7/04/2556

'สะแปอิง-มะแซ'หลังม่านเจรจาป่วนหนัก


     ทีมข่าวความมั่นคง รายงานในการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ระหว่างกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นกับตัวแทนรัฐบาลไทยตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา    ยังมีคำถามกันอยู่ว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำการเจรจาของกลุ่มบีอาร์เอ็น มีอำนาจสั่งการกลุ่มขบวนการได้หรือไม่เพียงใด ที่สำคัญคือสองแกนนำตัวจริงที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง คือ นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อุเซ็ง รับรองการเจรจาครั้งนี้หรือไม่  และแกนนำทั้งสองคนมีบทบาทแค่ไหน อย่างไร ในการเจรจา เพราะหากการเจรจาครั้งนี้ ไม่ได้รับรองจากแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ และความน่าเชื่อถือจากแกนนำในพื้นที่จริง ปลายทางแห่งสันติภาพคงยากที่จะปรากฏให้เห็นในเร็ววัน  แหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  การันตีว่าการเจรจาครั้งนี้ทั้ง นายสะแปอิง และนายมะแซ  เป็นผู้ที่อยู่ "เบื้องหลัง" การเจรจาจริง  รวมทั้งยังอยู่เบื้องหลังการสั่งการให้ก่อเหตุรุนแรงรายวันในพื้นที่ด้วย  อย่างไรก็ตามทั้งสองได้เก็บงำความลับเกี่ยวกับสถานที่กบดานอยู่ในชั้นลับสุดยอด โดยมีข่าวมา 2 ทาง ทางหนึ่ง  คือ หลบหนีอยู่ภายใน ประเทศมาเลเซีย และอีกทางหนึ่งมีข่าวว่าทั้งสองพำนักอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย  สำหรับการสั่งการของแกนนำทั้งสองคน  จะกระทำผ่านมายังผู้นำกองกำลังทหารที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่  ปัจจุบันมีแกนนำคนสำคัญ 2 คน คือ นายรุสดี ยี่งอ และ นายอิสมาแอ ระยะหลง  ซึ่งเป็นแกนนำหลักทางการทหาร โดยมีหน้าที่สั่งการต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายปฏิบัติการและเตรียมกำลังเพื่อก่อเหตุรุนแรง ภารกิจหลักในปัจจุบันของกองกำลังในพื้นที่ จะเน้นหนักไปที่การโจมตีฐานปฏิบัติการของทหาร และตำรวจ  ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมและเป็นจุดอ่อน  

            ส่วนสาเหตุที่แกนนำทั้งสองรายยังคงสั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ พุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์  แม้จะมีการเผยแพร่ข้อตกลงเรื่องการลดการก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือน "รอมฎอน" ทางหน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่า เป็นปฏิบัติการตอบโต้และกดดันรัฐบาลไทยที่ไม่ยอมรับ 5 ข้อเสนอหลัก ที่นำเสนอโดย นายฮัสซัน ตอยิบ ลงในเว็บไซต์ยูทูบโดยเฉพาะข้อเสนอหลักเรื่องการถอนกำลังทหาร-ตำรวจ  ข้อเสนอเรื่องการปลดหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มขบวนการ และข้อเสนอเรื่องการขอ "ปกครองตนเอง" เมื่อรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ ทั้งยังไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐสภาลงนามรับรองข้อเสนออย่างเป็นทางการ ดังนั้น การก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้ และกดดันท่าทีของฝ่ายรัฐบาลไทยจึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง   และเชื่อว่าในเดือนรอมฎอนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป   สถานการณ์ความรุนแรงก็จะไม่ลดลง อย่างที่รัฐบาลไทยคาดหวังอย่างแน่นอน  

