6/21/2558

เมื่อ ‘ตูแวดานียา’ ประกาศ ‘ผมนี่แหละ BRN’


ผมพึ่งกลับมาจากเยี่ยมญาติที่เชียงใหม่ เจอกับหลานเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่าเมื่อกลางเดือนที่แล้วได้ไปงาน พื้นที่พลเมือง เปลี่ยน (ไม่) ผ่านซึ่งเขาจัดที่ร้านน้ำชาสนิมทุนเชียงใหม่ กลุ่มปาตานี ฟอรั่ม กลุ่มลุ่มน้ำสายบุรี องค์กรอะไรก็ไม่รู้เขียนว่า LEMPAR คนประชาธิปไตย พลเมืองเสมอกัน เมื่อ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลานและเพื่อน ของเขาเล่าให้ฟัง ท่านตูแวดานียา ตูแวแมแง เป็น ผอ.ของ องค์กร LEMPAR เล่าว่าความหมายของคำว่าปาตานีเป็นชื่อของอาณาจักรของคนมลายู ที่ไม่เหมือนกับคำว่าปัตตานี ซึ่งเป็นชื่อจังหวัดของประเทศไทย ฟังดูมันยังไง ๆ เหมือนแบ่งแยกนะ แต่เด็กๆ เขากลับไม่ได้คิดอะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ท่านบอกว่าเกิดมาตั้งนานแล้วตั้งแต่เกิดจากการต่อต้านของกลุ่มเจ้าเมืองเก่า
ต่อมาเป็นการต่อต้านโดยกลุ่มผู้นำทางศาสนา และตั้งแต่ปี 2503 เกิดการลุกขึ้นสู้ของปัญญาชน พร้อมว่ารามคำแหง หรือกลุ่มที่จบจากอินโดนีเซีย และอียิปต์ เป็นเบ้าหลอมหรือแหล่งบ่มเพาะคนของ BRN จนมีอยู่ในทุกพื้นที่ ทุกกลุ่ม รวมทั้งแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม จนท.รัฐ กลุ่มนี้ เมื่อก่อเหตุเสร็จ ก็จะกลับไปเป็นชาวบ้าน ชาวสวน ท่าน ผอ.ตูแวดานียา บอกว่าตัวท่านเองก็เป็นแนวร่วมของ BRN ด้วยเช่นกัน แต่ที่ ไม่ถูกจับหรือเป็นอะไรเพราะมีนักศึกษาหลายสถาบันหนุนหลังอยู่...ชัดเจนว่าแนวร่วม BRN น่าจะกระจายอยู่ในกลุ่มนักศึกษาหลายโรงเรียนวิทยาลัยมหาวิทยาลัย... เจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ท่านทราบหรือไม่!!!

เรื่องที่ ผอ.ตูแวดานียา เล่า มันก็ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าทำไม NGOs ทั้งหลาย รวมทั้งกลุ่มนักศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเราถึงไม่ค่อยออกมาประณาม หรือแสดงความไม่เห็นด้วยเวลามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นกับคนทั่วไปโดยเฉพาะกับคนไทยพุทธ ก็คงจะเป็นอย่างที่ ผอ.ตูแวดานียา ว่า เป็นเพราะ NGOs และนักศึกษาจำนวนไม่น้อย เป็นแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่พูดอย่างนี้ ก็ดูจะเหมารวมเกินไป เอาเป็นว่าใครอยากจะรู้ก็คงต้องไปลองสืบๆ ดูว่า แกนนำ NGOs หรือภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหวในปักษ์ใต้บ้านเราตอนนี้จบการศึกษามาจากไหนบ้าง ถ้าส่วนมากจบมาจากรามคำแหง อินโดนีเซีย หรืออียิปต์ ก็คงไม่ต้องคาดหวังอะไรมากมาย
เรื่องจะให้พวกเขามาเป็นปากเป็นเสียง เป็นทางเลือกที่จะช่วยสร้างสันติภาพในพื้นที่...และถึงแม้ว่าท่านตูแวดานียาจะไม่ได้พูดถึงสถาบันการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดที่เป็นแหล่งบ่มเพาะ แต่ก็น่าเชื่อว่าคงจะมีด้วยแน่ๆ แต่จะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ก็คงต้องดูว่านักศึกษากลุ่มไหนที่เป็นพันธมิตร หรือทำกิจกรรมร่วมกับองค์กร LEMPAR บ่อยๆ
นอกจากนี้ ข้อมูลที่ ท่าน ผอ.ตูแวดานียา พูดมาจากการรู้จริง และจากประสบการณ์จริงของความเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้นำองค์กรที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก มันช่วยตอกย้ำข้อสงสัยหลายๆครั้งที่ผ่านมา ว่าทำไมเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ที่นี่มันถึงเกิดได้ง่าย ทั้งในพื้นที่ตัวเมือง ย่านชุมชน และในตลาด ทั้งๆที่ด่านตรวจตั้งเยอะแยะ ที่แท้ก็เป็นอย่างที่ท่านตูแวดานียาว่านี่เอง ว่าคนเป็นแนวร่วมก็คือชาวบ้านไม่มีเครื่องแบบเราดีๆนี้แหละ ก่อเรื่องเสร็จก็แปลงกลับไปตีหน้าซื่อเป็นชาวบ้าน ชาวสวน คงจะเหมือนในคลิปคนวางระเบิดในยะลา และนราธิวาส ที่เขาส่ง ต่อๆกันมาใน Line ที่มีกระทั่งพวกใส่ชุดดาวะห์ ไม่รู้ว่าดาวะห์ปลอม หรือดาวะห์จริงๆ ที่ทำงานเสริมเป็นแนวร่วมไปก่อเรื่องกับเขาด้วย
สรุปก็คือ ประชาชนคนทั่วไปซวยที่สุด คือ เจ้าหน้าที่แยกไม่ได้ว่าใครเป็นชาวบ้านทั่วไป ใครเป็นโจร เลยคุมไม่ได้เต็มที่ทำให้ยังมีเหตุระเบิด เหตุยิง อย่างที่เป็นอยู่ แถมพอเกิดเรื่อง แทนที่จะได้ NGOs ออกมาช่วยกันประณามกดดันไม่ให้มีการทำร้ายประชาชน พวกมีปากมีเสียงดันพากันเงียบ เพราะเป็นแนวร่วมซะอีก

