8/06/2556

“รอมฎอนมืด” สังหารอีหม่ามยะโก๊บ หรือหลักศาสนาจะใช้ไม่ได้กับโจรใต้


         พลันที่สิ้นเสียงปืนดังลั่นกลางตลาดนัดจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมๆ กับการเสียชีวิตของนายยะโก๊บ  หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี  ความรู้สึกของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งที่เป็นไทยพุทธและมุสลิมต่างรับรู้ถึงความสูญเสียบุคลากรที่ทรงคุณค่าทางศาสนาซึ่งเป็นที่เคารพรักใคร่ของประชาชนทั่วไป  พร้อมด้วยคำถามที่ตามมามากมายในทำนอง ใครเป็นคนทำ ทำทำไมและหนทางสันติภาพที่ทุกคนโหยหาจะมาถึงได้อย่างไรในเมื่อแม้แต่อิหม่ามซึ่งเปรียบเสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของพี่น้องมุสลิมต้องมาถูกกระทำเช่นนี้

          ย้อนหลังไปเมื่อเกือบ ปีที่แล้ว ช่วงค่ำวันที่ 11 ต.ค.2553  อิหม่ามยะโก๊บเคยถูกคนร้ายลอบยิงที่หน้าบ้าน แต่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระสุนโดนเพียงหมวกกะปิเยาะห์  แต่การถูกลอบยิงจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดในครั้งนั้น  ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจปฏิบัติตนในฐานะผู้นำศาสนาที่ดีลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด  บทบาทในการเป็นอิหม่ามที่ต่อต้านการบิดเบือนคำสอนทางศาสนาและการใช้ความรุนแรง  รวมทั้งการแสดงความเห็นผ่านสื่อในเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาอย่างต่อเนื่อง  จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตกเป็นเป้าหมาย  

อีกสาเหตุหนึ่งที่มีความเป็นได้มากที่สุดคือ  หลังถูกลอบยิงครั้งก่อน  ในชั้นสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอิหม่ามยะโก๊บได้เคยชี้รูปของนายอดินัน  มะสาอิ (เสียชีวิต) และ นายนัชรุดดิน แวบือราเฮง ว่าเป็นคนร้ายที่ลอบยิงตนเอง  แต่ขอร้องไม่ให้บันทึกคำให้การเพื่อออกหมายจับ  เนื่องจากตนเป็นอิหม่ามเกรงจะเกิดข้อครหาว่าปลักปรำผู้อื่น    
จึงเป็นเสมือนการปล่อยเสือเข้าป่าด้วยเจตนาดีของท่าน

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 2 ส.ค.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายนัชรุดดิน แวบือราเฮง สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา ถึง  8 หมาย หนึ่งในนั้นคือคดีสะเทือนขวัญ เหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพ ในพื้นที่ บ.ตะลุโบ๊ะ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานีเมื่อ 1 พ.ค.56 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการสอบสวนถึงคดีลอบยิงอิหม่ามยะโก๊บในครั้งนั้นด้วย  แต่ยังไม่ทันได้ผลคืบหน้าอิหม่ามก็มาถูกลอบสังหารเสียก่อน

จากกรณีข้างต้นประเด็นเดียวที่ฟันธงได้คือ “ฆ่าก่อนความจริงปรากฏ” เพราะนายนัชรุดดินนั้นได้รับความไว้วางใจจากขบวนการให้รับหน้าที่มือระเบิดต่อจาก นายมะซอเร ดือรามะ เนื่องจากนายมะซอเรฯ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปลายปี 54 ที่ผ่านมา โดยนายนัซรุดดินฯ รับหน้าที่หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ซึ่งความเกี่ยวพันนี้ขบวนการไม่อาจปฏิเสธได้  แต่นายนัชรุดดินกลับเป็นผู้ต้องหาที่ลอบยิงอิหม่ามยะโก๊บ  ซึ่งหากอิหม่ามยะโก๊บชี้ตัวยืนยันภายหลังจากจับกุมครั้งนี้  นอกจากนายนุชรุดดินจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาอย่างแน่นอนโดยมีผู้เสียหายชี้ตัวอย่างชัดเจนแล้ว  ขบวนการจะต้องเสียมวลชนครั้งยิ่งใหญ่  เพราะคงตอบคำถามพี่น้องมุสลิมไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องการสังหารอิหม่ามยะโก๊บ
นี่น่าจะเป็นขนวนเหตุหนึ่งของการถูกลอบสังหารครั้งนี้

