วันที่ 13 กุมภาพันธ์เป็นวันครบรอบ 4 ปีการตายของ “มะรอโซ จันทรวดี”
แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบพร้อมพวก 16 ศพ
ซึ่งมีความเหิมเกริมวางแผนนำกำลังเข้าตีฐานทหารนาวิกโยธิน ก่อนโดนกับดัก ลวงพรางสวนกลับนำไปสู่ความสูญเสีย
ย้อนรอยเหตุการณ์ กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า
50 กว่าคน บุกโจมตีฐานทหารนาวิกโยธินที่บ้านยือลอ
ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ที่นำมาสู่การเสียชีวิต 16 คน เมื่อกลางดึกวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556
เรียกความสนใจจากสังคมไทยให้คนสนใจปัญหาชายแดนใต้ได้มากที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง
ภายหลังเกิดเหตุการณ์กับการเสียชีวิตของ“มะรอโซ จันทรวดี”กลับถูกยกย่องให้เป็น “วีรบุรุษ” จากกลุ่มขบวนการและสมาชิกแนวร่วมในทันที
เรามาดูพฤติกรรมและการกระทำที่ผ่านมาของ “มะรอโซ จันทรวดี” ว่าสมควรให้เป็น “วีรบุรุษ”หรือเป็นได้แค่
“อาชญากร”ที่มุ่งเข่นฆ่าผู้คนอย่างไร้ซึ่งอุดมการณ์
ข้อมูลจากแฟ้มคดีของฝ่ายความมั่นคง “มะรอโซ จันทรวดี” ถูกระบุว่าเป็นแกนนำก่อความไม่สงบคนสำคัญและเป็นหัวหน้าทีมในการปฏิบัติการครั้งนี้
เขาเป็นบุคคลตามหมายจับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) 18 หมาย
และหมายจับตามพระกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 หมาย และมีค่าหัวถึง 2,000,000 บาท
เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงซึ่งรับผิดชอบพื้นที่
อ.บาเจาะ สะท้อนให้เห็นระดับความสำคัญของ “มะรอโซ จันทรวดี” แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในอำเภอย่านนี้ เขาคือผู้นำ “เบอร์ 1” ตัวจริงของกลุ่มขบวนการที่ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์
“สถานการณ์ในพื้นที่ อ.บาเจาะ
จ.นราธิวาส นั้น จริงๆ แล้วช่วงหลายปีมานี้ ดีขึ้นมาก แต่ที่ยังมีเหตุการณ์อยู่
ก็เพราะนายมะรอโซ ยังไม่ถูกจับ บอกตรงๆ ว่าพื้นที่นี้ถ้าสิ้นนายมะรอโซ
รับรองว่าสันติสุขแน่”
“มะรอโซเคยอยู่ในกลุ่มที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง
แต่ก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง เขามีอิทธิพลในพื้นที่นี้มาก ชาวบ้านทุกคนหวาดกลัวมะรอโซ
ไม่ว่าใครที่พูดถึง หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาต่อเจ้าหน้าที่
จะถูกจัดการอย่างเด็ดขาดทุกราย”
มะรอโซ" มีชื่อตามทะเบียนบ้าน
เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2525 ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 7 ต.บาเจาะ
อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
คดีล่าสุดที่เพิ่งถูกออกหมาย
เพราะเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง คือ คดีสังหาร ครูชลธี เจริญชล
ครูโรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งถูกบุกยิงเสียชีวิตถึงในโรงอาหารต่อหน้านักเรียนนับร้อย
เมื่อวันพุธที่ 23 มกราคม 2556
คดีใหญ่อีกคดีหนึ่งที่เขาถูกออกหมายจับโดยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม คือ
คดีพยายามลอบวางระเบิดหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11
สิงหาคม 2553 เวลา 08.05 น. และต่อมาวันที่ 15 สิงหาคม 2553 ตำรวจกองปราบฯ
ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศชต.) และฝ่ายทหาร ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยและเกิดการยิงปะทะกับคนร้าย
