.
ทำให้เยาวชนซึ่งเป็นบุตร-หลานของท่านและเป็นอนาคตของชาติต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเสียอนาคตเพราะกระทำผิดหรือร่วมทำผิดกฎหมายจากการถูกชี้นำชักจูงดังกล่าว
...............................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น