ยังไงก็ดี ในฐานะคนในพื้นที่ รับรู้ความสูญเสีย เห็นและผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจมาหลายครั้ง ขอประกาศตรงนี้เลยว่า จริงๆ ก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เรื่องที่พวกคุณๆ ทั้งหลายทั้ง BRN พูโล NGOs และนักศึกษาอยากจะแบ่งแยก อยากเป็นเอกราช จะโดยการใช้ความรุนแรง หรือการเรียกร้องให้ประชาชนตัดสินใจเลือกอย่างที่ ท่าน ผอ.ตูแวดานียา ว่าเพราะเห็นด้วยว่าประชาชนควรมีสิทธิ์เลือกและตัดสินใจหากรัฐไม่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองที่ดีได้จริงๆ
แต่รู้ไหม ?? การที่พวกคุณใช้ความรุนแรงกับประชาชน เพิกเฉยกับความสูญเสียของประชาชน มันไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่คุณกล่าวหารัฐบาลเลยแม้แต่น้อย และการเคลื่อนไหวของพวกคุณจะไม่มีวันชอบธรรมหรือได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ได้เลย เพราะไม่ใช่แค่คนไทยพุทธที่เป็นเหยื่อการเลือกปฏิบัติของพวกคุณเท่านั้น ที่จะต่อต้าน แต่คนมลายูนับถืออิสลามหลายๆ คนเขาก็ไม่เอาพวกคุณด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นคนทรยศ หรือไม่รักพี่น้องอิสลามด้วยกันหรอกนะ แต่เพราะว่าจนถึงวันนี้ พวกคุณทั้งหลายยังไม่สามารถทำให้พวกเขาเห็น ว่า พวกคุณคือทางเลือกที่ดีกว่า นั่นเองเข้าใจนะ