ปรากฏว่า นายวาเหะ กะดิง และ นายอารอบี รือสะ ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บาเจาะ
ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน ทั้งหมดให้การตรงกันว่า
"มะรอโซ อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่หนีรอดไปได้"
แหล่งข่าวระบุว่า เคยเข้าไปในหมู่บ้าน
และไปนั่งในร้านน้ำชาที่มีชาวบ้านอยู่เต็มร้าน
อยากจะทดสอบความรู้สึกของชาวบ้านที่มีต่อมะรอโซจึงทำทีเป็นพูดเสียงดังว่าใครพาไปหามะรอโซได้จะมีรางวัลให้
ปรากฏว่าชาวบ้านแตกฮือออกจากร้านไปหมดทุกคน นี่คือความน่ากลัวของเขาด้วยความที่หนีรอดจากการจับกุมได้ทุกครั้ง
ทำให้นายมะรอโซ ค่อนข้างฮึกเหิม และปฏิบัติการความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่
ในที่สุด "เหตุใหญ่" ที่ “มะรอโซ จันทรวดี”นำทีมปฏิบัติการก็เกิดขึ้น
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เขานำกองกำลังติดอาวุธประมาณ 30
คน ที่รวบรวมจาก อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ
จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยปืนเล็กที่ 2 บ้านยือลอ
ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ความห้าวหาญของมะรอโซ
แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเขาเดินอยู่แถวหน้า
และเป็นคนผลักประตูฐานปฏิบัติการเพื่อเข้าโจมตีด้วยตัวเอง !
ทว่าคราวนี้โชคไม่เข้าข้างเขาอีกแล้ว
เพราะทหารในฐานรู้ข่าวมาก่อนว่าตกเป็นเป้าจะถูกโจมตี จึงเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้อย่างเต็มพิกัด
ทำให้เขาถูกยิงเสียชีวิตในเหตุปะทะในค่ำคืนนั้นเอง...
ชายวัยกลางคน
ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านยือลอ ใกล้ๆ กับฐานทหารที่ถูกโจมตี กล่าวว่า
ขณะเกิดเหตุนอนหลับไปแล้ว มาได้ยินเสียงปืนจึงตกใจตื่น
ดูนาฬิกาเป็นช่วงใกล้เวลาตีหนึ่ง เสียงยิงปะทะดังประมาณ 30 นาที แต่ไม่กล้าออกไปดู
ได้แต่หลบอยู่ในบ้าน คาดว่าเสียงปืนดังมาจากค่ายทหาร
หลังสิ้นเสียงปืนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์หลายคันขี่ออกไปทางโรงเรียนบ้านบือเระ
(ปากทางเข้าฐานทหาร) คิดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีค่ายทหารน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน
ส่วนผลตรวจสอบอาวุธปืน “มะรอโซ จันทรวดี”ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเคยใช้ทำการก่อเหตุมาแล้ว
35 คดี คดีสำคัญเช่น วันที่ 2 สิงหาคม 2550 ลอบยิง จ.อ.วิทยา ศรีอินทร์ เสียชีวิต,
วันที่ 28 กันยายน 2550 ลอบยิง จ.ส.อ.จริน อัญชนะ จ.ส.อ.วิรัตน์ อินทรสุวรรณ
เสียชีวิต, วันที่ 31 ตุลาคม เหตุลอบยิง ส.อ.วินัย สุวรรณทวี เสียชีวิต
ยิงนางดาริน ส่องพานิช ได้รับบาดเจ็บ และลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหาร
บนถนนสาย 42 เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 4 นาย
นั้นคือพฤติกรรมของ“มะรอโซ จันทรวดี”ที่มีความโหดเหี้ยมฮึกเหิม
และปฏิบัติการความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่รัฐ
หนีรอดเอื้อมมือของกฎหมายแทบทุกครั้ง ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ
สุดท้ายเป็นแกนนำบุกเข้าตีฐานนาวิกโยธินต้องจบชีวิตลงกับพฤติกรรมที่เคยก่อส่อให้เห็นถึงการกระทำที่เป็นอาชญากรเข่นฆ่าผู้คน..โดยไม่เกรงกลัวต่อบาป
แล้วอย่างนี้สมควรยกย่องเป็นวีรบุรุษหรือ!!...
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น