          อีกสาเหตุหนึ่งมาจากการที่อิหม่ามเป็นผู้นำศาสนาที่ต่อต้านการบิดเบือนหลักศาสนาอันดีงาม  ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับข้างฝ่ายขบวนการที่นำศาสนามาบิดเบือนเพื่อให้แนวร่วมหลงผิดเข้าร่วมขบวนการ  การปล่อยไว้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้โดยใช้ศาสนาที่ถูกบิดเบือนมาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว 


และหากจะมีใครซักคนที่ต้องถูกสังหารเพื่อสร้างกระแสความหวาดกลัวและยอมเชื่อฟังในคราวเดียวกันให้เกิดขึ้นกับแนวร่วมที่ถูกข่มขู่ใช้งานแล้ว  อิหม่ามยะโก๊บ หร่ายมณี คือเหยื่อที่คุ้มค่าและได้ผลมากที่สุด 

          เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ซึ่งจะสร้างความหวาดกลัวและให้ความร่วมมือของผู้นำศาสนาในพื้นที่ได้อีกนาน

          แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด “อิหม่ามยะโก๊บ” ผู้นำศาสนาที่ยึดมั่นในแนวทางตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในมุมของศาสนาและการแสดงจุดยืนในการสร้างสันติในเมฆหมอกแห่งความขัดแย้งได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะฮฺแล้ว  ในฐานะที่ได้ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และเห็นถึงความตั้งใจจริงของอิหม่ามยะโก๊บมาโดยตลอดขอให้ความดีของท่านได้เกื้อหนุนให้ท่านไปสู่โลกอาคีเราะห์อย่างที่ท่านตั้งใจด้วยเถิด..... ด้วยจิตคารวะ  อามีน      



ซอเก๊าะ  นิรนาม

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอแสดงความเสียใจกับคนที่ทำดี

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ7 สิงหาคม 2556 เวลา 12:35

    ก้อจับคนร้ายมาลงโทษซิ มีด่านทหารยุวรอบเมืองแต่ทำไมถึงจับคนร้ายไม่ดัยกินเงินเดื่อนอย่างเดียวรึงัย ควาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคืบหน้าเหตุคนร้ายประกบยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ขณะกำลังเดินจ่ายตลาดหน้าชุมชน วอกะห์เจะหะ ถนนยะรัง ซอย ๖ ต.จะบังติกอ อ.เมือง จว.ป.น. เสียชีวิต เมื่อ ๕ ส.ค. ๕๖ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป จากการสืบสวนของ จนท. ทราบว่ามีผู้ต้องหาร่วมกระทำผิด จำนวน ๔ คน ไม่ทราบชื่อ จำนวน ๑ คน และออกหมายจับแล้ว จำนวน ๓ คน คือ
      ๑.นาย มาฮูเซ็น แมฮะ หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ๒๕๗/๕๖ ลง ๙ ส.ค. ๕๖
      ๒.นาย อาดือนัน สิเดะ หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ๒๕๘/๕๖ ลง ๙ ส.ค. ๕๖
      ๓.นาย มูฮำมัด กาซอ หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ๒๕๙/๕๖ ลง ๒๘ พ.ย.๕๖
      และเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ย.๕๖ จนท. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน ๑ คน คือ นาย มาฮูเซ็น แมฮะ ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ จนท. จึงได้ร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดปัตตานี เมื่อ ๒๘ ก.ย.๕๖
      ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีนี้แล้ว มีความเห็น "สั่งฟ้อง"นาย มาฮูเซ็น แมฮะ กับ พวก ข้อหา"ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ" โดยส่งฟ้องที่ ศาลจังหวัดปัตตานี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนอีก ๒ นายที่ยังหลบหนี จนท. กำลังติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

      ลบ