ที่มา http://board.postjung.com/887853.html

6/20/2558

ทลายฐานโจรใต้ไอร์ปาแย นำไปสู่ยึดคืนอาวุธปืนปล้นจากพันพัฒนา 4

แบดิง โกตาบารู
กลุ่มขบวนการโจรใต้ฟาตอนียังคงมีการแฝงตัวปะปนกับผู้คน และหลบซ่อนตัวในหมู่บ้านเพื่อเป็นแหล่งพักพิง โดยมีแนวร่วมที่คอยสนับสนุนเป็นผู้จัดหาที่พักให้ อีกส่วนหนึ่งยังมีสมาชิกแนวร่วมได้ใช้สถาบันการศึกษาที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่ จชต. เป็นที่หลบซ่อนตัว ซ่องสุมอาวุธปืน สารประกอบระเบิด และทำการฝึกทางยุทธวิธี ควบคู่กับการบ่มเพาะแนวร่วมรุ่นใหม่ขึ้นมา
จากการปฏิบัติงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ ทั้งงานการเมือง และการบังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยใช้กฎหมายพิเศษ มีการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในหลายพื้นที่ด้วยกัน จนสามารถควบคุมตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ที่หนีรอดการจับกุมได้หลบหนีเคลื่อนย้ายไปหลบอาศัยในพื้นที่ป่าเขา และมีบางส่วนหลบหนีไปกบดานยังประเทศมาเลเซีย
การปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ในการเข้าพิสูจน์ทราบฐานปฏิบัติการในป่าเขา นับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งนอกเหนือจากการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการกดดันและจำกัดเสรีการเคลื่อนไหวในการก่อเหตุของสมาชิกแนวร่วมขบวนการ และการเก็บหลักฐานนับว่ามีความสำคัญ ซึ่งเป็นประโยชน์ใช้ในการหาความเชื่อมโยงเพื่อนำไปใช้ในการขยายผลติดตามจับกุมตัวบุคคลเป้าหมาย และพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืน
อย่างเช่นเมื่อ 12 มิถุนายน 2558 เจ้าหน้าที่ได้บุกทลายฐานที่มั่นผู้ก่อเหตุรุนแรง บนเทือกเขาไอร์ปาแย บ้านไอร์ปาแย ม.8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ก่อนจะมีการปะทะเดือด และสามารถรวบ 2 ผู้ต้องสงสัย และกลุ่ม ผกร.ที่เหลืออาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ พบโรงเรือนปลูกสร้างกว่า 3 หลัง
ซึ่งจากการแจ้งของแหล่งข่าวภาคประชาชนเป็นไปได้ว่าแกนนำโจรใต้ได้สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคกลุ่มนี้ มาตั้งค่ายพักแรมย่อยเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในห้วงรอมฎอน
เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าจากริมถนนสายไอร์ปาแย-เจาะไอร้อง ไปเชิงเขาระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนที่จะต้องเดินขึ้นเทือกเขาที่มีความสูงชันอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งพบกองกำลังติดอาวุธจำนวนหนึ่งกระจายอยู่ โดยคนร้ายที่ทำหน้าที่เข้าเวรยามอยู่ที่บริเวณโขดหินสูงเหนือค่ายพักย่อยเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนให้พวกทราบ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเป็นระลอกนานกว่า 10 นาที กลุ่มคนร้ายจึงได้อาศัยความชำนาญพื้นที่ยิงเบิกทาง หลบหนีขึ้นเทือกเขาไป
หลังการปะทะเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่พบผู้ต้องสงสัย 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายซอมะ สะมะแอ และนายอิบรอเฮ็ม อุมา พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุน อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก และปืนพกสั้นขนาด .38 พร้อมกระสุนปืน และรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวอีก 3 หลัง โดยแต่ละหลังใช้ผ้าใบกันฝนมุงเป็นหลังคา พร้อมกับเสบียงอาหาร ภาชนะใช้สำหรับปรุงอาหาร เสื้อผ้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ยารักษาโรค
โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นอัยการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอที่ติดอยู่ตามสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า รวมไปถึงที่พัก เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ตามที่เกิดเหตุต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ากลุ่มที่หลบหนีเคยก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง
จากการซักถามผู้ต้องสงสัยในเวลาต่อมา นายอิบรอเฮง อูมา ให้การยอมรับว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2557 ร่วมกับ นายกี (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ได้นำอาวุธปืน M-16 จำนวน 2 กระบอก เข้าไปหลบซ่อนในพื้นที่ บ้านเจาะเกาะ ม.14 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
เมื่อ 16 มิถุนายน 2558 จากคำให้การของ นายอิบรอเฮง อูมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืน ในบริเวณพื้นที่บ้านเจาะเกาะทันที และผลการพิสูจน์ทราบได้ทำการตรวจพบอาวุธปืน M-16 จำนวน 3 กระบอกด้วยกัน
อาวุธปืน M-16 ทั้ง ๓ กระบอก เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจหมายเลขอาวุธปืนพบว่า อาวุธปืนหมายเลข 9537362 และ 9537325 เป็นของกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง ที่ถูกกลุ่มโจรใต้ปล้นไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ส่วนหมายเลข 9544917 อาวุธปืนอีกกระบอกหนึ่งยังไม่พบในฐานข้อมูลอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
การทลายฐานที่มั่นของโจรใต้ฟาตอนีบนเทือกเขาไอร์ปาแย นับว่าเป็นความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ในการกดดันและทำลายขวัญและกำลังใจของกลุ่มขบวนการ อีกทั้งยังจำกัดเสรีการเคลื่อนไหวของกลุ่มโจรใต้กลุ่มนี้ไม่ให้ลงมือก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอน
ดังที่กล่าวไปแล้วผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตการณ์เลือกทำเลที่ตั้งฐานปฏิบัติการ มีการเลือกในป่าภูเขาใกล้หมู่บ้าน และมีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งเป็นไปได้ว่ายังมีแนวร่วมในบ้านไอร์ปาแย คอยส่งเสบียง ข้าวของเครื่องใช้ และคอยแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐให้กับกลุ่มโจรใต้
ความสำเร็จในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐหลายต่อหลายเหตุการณ์ เป็นเพราะได้รับความร่วมมือจากผู้หวังดี ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง รวมถึงภาคประชาชนที่ต้องการความสงบ และสันติสุขซึ่งเป็นคนหมู่มากที่ไม่ต้องการให้กลุ่มโจรใต้มาก่อเหตุในหมู่บ้าน ในชุมชนที่ตนเองได้อาศัยอยู่ มีแต่จะนำความเดือดร้อน ความสูญเสียมาสู่ตนเอง ครอบครัว และบุคคลรอบข้างไม่วันใดก็วันหนึ่ง หากพี่น้องมลายูปาตานีให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส ข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มโจรใต้ กลุ่มขบวนการก็จะไม่สามารถทำการก่อเหตุได้ เหตุการณ์ความรุนแรงค่อยๆ หายไป ภาครัฐเดินหน้าเวทีการพูดคุยกับกลุ่มที่เห็นต่าง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนำพาสันติสุขกลับคืนมา พี่น้องในพื้นที่ จชต. ถึงแม้จะแตกต่างด้านเชื้อชาติ และศาสนา จะกลับมารักใคร่ปรองดองไม่หวาดระแวงต่อกัน อยู่ร่วมกันภายใต้พหุวัฒนธรรมดั่งเช่นในอดีตที่ผ่านมา.....

