การเสียชีวิตของครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรายที่ 162 คือ นายอธิคม ติวงศ์ ครูโรงเรียนบ้านประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นอีกเหตุสลดใจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ภายใต้กระแสความพยายามในการสร้างสันติภาพที่มองเห็นลิบๆ ที่ปลายอุโมงค์ โดยผู้แทนทั้งสองฝ่ายจากรัฐบาลไทยและฟากฝั่งขบวนการที่ถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อยุติลงได้โดยเร็ว ในทางกลับกันที่ขบวนการยังมีการลอบสังหารผู้บริสุทธิ์อย่างไม่เว้นวันพร้อมกับยุทธวิธีสร้างมวลชนด้วยการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่รู้ๆ กันว่าฝ่ายขบวนการต้องการคุมมวลชนให้ได้ภายใต้กระบอกปืน
ในภาวะแห่งการบิดเบือนที่ไร้เหตุผล การเข่นฆ่าผู้คนด้วยข้อกล่าวอ้างที่ฟังอย่างไรก็ไม่สามารถยอมรับได้ของกลุ่มคนที่อ้างว่าทำเพื่อประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ด้วยการใช้ความรู้สึกของตนเองโดยนำหลักศาสนามากล่าวอ้างแล้วนั้น ย่อมไม่ได้รับการยอมรับทั้งจากประชาชนในพื้นที่หรือแม้แต่องค์กรระหว่างประเทศที่มีความเป็นกลาง
ก็จะมีใครจะยอมรับได้เล่า...ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นกำลังเข่นฆ่าผู้ที่มุ่งมั่นตั้งใจสั่งสอนลูกหลานให้มีความรู้ หรือบางครั้งเด็กๆ เหล่านั้นก็เป็นลูกหลานของพวกเขาเอง แล้วเขาต้องการอะไร อุดมการณ์? ผลตอบแทน? หรืออื่นๆ ที่ยากจะคาดเดา แต่อย่างหนึ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและปฏิเสธไม่ได้คือ
ไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดในโลกที่ทำร้ายบุคลากรทางการศึกษา....แบบนี้
ข้ออ้างของการฆ่าครูอธิคม หรือแม้แต่ครูท่านอื่นๆ ที่ผ่านมา เพื่อต้องการชดเชยชีวิตของอุซตาสท่านหนึ่งคือ นายอับดุลรอฟา ปูแทน จากแผนความพยายามที่จะสร้างความแตกแยกโดยใช้ชีวิตของผู้ที่ได้รับการยอมรับทางสังคม จึงเป็นเพียงความพยายามเบี่ยงเบนเจตนาที่แท้จริงของการกระทำเลวทรามหวังเพียงมุ่งไปสู่การสร้างความแตกแยกในสังคมตามความนิยมความรุนแรง....ก็เท่านั้น
น่าแปลกที่กรณีท่านยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามนักพัฒนาผู้ยึดมั่นแนวทางสันติกลับไม่ได้ถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการสังหารคนเป็นผักปลาโดยขบวนการเหมือนที่เคยซึ่งเป็นเรื่องน่าคิดว่า..ทำไม?
เพราะท่านอิหม่ามยะโก๊บไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้ายฆ่าคนไม่เลือก?
เพราะจุดยืนในการสร้างสันติภาพซึ่งขัดกับความต้องการหลักของขบวนการ
หรือเพราะการขัดขวางไม่ให้กลุ่มองค์กรนักศึกษาและองค์กรอิสระที่มุ่งหวังเพียงผลประโยชน์บางองค์กรเข้ามาจัดกิจกรรมปลุกระดมประชาชนให้เกิดความแตกแยกโดยแอบอ้างความอยุติธรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นในมัสยิดกลางปัตตานีก่อนการถูกลอบสังหารเพียงหนึ่งสัปดาห์
คำถามคือ....ทำไมกรณีอิหม่ามยะโก๊บไม่ถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้าง แต่กรณีนายอับดุลรอฟา ต้องถึงกับนำมาเป็นเหตุผลในการฆ่าคนเพื่อตอบโต้ เพราะอิหม่ามยะโก๊บเป็นผู้ขัดขวางขบวนการต้องถูกกำจัดทิ้ง และนายอับดุลรอฟาคือผู้อยู่ในขบวนการที่ต้องเชิดชูและล้างแค้นเพื่อควบคุมมวลชนให้อยู่ในอาณัติด้วยความหวาดกลัว อย่างนี้...ใช่หรือไม่
ครูอธิคมคงเป็นอีกท่านหนึ่งที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับความขัดแย้งอย่างสิ้นคิดของกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งแม้ว่าวันนี้คุณครูเหล่านี้กำลังเสียสละตั้งใจด้วยอุดมการณ์ของความเป็นครูในอันที่สอนสั่งลูกศิษฐ์ให้เป็นคนดี มีอนาคตที่ดีตามบริบทของการดำรงชีวิต ซึ่งไม่แตกต่างจากแนวทางของอุสตาซที่พร่ำสอนให้ลูกหลานใช้หลักศาสนาที่ดีมาเป็นแนวทางดำรงชีวิต ผิดด้วยหรือที่ครูจากถิ่นฐานบ้านเกิดเดินทางไกลเพื่อมาสั่งสอนเด็กๆ ด้วยมุ่งหวังในสิ่งดีๆ เพราะเหตุใดความปรารถนาดีของครูต้องได้รับผลตอบแทนด้วยกระสุนปืน ใครตอบได้ช่วยบอกที
ขอเป็นกำลังให้คุณครูทุกท่าน ...ด้วยจิตคารวะ
ซอเก๊าะ นิรนาม
ซอเก๊าะ นิรนาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น