เมื่อกล่าวถึง RKK
ในการรับรู้ของคนส่วนใหญ่ไม่ว่าในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ ต่างเข้าใจว่าคนกลุ่มนี้คือผู้ที่คอยก่อเหตุสร้างความรุนแรงในพื้นที่ เป็นกลุ่มที่สร้างความเจ็บปวดยัดเยียดความเจ็บปวด คราบน้ำตาให้กับพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้โดยไม่มีการแบ่งแยกว่านี่คือคนไทยพุทธ นี่คือพี่น้องมุสลิม แต่จุดหมายต้องการทำลายชีวิตแม้ว่าหลักคำสอนศาสนาของทุกศาสนาสอนไว้ว่า การฆ่าคนเป็นบาป มีการสร้างสังคมเชิงเดี่ยวให้เกิดความแตกแยกทางความคิด ทำลายสังคมพหุวัฒนธรรม ไม่อยากให้พี่น้องในพื้นที่มีความรัก ความสามัคคีกันเหมือนดังเช่นในอดีต นำไปสู่ความหวาดระแวงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน รวมทั้งการปลุกระดมบ่มเพาะหลักคำสอนศาสนาที่ผิดๆ ให้กับเยาวชน เช่นฆ่าคนในเดือนรอมฎอนแล้วได้บุญ ที่ยอมรับไม่ได้คือการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ต่อพี่น้องทั้งไทยพุทธมุสลิม เด็ก ผู้หญิง ผู้นำศาสนา ต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่าบรรดานักรบ RKK พร้อมทั้งมีกลุ่มโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งที่ในความจริงผู้ที่ก่อเหตุคือมุสลิมแต่กลับมาทำร้ายมุสลิมด้วยกันเอง
ในปัจจุบันรูปแบบการก่อเหตุของ
RKK ยังคงใช้รูปบบเดิมๆ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ตลอด 14 ปีที่ผ่านมาได้สร้างความสูญเสียให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่นับครั้งไม่ถ้วน หลายคนถูกจับกุมดำเนินคดี เกิดการปะทะนำไปสู่การถูกวิสามัญเสียชีวิต มีอีกจำนวนไม่น้อยต้องหลบหนีคดีไปอาศัยยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีอีกลุ่มหนึ่งที่ทนความยากลำบากไม่ไหว มีความเบื่อหน่าย ไม่อยากจะหลบหนีอีกต่อไป อยากกลับมาอยู่กับครอบครัว ประกอบกับมีหลายรายออกมาแฉต่อสังคมว่ากลุ่มขบวนการไร้ซึ่งอุดมการณ์ไม่มีทิศทางในการต่อสู้ ไม่ดูแลสมาชิกที่ได้รับความเดือร้อนกลับถูกลอยแพตามยถากรรม แม้กระทั่งในยามเจ็บไข้ได้ป่วยหยูกยายังไม่มีรักษา ทำให้กำลังใจทดถอย
เมื่อแนวร่วมถดถอยขาดกำลังใจไม่ได้รับการดูแล ชีวิตประจำวันต้องกินต้องใช้ ต้องส่งเสียให้ลูกเมีย จากในอดีตที่ทำการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ จึงเหลือแค่มือปืนรับจ้างทำการก่อเหตุเพื่อแลกกับความอยู่รอด จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นเรื่องของความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ความขัดแย้งส่วนตัว อีกทั้งความขัดแย้งในการค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน สินค้าลักลอบหนีภาษี เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นจึงเป็นช่องทางอันเหมาะที่จะยืมมือ RKK มาเด็ดหัวปลิดชีพฝ่ายตรงข้าม ยิงปืนครั้งเดียวได้นกหลายตัว หนึ่งกำจัดคู่แข่งคู่ความขัดแย้ง ชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง ขบวนการได้คือคงความรุนแรงไว้เพื่อต้องการแสดงศักยภาพ สุดท้ายใช้รูปแบบเดิมๆ โยนผิดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ สร้างความเกลียดชังทำลายความไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน
อุดมการณ์ของ
RKK
จากอดีต จึงถูกแปลสภาพเป็นมือปืนรับจ้างหรือทีมงูเต๊ะที่คอยรับคำสั่งฆ่าหรือก่อเหตุป่วนสร้างสถานการณ์
จากกลุ่มขบวนการเองและกลุ่มผลประโยชน์ธุรกิจมืด เช่น ยาเสพติด ค้าน้ำมันเถื่อน สิ้นค้าหนีภาษี
ให้เข่นฆ่าพี่น้องประชาชนรายวันเพื่อแลกกับเศษเงินหาเลี้ยงครอบครัว
จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นข่าวทุกวันเกี่ยวกับการยิงฆ่ารายวัน ขัดแย้งส่วนตัว
ยาเสพติด ผลประโยชน์ ดังเช่น กรณี 4 ศพ สุคิริน (ผลประโยชน์ร่อนทอง) และ 5 ศพ
บันสนังสตา (ยาเสพติด ) ที่ผลพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนเชื่อมโยงกับกลุ่ม RKK เกี่ยวข้องกับขบวนการโจรใต้ เมื่อกลุ่มขบวนการโจรใต้ก่อเหตุสร้างความสูญเสียด้านความมั่นคงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
และยังรับก่อเหตุเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อแลกกับเศษเงินที่แกนนำกลุ่มขบวนการอยู่มาเลย์
ไม่เคยแยแสใยดีที่จะให้ดูแล ก็จำเป็นต้องเป็นมือปืนรับจ้างเข่นฆ่ารายวัน เมื่ออุดมการณ์หายไป อีกไม่นานก็จะถึงวันล้มสลายของขบวนการใจรใต้
ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะการก่อเหตุแลกกับเศษเงิน (ฝากคิด จึงไม่แปลกที่ภาคประชาสังคมและ นักศึกษา
PerMas จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต้องการสร้างแนวร่วมอุดมการณ์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น