4/17/2563

ทำไม? รัฐบาลไทย จึงต้องพูดคุยกับ กลุ่มบีอาร์เอ็น

            กลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย และทำผิดกฎหมายของประเทศไทยมายาวนาน นับตั้งแต่ประกาศตัว ก่อตั้งกลุ่มฯ ขึ้นเมื่อปี 2503  ก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ด้วยการปล้นฆ่า จับตัวผู้บริสุทธิ์ที่พอมีอันจะกินไปเรียกค่าไถ่  และเก็บค่าคุ้มครองจากเจ้าของกิจการต่างๆ ในพื้นที่ จนมาถึงในช่วงหลัง ตั้งแต่ปี 2547 มีการใช้กองกำลังขนาดเล็ก เข้าปฏิบัติการทางทหาร ด้วยการลอบวางระเบิด ลอบยิงเจ้าหน้าที่ เผาโรงเรียน เผาสถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชน วัดวาอาราม ทำลายระบบสาธารณูปโภค เช่น เสาไฟฟ้า โทรศัพท์ และอื่นๆ  สารพัดที่จะทำเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน และหวาดกลัวกับพฤติกรรมความเลวร้ายของคนกลุ่มนี้

            ความพยายามในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้นั้น รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยล้วนหามาตรการต่างๆ มาใช้ทั้งด้านการพัฒนาพื้นที่ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปราม จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อคลี่คลายปัญหาต่างๆ  และอีกมาตรการหนึ่งที่ฝ่ายรัฐ ได้นำมาใช้ควบคู่ในการแก้ปัญหาในพื้นที่นอกเหนือจากการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ ก็คือการพูดคุยเจรจาเพื่อหาแนวทางในการสร้างความสงบสุขขึ้นในพื้นที่  จึงได้เกิดการพูดคุยเจรจาเพื่อสันติภาพขึ้น  ระหว่างตัวแทนของรัฐบาลไทย กับกลุ่มบีอาร์เอ็น  ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ชายแดนใต้ แม้ว่าจะเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย และทำผิดกฎหมายของประเทศไทยมายาวนานก็ตาม



            คนไทยทั้งประเทศ ส่วนมากแล้ว ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการพูดคุยกับคนผิด คนชั่วเลยด้วยซ้ำ  อยากให้มีการใช้กฎหมายที่เด็ดขาด จัดการให้มันจบสิ้นไปโดยเร็ว..  แต่รัฐบาลก็ยังมองเห็นว่า หากมีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางให้เกิดความสงบสุขขึ้นในพื้นที่ได้ ก็สมควรที่จะทำ  ดังเช่นรัฐบาลในอดีตที่เคยพูดคุยกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนเกิดการยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ.. แนวร่วมฯ กลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย.. ได้ใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัว.. ส่วนผู้ที่มีความรู้ความสามารถและต้องการเข้าสู่เส้นทางการเมืองเพื่อต่อสู้ทางความคิดก็ทำได้.. ดังที่เห็นนักการเมืองหลายๆ คน ในหลายๆ พรรคการเมืองในปัจจุบันนี้.. 

    
            ดังนั้น การที่รัฐบาลได้จัดตัวแทนพูดคุยกับ กลุ่มบีอาร์เอ็น  ก็เพื่อหาทางออกอีกทางหนึ่งในการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ ทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติศาสนา ได้กลับมาใช้ชีวิตที่สงบสุขดังเดิม บ้านเมือง มีความเจริญก้าวหน้าพัฒนาไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น