4/12/2563

มาตรการภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชน ในวันที่เกิดโรคระบาดร้ายแรง.. ดีแล้วหรือยัง?


ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย ในวันที่ทุกคนต้องตกระกำลำบากกับโรคร้ายไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้  ซึ่งทางภาครัฐได้คิดและกำหนดรูปแบบในการช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว..  ดูเหมือนว่าเสียงที่ได้ยินส่วนมากแล้วจะไม่ค่อยพออกพอใจกันสักเท่าไรนัก.. ก็เพราะการกำหนดกลุ่มอาชีพที่ได้รับการช่วยเหลือ ว่าต้องเป็นกลุ่มอาชีพนั้นเป็นกลุ่มอาชีพนี้  ซึ่งความจริงผู้ได้รับกระทบและเดือดร้อนกับเจ้าโรคระบาดในครั้งนี้ คือประชาชนคนไทยทุกคน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ที่ภาครัฐกำหนดขึ้นมาเป็นมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนในครั้งนี้ ก็ต้องยอมรับจริงๆ เลยว่า.. ผิดหวังมากกับแนวทางแนวความคิดที่มีมุมมองในเรื่องการเมืองแอบแฝงอยู่ด้วยหรือไม่.. จึงได้แยกคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้.. จึงได้ออกมาตรการแบบนี้ออกมา.. ความเดือดร้อนจากโรคระบาดครั้งนี้กระทบกับคนทุกคน  จะยากดีมีจนก็กระทบหมด  ถ้าคิดจะจัดกลุ่มในการช่วยเหลือจริงๆ ก็น่าจะทำได้ไม่ยาก..  เพราะกระทรวงมหาดไทยมีข้อมูลทะเบียนราษฎร์ มีข้อมูลประชากรทุกคนในประเทศนี้ที่อยู่ในสารระบบอยู่แล้ว.. ข้อมูลคนจนก็มี.. ข้อมูลเกษตรกรก็มี.. ข้อมูลต่างๆ น่าจะมีมากพอที่จะบริหารจัดการได้

ถ้าลองคิดง่ายๆ คิดเล่นๆ ในการช่วยเหลือประชาชน.. ว่าจะหาข้อมูลคนรวยคนจนได้มาจากไหน เพื่อจะจัดกลุ่มในการช่วยเหลือเร่งด่วน.. ก็น่าจะทำได้ไม่ยากเลย.. ในเมื่อทุกๆ ปี มีการเสียภาษีเงินได้ประจำปี.. มียอดรายได้ของแต่ละคนชัดเจน ว่าใครมีรายได้เท่าไหร่.. เสียภาษีเท่าไหร่.. (ใครมีใครจนก็พอจะคาดเดาได้)  แต่ก็อีกนั้นแหละ.. ในเมื่อยังมีอีกหลายครอบครัว ยังมีหลายคน ที่อาจจะไม่เคยเสียภาษีเลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ หรือเป็นผู้ยากไร้รับจ้างรายวัน..  แต่ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าคิดให้ครอบคลุมจริงๆ แล้ว.. ก็ทุกคนนั้นล่ะครับ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้เหมือนกัน.. 

วันนี้.. ชาวบ้านถามหาถุงยังชีพ.. ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าภาครัฐไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย..  เอาละถ้าจะคิดแต่เงินๆๆๆ  ก็ลองคิดแบบเร็วๆ เร่งรัดเร่งด่วนในการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับคนในบ้านเมือง (ยกเว้นข้าราชการ) โดยช่วยเหลือสักคนละ 100 บาทต่อเดือน หรือจะคิดเหมาเป็นครอบครัวๆ 500-1000 บาทต่อเดือน (อยู่ที่ความเป็นไปได้)  ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าบ้าน.. หรือจะเป็นใครก็ได้ในครอบครัวที่มีชื่อตามทะเบียนราษฎร์.. ส่วนครอบครัวใดที่ไม่มีหมายเลขบัญชีธนาคาร  ก็ยกหน้าที่ในการจ่ายเงินไปให้กำนันผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบและดำเนินการ โดยโอนเงินผ่านกองทุนชุมชนที่มีอยู่แล้ว.. ก็น่าจะทำได้ไม่ยาก

ส่วนการช่วยเหลือค่าสาธารณูปโภคค่าไฟฟ้า/น้ำประปา เมื่อวานได้ยินว่าจะมีข่าวดี ถึงมาตรการช่วยเหลือที่ออกมา.. หลงดีใจแทนคนไทยเพราะคิดว่าจะมีการยกเลิกเก็บค่ากระแสไฟฟ้า/น้ำประปา ในระดับครัวเรือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือในยามที่ทุกคนเดือดร้อนนี้ สัก 3 เดือน.. แต่ที่ไหนได้.. ไม่ใช่อย่างที่คิด.. ช่างผิดหวังแทนพี่น้องประชาชนคนอย่างเราๆ ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด  มาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐคิดออกมาช่วยเหลือประชาชนแต่ละเรื่องแต่ละอย่างมันก็ช่างกะปลกกะเปลี้ยเหมือนคนพิการ..  วันนี้ทุกคนจึงต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด อย่าไปคาดหวังหรือรออะไรที่มันมองไม่เห็นอีกเลย.. ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น