---------------------------

6/11/2558

เหตุระเบิดที่ยะลาเกี่ยวข้องกับนักศึกษาจริงหรือ?

แบดิง โกตาบารู


ความเหมือนของเหตุคาร์บอมบ์เมืองนรา-สู่เหตุระเบิดป่วนเมืองยะลา 44 จุด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดล้อมหอพักนักศึกษาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย กลุ่ม PerMAS กดดันเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์ให้ปล่อยตัว กล่าวหาเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิ ในการทำกิจกรรมของนักศึกษา สุดท้าย!! ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพมีเอี่ยวลอบระเบิดป่วนเมือง

ณ นาที่นี้เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี หรือ PerMASซึ่งเป็นปีกการเมืองของขบวนการ BRN มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนงานการเมือง เป็นผู้จัดตั้งมวลชนสนับสนุนกลุ่มขบวนการ และปลุกกระแสเรียกร้องให้มีการลงประชามตินำไปสู่การกำหนดใจตนเอง เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากรัฐไทย

ในสายตาของประชาชนปาตานีที่ไม่รู้เท่าทัน PerMAS เข้าใจว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษาคือความหวังหนึ่งเดียวของปาตานีที่ได้ขับเคลื่อนต่อสู้เพื่อประชาชน ตามแนวทางของประชาธิปไตย ด้วยการแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ

แต่เบื้องลึกจะมีใครรู้บ้างว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษาเหล่านี้ได้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มขบวนการ BRN ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ หลายต่อหลายเหตุการณ์ด้วยกันที่ลงมือก่อเหตุกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่าจะรู้ว่าเป็นฝีมือใครที่กระทำความรุนแรงก็ต่อเมื่อได้กลายเป็นศพ หรือไม่ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย


หากท่านที่ติดตามข่าวสารในการนำเสนอของสื่อมวลชนจะพบว่าจากเหตุระเบิดที่นราธิวาสพร้อมกัน 3 จุด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งในเวลาต่อมามีการตรวจค้นหอพักและควบคุมตัวนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และบุคคลที่ถูกควบคุมตัวหลายคนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการลอบวางระเบิดในครั้งนั้นจริง ๆ

นายอัมรีย์ วรรณมาตร, นายอิสมะแอ เจ๊ะโซะ และนายรีดวน สุหลง ได้ยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ โดยเฉพาะ นายรีดวน สุหลง ยอมรับว่าได้ร่วมประชุมวางแผนกำหนดเส้นทางพื้นที่เป้าหมายในการก่อเหตุ และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมนำพากลุ่มปฏิบัติการเข้าพื้นที่เป้าหมาย เป็นผู้ควบคุมผู้ร่วมก่อเหตุไปรับรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก มิตซูบิชิ สตราดา ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ที่ซ่อนระเบิดแสวงเครื่องแล้ว ไปเก็บซุกซ่อนไว้ก่อนนำไปก่อเหตุ

ถัดมาวันที่ 2 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ได้เปิดแผนตรวจค้นต่อเป้าหมายย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 9 เป้าหมายด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหอพักบ้านเช่านักศึกษา ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องต่อกรณีปล้นรถยนต์กระบะที่ อำเภอยะหา และเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดยะลามาทำการซักถาม และในวันเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 5 คน ขณะทำกิจกรรมค่ายเยาวชนที่โรงเรียนดารุสสาลามมูลนิธิ ม.6 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง รวมแล้วได้ควบคุมตัวนักศึกษาหลายสิบคน


ผลการซักถามผู้ที่ถูกควบคุมตัว จำนวน 4 ราย คือ นายอับดุลฟาริด สะกอ, นายไซดี ทากือแน, นายซอบรี กาซอ และ นายแยสฟรี หะยีปูต๊ะ ให้การรับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดยะลาเมื่อ 14-16 พฤษภาคม จำนวน 44 จุด และผู้ที่ยอมรับสารภาพนั้น มี 2 ราย ยังเป็นนักศึกษาอยู่ซึ่งกำลังศึกษาอยู่วิทยาลัยสารพัดช่างจังหวัดยะลา และ มอ.ปัตตานี

ความเหมือนกันของเหตุลอบวางระเบิด ถนน ณ นคร จังหวัดนราธิวาส และในเขตเทศบาลนครยะลา ทั้งสองเหตุการณ์ คือมีการตรวจค้นหอพักนักศึกษา เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ

ความเหมือนอีกอย่างหนึ่งคือความพยายามของกลุ่ม PerMAS ในการเคลื่อนไหวกดดันเจ้าหน้าที่ให้มีการปล่อยตัวนักศึกษา มีการบิดเบือนข้อมูล และชี้นำทางความคิด ด้วยการออกแถลงการณ์ กล่าวหาว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการก้าวล่วงการจัดกิจกรรมของนักศึกษา แต่เป็นเพราะหลักฐานเชื่อมโยงในเวลาต่อมาผู้ถูกจับกุมได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุลอบวางระเบิด และเป็นผู้ร้ายตัวจริง

การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาด้วยการก่อเหตุ นอกจากได้สร้างผลกระทบต่อเป้าหมายแล้ว ยังส่งผลต่อสมาชิกแนวร่วมผู้กระทำที่จะต้องถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี และบางรายมีหมายจับต้องหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างล่าสุดผู้ต้องหาหมาย ป.วิอาญา 2 หมาย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งหลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อเข้ามอบตัว เมื่อ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ผู้ต้องหาตามหมาย ป.วิอาญา คนดังกล่าวได้ยอมรับว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม ผกร.ตั้งแต่ปี 2553 ได้กระทำพิธีสาบานตน (ซูมเปาะ) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงในพื้นที่ ด้วยการลอบวางระเบิด สภ.ปะลุกาสาเมาะเมื่อ 14 กันยายน 2554 เหตุลอบยิง นางสาวอรุณ  บัวจุด ปลัด อบต.ปะลุกาสาเมาะ เสียชีวิตบริเวณตลาดนัดกือดายือริง  เมื่อ 2 ธันวาคม 2554

สาเหตุที่ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากหลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ เดือนสิงหาคม 2555 รู้สึกคิดถึงบ้าน และที่สำคัญเข้าใจแล้วว่าการเป็นสมาชิกกลุ่ม ผกร. ต้องทำให้ชีวิตต้องลำบาก และสิ่งต่างๆ ที่มีการปลุกระดมจากขบวนการไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จึงอยากยุติและหันหลังให้กับความรุนแรง ส่วนหนึ่งมีความไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่ จึงขอเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขกับครอบครัวยังบ้านเกิดเมืองนอน ไม่ต้องหลบหนีการจับกุมอีกต่อไป

การมุ่งสร้างความรุนแรงที่กลุ่มขบวนการได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีต่อแนวทางการเอาชนะด้วยการใช้กำลังในการต่อสู้ใดๆ เลย มีแต่สร้างความเสียหาย และความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้

การบิดเบือนข้อเท็จจริงของกลุ่มองค์กร อย่างเช่นพฤติกรรมของสหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี หรือ PerMAS ที่ทำการปลุกกระแสเรียกร้อง ชี้นำทางความคิดของประชาชน จะต้องไม่ล้ำเส้นความมั่นคงของประเทศ การดำเนินกิจกรรมจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย จะต้องยอมรับความจริงว่าผู้ที่กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ การใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายในการกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ทำการปล่อยตัวคนผิดไม่ได้ส่งผลดีใดๆ ต่อองค์กรเลย และสมควรที่จะหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เสียที ควรมุ่งจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ที่องค์กรนักศึกษาอื่นๆ กระทำกัน เพื่อประโยชน์ต่อนักศึกษาและประชาชนโดยรวม ร่วมขับเคลื่อนนำพาสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีกว่ามั๊ย….PerMAS
--------------------------------------------


6/09/2558

งามไส้ PerMAS ที่แท้มือวางระเบิดยะลาคือนักศึกษา

'แบดิง โกตาบารู'


นายสุไฮมี ดูละสะ ประธาน PerMAS นายฮากิม พงติกอ, นายอาร์ฟาน วัฒนะรองประธาน PerMAS เคลื่อนไหวหลอกนักเรียน นักศึกษาให้ไปกดดันเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมที่หน้า ศชต.โดยกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ล่าสุดผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา 44 จุด รวม 56 ลูก ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 18 ราย ได้รับยอมรับสารภาพแล้ว จำนวน 4 ราย
1. นายอับดุลฟาริด สะกอ
2. นายไซดี ทากือแน
3. นายซอบรี กาซอ
4. นายแยสฟรี หะยีปูต๊ะ

จากข้อมูลผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย ยอมรับว่าเป็นมือลอบวางระเบิดเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อ 14-16 พ.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญแต่ประการใด

ข้อมูลที่น่าสนใจ นายอับดุลฟาริด สะกอ จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา หลังจากนั้นศึกษาต่อสถาบันพละศึกษาจังหวัดยะลา ปัจจุบันทำงานที่เทศบาลเมืองรามันห์ อ.รามัน จ.ยะลา (มีหมาย ป.วิอาญา 1 หมาย)

นายไซดี ทากือแน จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา ชั้น 10 ปัจจุบันกำลังศึกษา ดีโพมา (อนุปริญญา) วิทยาลัยสารพัดช่างจังหวัดยะลา 

นายซอบรี กาซอ จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา ศึกษาต่อ มอ.ปัตตานี ปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส

นายแยสฟรี หะยีปูเต๊ะ จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา ปัจจุบันกำลังศึกษา มอ.ปัตตานี และเป็นครูสอนที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามประสานมิตร 

จะเห็นได้ว่าผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดเขตเทศบาลนครยะลาทั้ง 4 ราย ที่ยอมรับสารภาพนั้น จบการศึกษาจากโรงเรียนธรรมวิทยา อ.เมือง จ.ยะลา และที่น่าสนใจคือมี 2 ราย ที่กำลังศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างจังหวัดยะลา และ มอ.ปัตตานี

แล้วการที่กลุ่ม PerMAS ออกมากล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รังแกควบคุมตัวนักศึกษาเหล่านี้ การตรวจ DNA เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนพร้อมทั้งกดดันให้มีการปล่อยตัว พฤติกรรมของกลุ่ม PerMAS มันบ่งบอกถึงจุดยืนที่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และสนับสนุนการกระทำของโจรใต้ฟาตอนี ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งกลุ่มนักศึกษาเป็นผู้ก่อการร้ายเสียเอง