                การข่าวของฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนว่า ในช่วงนี้แกนนำหลักทั้งสองคนได้สั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ เตรียมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมีเป้าหมายใน จ.นราธิวาส ที่ อ.บาเจาะ และ อ.ศรีสาคร ใน จ.ยะลา ที่ อ.ยะหาและอ.บันนังสตา และใน จ.ปัตตานี ที่ อ.หนองจิก และ อ.ยะรัง  ทั้งนี้ สำหรับบทบาทการสั่งการอยู่เบื้องหลังการเจรจาครั้งที่ผ่านๆ มา ทั้ง นายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้สั่งการ และกำหนดเกมผ่านตัวเปิด คือ นายฮัสซัน ซึ่งประเด็นในการเจรจาทั้งหมด จะถูกกำหนดโดยแกนนำทั้งสองคนมาแล้วทั้งหมด  รวมทั้งการออกมาชิงการนำและกดดันรัฐบาลผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หลังตัวแทนรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ 5 ข้อที่นำเสนอบนโต๊ะเจรจา นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ยอมรับว่า การพูดคุยระหว่าง สมช.กับ บีอาร์เอ็น ทางนายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้คัดเลือกบุคคลเข้ามาเจรจาทั้งหมด รวมทั้งเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ส่งสัญญาณมาให้รัฐบาลไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดคำแปลเพื่อชี้แจงมายังรัฐบาลอีกครั้ง ขณะที่เป้าหมายของ บีอาร์เอ็น ยังวางไว้สูงและไม่ลดระดับลงจากการสถาปนา "รัฐปัตตานี" และหากสามารถเดินไปสู่บันไดขั้นที่ 7  คือ  แบ่งแยกดินแดนหรือปกครองตนเองได้สำเร็จ ทางกลุ่ม  บีอาร์เอ็น ก็เตรียมที่จะแบ่งเค้กฟอร์มทีม "คณะผู้ปกครอง" ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความกระอักกระอ่วนใจของฝ่ายไทยที่เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ลำบากเช่นทุกวันนี้

 เปิดปูม "สะแปอิง บาซอ"
 "นายสะแปอิง บาซอ"  มีฐานะตำแหน่งเป็นถึง "ครูใหญ่" แห่ง "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" ซึ่งเปิดสอนถึงขั้นอนุปริญญา ภายใต้การบริหารของ "นายสะแปอิง บาซอ" ชาวตำบลเมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี อดีตกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สำหรับ "นายสะแปอิง บาซอ" จบการศึกษาด้านศาสนาจากเมืองมาดีนะห์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ในยุคก่อนที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย    จะปรับปรุงระบบการเรียนการสอนทางด้านศาสนา   ด้วยการหันไปยึดแนวทางของ  วาฮาบี "นายสะแปอิง บาซอ" เป็นแกนนำสำคัญของ "ขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น โคออดิเนต" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้หลายครั้ง นี่คือภาพลักษณ์ของ "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" และบทบาทของ "นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นำพาโรงเรียนนี้สู่ความรุ่งเรือง เป็นบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่วันนี้ถูกยกระดับให้แกนนำคนสำคัญของ ขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแกนนำสำคัญระดับที่หน่วยงานของรัฐไทยเชื่อว่า ชายชื่อ "นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นี้ คือว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปัตตานี


เบื้องหลังนายมะแซ อุเซ็ง
นายมะแซ อุเซ็ง  มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 33/1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทั้งนี้ นายมะแซ เคยรับราชการเป็นทหารเกณฑ์ในค่ายเสนาณรงค์ สังกัด ร้อย.5 พัน.1  ระหว่างรับราชการทหารมีส่วนร่วมในการปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) ในระหว่างปี 2522-2525 โดย นายมะแซ มีประวัติการฝึกการก่อวินาศกรรม และการรบแบบกองโจรจากโรงเรียนนายร้อยประเทศลิเบีย    จากนั้นในปี  2547  เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นปืนค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายมะแซ ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง   พบแผนการปฏิบัติการ 7 ขั้นตอน   เพื่อการสถาปนารัฐปัตตานีและเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ บีอาร์เอ็น อย่างไรก็ตาม นายมะแซ สามารถหลบหนีไปได้โดยหลบหนีข้ามแดนไปยังมาเลเซีย  โดยการช่วยเหลือของ นายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ประธานขบวนการมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี และเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการกองกำลังกลุ่มบีอาร์เอ็น เพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จนกระทั่งปัจจุบัน

ที่มา คมชัดลึกออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น