นี่หรือแนวทางการต่อสู้ของ PerMAS ที่พยายามสร้างภาพมาโดยตลอดว่าเป็นการขับเคลื่อนงานการเมือง ทำการเคลื่อนไหวตามแนวทางสันติ เป็นปัญญาชนคนมีความรู้ สุดท้ายใช้ความรุนแรงเคลื่อนไหวก่อเหตุเสียเอง...งามไส้มั๊ยล่ะพี่น้อง

กลุ่ม PerMAS อย่างนายสุไฮมี ดูละสะ รู้มั๊ยว่าสมาชิกนักศึกษาในกลุ่มเป็นผู้ร้าย หากไม่รู้ไม่เห็นคงไม่ดิ้นพล่าน เหงื่อแตกซิกๆ ลงมือด้วยตนเองในการนำมวลสมาชิกนักเรียนที่ไปหลอกเค้ามาเพื่อเป็นเครื่องมือไปกดดันหน้า ศชต.

อย่างว่าละครับไปหลอกนักศึกษาสถาบันอื่นๆ ไม่ได้ผลอีกแล้ว เลยหันมาหลอกนักเรียนซึ่งง่ายกว่าและน้องๆ โรงเรียนธรรมวิทยาก็หลอกง่ายซะด้วยให้ความร่วมมือทำการเคลื่อนไหว ครั้งก่อนหน้าแตกเย็บไปหลายเข็ม บาดแผลยังไม่หายดีกับการไปหลอกนักศึกษาทั่วประเทศให้ร่วมเคลื่อนไหวปล่อยตัวนักศึกษาที่ลงมือก่อเหตุลอบวางระเบิดเมืองนราธิวาส สุดท้ายเป็นงัยผลคือผู้ที่ถูกจับกุมยอมรับสารภาพว่าเป็นมือลอบวางระเบิดจริง ดั่งเช่นกับครั้งนี้ที่ยอมรับสารภาพถึง 4 ราย แค่เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนเวลา เปลี่ยนตัวแสดง แต่บทยังคงเดิมๆ กลุ่ม PerMAS ก็ยังคงใช้ลูกไม้เดิมๆ นี่คือหน้ากากของนักศึกษาในคราบโจร...น่าเบื่อหน่ายต่อพฤติกรรมเป็นที่สุด

----------------------------

6/08/2558

50 Tahun Pintu Penjara Terbuka Untuk Empat Jenayah Pengemboman Hadapan University Ramkhamhaeng Lagi Satu Orang Sudah Menyembunyi Di Malaysia.



 50 Tahun Pintu Penjara Terbuka Untuk Empat Jenayah Pengemboman
Hadapan University Ramkhamhaeng  Lagi  Satu Orang
 Sudah Menyembunyi Di Malaysia.
Pada 26 May 2013, pengjenayah telah melakukan satu tindakkan pengemboman  di hadapan University Ramkhamhaeng kawasan 43/1  Khwaeng Hua Mark  Bangkapik  Bangkok ,akibatnya 7 orang cedera, Pihak kakitangan telah memulakan siasatan mengenai punca apa-apa. Politik Konflik peribadi Atau pengjenyah sengaja untuk mewujudkan keadaan.
Pegawai polis mengumpul bukti di tempat kejadian di hadapan salon "Orkas" yang memeriksa kamera pengawasan di kawasan itu. Penyiasat Trace menyambung seiring maklumat Sehingga tarikh itu, penjahat yang menyebabkan kumpulan penjenayah dari Selatan.
Pihak  berkuasa pusat telah menghantar maklumat  kepada pihak berkuasa jenayah di wilayah selatan dengan segera untuk menguatkuasakan undang-undang terhadap keganasan. Dan selepas itu pegawai-pegawai mengesan suspek yang ditangkap seorang individu, iaitu Encik Idris Saktapa di Khok Khian Narathiwat 
pada 17 Jun 2013, dan ditahan di bawah undang-undang tentera negeri. Untuk membuat pertanyaan  unit 41 askar Wang Phaya daerah Raman, Yala.
Kemudian pada 19 Jun 2013, berikutan perkembangan soal siasat, Encik Idris Saktapa  yang luar biasa untuk mengesan ditangkap dan pegawai-pegawai penguatkuasa undang-undang Encik Affaham Sak-ak mencerminkan perbandaran tempatan Tluban Sai Buri. Pattani Dan ditahan oleh undang-undang mempertahankan diri.
Keputusan kedua-dua pertanyaan. Yang telah memberikan pengeboman pekik menyebabkan orang lain. Mahkamah telah mempertimbangkan makna Ini. Kecemasan telah ditugaskan oleh Encik Khamphee  Lateh dan Encik Ibrahim Waemae sehingga 27 Julai  2013 Polis Malaysia telah menahan 2 orang yang melarikan diri dari undang-undang. Dan mengemukakan untuk mempersoalkan di pusat pemprosesan Pitak  santi. Pasukan polis di wilayah selatan Yala.
Bagi 43 pengeboman 4 orang telah  mengaku bersalah terhadap sejumlah lima orang bersama-sama dan menyebabkan perlawanan cengking bahawa orang-orang yang melarikan diri dari Encik Harlem Makli penduduk di di daerah Yaring. Pattani
Di tempat kejadian Fungsi peruntukan yang dirancang. Encik Khamphee Lateh dan Encik  Harlem Maklee perbuatan membawa kepada letupan di tempat kejadian di hadapan salon "Augustus" dengan baki tiga perbuatan meneroka pergerakan pegawai. Empat lelaki mengakui bahawa mereka adalah orang yang di CCTV, pihak berkuasa digunakan sebagai keterangan dalam penangkapan mengejar.
Dia mengaku bersalah atas pembunuhan yang mengandungi bom dan cuba untuk meletakkan ke dalam tong sampah. Terletak di sebelah kotak di sebelah tiang lampu isyarat. Soi Ramkhamhaeng 43/1 kawasan dan kira-kira 15 minit kemudian ada letupan.
Kemudian itu  Encik Khamphee Lateh telah menerima bahawa mereka telah dikeluarkan baju hitam yang dipakai ke atas daun luar dan kemudian ditutup kepalanya. Untuk menyembunyikan diri mereka dan berjalan kembali ke tempat kejadian.
Keesokan harinya selepas kejadian dan lima orang telah pulang ke rumah di Selatan dan kehidupan yang normal. Sehingga Encik Idrees Sa-tapa yang luar biasa semuanya ditangkap telah berpecah melarikan diri. Dan telah ditangkap tidak lama selepas itu.
Dan kemudian pihak berkuasa telah menghantar empat lelaki untuk pendakwaan jenayah di balai polis Hua Mak. Untuk prosiding mahkamah.
Pada 20 Mac 2015 Mahkamah Jenayah Bangkok Hakim menjatuhkan hukuman defendan hingga empat orang untuk "penjara seumur hidup", tetapi pengakuan itu akan mengurangkan hukuman salah satu daripada tiga baki hukuman penjara 66 tahun, lapan bulan dan 60 setiap baht oleh "dipenjarakan selama 50 tahun yang tinggal" kerana undang-undang yang memerlukan. Istilah maksimum penjara tidak melebihi 50 tahun.
Satu lagi sebab untuk mengesan orang yang telah melarikan diri pegawai Encik Harlem Maklee telah terus dipantau di seluruh. April lepas, permulaan masa lalu. Ketua di kalangan pemimpin-pemimpin di kawasan itu Beliau mengenal pasti rumah Encik Harlem di Daerah Yaring mendapati tiada kesan yang tinggal lama dahulu.
Siasatan itu mengesahkan bahawa Encik Harlem bersama keluarga. Pindah diri di Malaysia telah dipindahkan kira-kira dua tahun yang lalu dan tidak pernah kembali lagi.
Penguatkuasaan terhadap keganasan, sama ada peristiwa akan melalui beberapa tahun. Bukti kukuh, terutamanya DNA di tempat kejadian disimpan dalam direktori yang kekal. Dalam usaha untuk mengesan menangkap pesalah ke muka pengadilan. Kamera CCTV telah dipasang di pelbagai lokasi. Ia sangat membantu untuk kes itu. Ia juga adalah sebahagian penting daripada keterangan di mahkamah untuk mendakwa penjenayah.
Laman-laman pengeboman Universiti pada 26 May 2013 dan juga pengesahan daripada "langit bermata .. Syurga adalah Minda Saya" .. lepas empat kesalahan jenayah untuk melepaskan diri daripada cengkaman undang-undang, tidak keluar dari penjara setiap selama 50 tahun untuk mendapatkan balik tindakan. Yang lain masih belum ditangkap membawa isteri-isteri mereka melarikan diri ke negara-negara jiran berdusta. Dari saudara meninggalkan rumah mereka Chong kosong. Tiada peluang untuk kembali ke tanah air lagi ...
………………………………………………………………………………….

سبله فيليغ دكمفوغ تؤجود



 كومبالي دركلاكوان دولوفدتمفة 25 ميناكوم 2558 تنترابرسام اسكردافة حبران دري رعية دالم كمفوغ كاتث كومفولن فئانسن دالم موكيم 6 كمفوغ تؤخود فيءتين دايره توغياغ ديغ ويلايه فطاني
 مولامولادري كلاكوان دري 3 هاري دولوفيهق كسلامتن دافة حبران فرئرقكن
بائي كومفولن فئانسن فريغكة عاكيكي سباثقث 4 اوراغ ممباوأ 2 بواه موتو
ائقث اياله نأي انوار درامي ، نأي مأكوراسي ميلؤ ، نأي عثمان سأمأ ،دان ساتو اوراغ لائي تيدق تاهوكن نامث
 كئرقكن اين ائق كاتث كومفولن فئانسن يغترسبوت ايت ماسوق دالم تمفتن سفاي برلاكوكلاكوان فئانسن كتمفة يغلمه دان ترهادف فيهق كراجأن يأيت خوري لتقكن بوم ، منوسوت بديل فيهق كراجأن دان رعية تهأيفوت سهيغئ تجوان تمفة كلمهن
 دان سلفس درماس ايت سموافيهق كراجأن ترفقسامنوروت اداب سفاي مغيئتكن 4 اوراغ يغترسبوت دالم تمفتن ايت سلالوسهيغئ تيمورله فرلاوانن
ممباوأكن كماتينث 4 اوراغ بوليه ايئتث 22 اوراغ تتافي كأدأن ايت ممباوأكن كئرقكن سهيغئ فيهق ففريقسأن يغ هندق تيموركبنران دغن دلتق ماسث 7 هاري
فدتمفة 7 ميناكوم 2558 جم فوكول 10.00 فائي دهوتيل فاقويوريسوت فطاني
نأي ويرأفوغ كيوسؤوان فواراخخأكان خغوات ترماسوق جوئ دالم ففريقسابرسام دغن فمبريتا دالم تمفتن فدتمفة 25 ميناكوم 2558 سفاي تيموركعاديلن ترهادف ستيف فيهق منوروت جالننث
دالم كسوألن كبنران كلاكوان دكمفوغ تؤخوت دلتقكن3مسأله ففريقسأن
1. سي ماتي ايت برلاكو فئانسنكه تيدق؟
دالم فريغكة اين سموافيهق ففريقسأن ممبري كنمفقكن كاتث سي ماتي 4 اوراغ ايت بوكن فئانسن دان بوكن كومفولن فئانسن جوئ
2. بديل ايت اداله الة بائي سي ماتي كه تيدق ؟
دالم فريغكة اين فيهق ففريقسأن تيدق بوليه ممبري كفوتوسن دركأدأن فلاوانن دغن فيهق كراجأن دالم كأدأن منخاري سقسي دان تندا تندا كجالنن كعاديلن  دان جك فيهق كراجأن ممبوات كسالهن كنامنوروت اداب كراجأن
3. جالنن بوكوبوكو ،خاراكهيدوفن دان سيمفنن نأيوبأي
فركارايغفرتام حال كأدأن يغبرلاكو ممباوأكن كبيناسأن ترهادف رعية دان برستوه دغن ككواتن ترهادف مريك يغ بنر فيهق كراجأن يغدتغئوغ جواب برفيسه دغن كأدأن كعاديلن ترهادف كسمواث
 دري فغتهوان كدالمي يغد ففريقسأن تندا تندأن بائي نأي سدم  وانؤ سي ماتي ايت اد فرهوبوغن دغن كلاكوان يغبرلاكو دان بركنأن دغن بوكو بوكو بركنأن دغن كسلامتن فدتمفة 9 تنواكوم 2556 دري فيهق كراجأن تنترا ص ف.توغيغديغ ويلايه فطاني
 دري ففريقسأن تندا تندا 5 اوراغ دري 22 اوراغ ايت برسام جوئ دغن بركنأن دغن كومفولن فئانسن  دان نأي سمان  واديغ بركنأن جوئ دغن كلاكوان يغبرلاكوكن بوم ددايره كأف  ويلايه فطاني فدتاهون 2556
 1 دالم 22 اد سورات ايئتن ف. ويء عايا تتافي دودوق دانتارا فرأمن  يأيت نأي حمري  حاج خيء عمورث 30 تاهون منجادي سؤراغ فئانسن فريغكتث فكرجأن
 دان دري ففريقسأن لبيه درفد 11 اوراغ اديغ مماسوق دالم كومفولن فئانسن دان يغتركجوتث 18 اوراغ دري 22 اوراغ افبيل مميقسأكن اير كخيغ ايت تيمورله ورنث بيرو
 تتافي ادبائي مريك يغ تيدق بأيك كفيكيرانث دلتقكن كرتي دغن فركاتأنث كات كسموا فربواتن ايت اداله فيهق كراحأندجوالكن داده سفاي ممابوقكن رعية ملايو تتافي سسوغئوهث كومفولن فئانسن ايت سنديريله يغ ممباوأكن داده داده ايت ترهادف سام سنديري دغن باثق كالي يغ فيهق كراجأن دايئة بوليه اداث ميق دان باراغ باراغ دممباوألاريكن اسيلث دان اديغدبوك كن كفد فريغكة كتوا كومفولن يغمان برلاكو كجالنن يغ كسالهن دري اداب ادابث
دري كلاكوان يغبرلاكو دكمفوغ تؤخود فيء تين دايره توغياغديغ دايره فطاني منجادي فغاجران بائي فيهق بهائين منجائ كسالمتن يغمان ميتف يغك 4 ممينتأكن كمعافن دري كلاكوان يغبرلاكويغمان دبرلاكودغن ككواتن ايت دسبله ميتف
دان فيهق كراجأن ممينتأكأمفونن ترهادف رعية يغبرستوه سهيغئ ممباوأكن كبيناسأن دان ترهادف كفد عتيفبدي محالأي فطاني فون مغاكودأتس كلاكوان يغبرلاكو ايت ممباوأكن كأوران
 دان دأحيري فنوليسن سنديري فون ممبري فغرتين ترهادف اوغكون اينخي او ستغهث ممبوات كفدبرسليسيهن دان ممبوات كبنخين دانتارارعية دغن فيهق كراجأن دويلايه سلاتن بائي فيهق كراجأن لبيه لبيه لائي كومفولن فرمس يغ تيدق سوكوغ دغن فرخاكفن بركنأن دغن فندامأين سمنجق دمولا لائي
افكه مريك دكهندقيث؟