นักรัก ปัตตานี
วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน
ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29
มิถุนายน พ.ศ.2557 เดือนรอมฎอน
หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ถือได้ว่าเป็นบุญใหญ่แห่งปีที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจกัน
แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแสวงโอกาสในห้วงเดือนแห่งศรัทธา ได้โฆษณาชวนเชื่อ
และปลุกระดมให้มวลสมาชิกและแนวร่วมผู้หลงผิดเข้าใจว่า “การก่อเหตุในเดือนรอมฎอนจะได้บุญมากเป็นพิเศษ” โดยเฉพาะการลงมือก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
ย้อนรอยไปดูสถานการณ์การก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนในรอบ
9 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีการก่อเหตุค่อนข้างมาก
ลักษณะการก่อเหตุจะเน้นหนักยิงรายบุคคล ตามด้วยลอบวางระเบิด ลอบวางเพลิง
และเหตุก่อกวน เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อปี 56
ได้มีกระบวนการพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลไทยกับฝ่าย BRN โดยได้มีข้อตกลงที่จะลดเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน
ซึ่งในห้วงแรกของเดือนแห่งการถือศีลอดการก่อเหตุได้ลดลงจนหลายฝ่ายต่างออกมาชื่นชมว่ากระบวนการพูดคุยได้ผล
แต่เหตุการณ์ได้พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อมีการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในห้วง
10 วันสุดท้ายก่อนจะละศีลอด
เหตุความรุนแรงเดือนรอมฏอน ปี 56 ทั้งที่มีข้อตกลงลดการก่อเหตุ
วิเคราะห์ได้ว่า
BRN ไม่สามารถควบคุมสั่งการสมาชิกระดับปฏิบัติการที่ทำการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ได้ทุกกลุ่ม
เนื่องจากมีการแตกออกไปหลายกลุ่มด้วยกัน
บางกลุ่มไม่เห็นด้วยในแนวทางกระบวนการสันติภาพที่กำลังมีการพูดคุยกันอยู่
ซึ่งในภายหลังขบวนการ BRN ได้ออกมากล่าวอ้างผ่านสื่อกล่าวหาว่ารัฐบาลไทยทำผิดข้อตกลงในการลดเหตุรุนแรง
ข่าวบางกระแสได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเดือนรอมฎอนเกิดจากการกระทำของกลุ่ม
PULO ที่ต้องการแสดงศักยภาพเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ
หลังจากนั้นได้มีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไปในทิศทางเดียวกัน กลุ่ม PULO
ได้มีที่นั่งบนโต๊ะเจรจาร่วมกับขบวนการ BRN เพื่อทำการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลไทย
เหตุจูงใจการก่อเหตุเดือนรอมฎอน
เดือนแห่งการถือศีลอด
เดือนรอมฎอน
หรือเดือนแห่งการถือศีลอดเป็นเดือนแห่งประเสริฐของมวลพี่น้องมุสลิมที่ประกอบศาสนกิจ
เป็นเดือนแห่งบุญ เป็นเดือนแห่งการมุ่งทำความดี เหตุไฉนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่ละเว้นในการก่อเหตุ
สืบเนื่องจากได้มีการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา และมีความเชื่อแบบผิดๆ โดยระดับแกนนำขบวนการ
BRN ได้ปลุกระดมทางความเชื่อทางความคิดให้กับสมาชิกและแนวร่วม เข้าใจว่าการก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอน
เป็นการต่อสู้เพื่อแผ่นดินมาตุภูมิปาตานีดารุสลาม
เป็นการทำสงครามต่อผู้รุกรานหรือสงครามญีฮาด ซึ่งจะได้รับผลบุญทวีคูณสองเท่า
การอ้างให้สมาชิกและแนวร่วมทำสงครามญีฮาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ไม่ถูกต้อง การที่จะกำหนดว่าเป็นสงครามญีฮาดได้นั้น จะต้องเป็นดินแดนดารุลอิสลาม
หรือดารุสสลาม ดินแดนของชนชาวอิสลามปกครองด้วยศาสนาอิสลาม เมื่อคนต่างศาสนามารุกราน
พี่น้องร่วมชาติอิสลามจะต้องต่อสู้ปกป้องประเทศและปกป้องศาสนา
หรือเป็นดินแดนดารุลฮัรบี
คือดินแดนที่เมื่อก่อนเป็นประเทศที่ปกครองด้วยคนอิสลามแล้วถูกคนนอกศาสนารุกราน
ทุกคนต้องเข้าร่วมต่อสู้เป็นสงครามญีฮาด แต่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
มีแต่การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหลอกลวงให้สมาชิกและแนวร่วมผู้หลงผิดทำการก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอน
ว่าจะได้รับบุญทวีคูณ
ใครได้ ใครเสีย
หากยังมีการก่อเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน
สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศในขณะนี้
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจจะนำมาเป็นประเด็นในการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ในห้วงเดือนรอมฎอน
เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้ทหารจะมีอำนาจในการปกครองประเทศก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟใต้ได้
อีกทั้งยังมีความต้องการเรียกความเชื่อมั่นจากสมาชิกแนวร่วม
มีการสร้างแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยทำการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา
นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
หรือนักการเมืองระดับชาติที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเดือนแห่งการถือศีลอด
ในส่วนของปัญหาภัยแทรกซ้อน
ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน และสินค้าหลบหนีภาษี ยังคงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนหรือเป็นแหล่งเงินทุน
ท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในการก่อเหตุอยู่ต่อไป
และที่สำคัญในห้วงเดือนรอมฎอน พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ไปทำมาหากิน
ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ
จะเดินทางกลับภูมิลำเนามาประกอบศาสนกิจกับครอบครัวจำนวนมาก กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาศัยอยู่ยังประเทศเพื่อนบ้านอาจจะอาศัยจังหวะและโอกาสนี้ในการแฝงตัว
แทรกซึมเข้ามาทำการก่อเหตุป่วนเมือง
หน่วยงานความมั่นคงยังคงให้ความสำคัญกับบทบาทผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด จากการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาของกลุ่มขบวนการ
มีการหารือหาทางออกของปัญหาร่วมกัน และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2557
ที่ผ่านมาได้มีพิธีละหมาดฮายัต ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
โดยมีผู้นำศาสนาและพี่น้องประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
เนื้อหาสาระสำคัญให้ทุกคนเห็นว่า “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งความดีงาม”
อย่าให้กลุ่มบุคคลที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือมาทำลายศาสนาอิสลาม
เดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งประเสริฐ เดือนแห่งการทำความดี
อย่าให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาทำลายบรรยากาศเดือนแห่งบุญ ที่มีการเข่นฆ่าผู้คนล้มตายกันอีกเลย
พี่น้องชาวปาตานีอย่าไปหลงกับคำโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวง
บิดเบือนข้อเท็จจริงจะต้องรู้เท่าทัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากพี่น้องชาวปาตานีอยากเห็นสันติสุข
ความสงบที่แท้จริงปราศจากเสียงปืนและเสียงระเบิด แค่ระยะเวลาหนึ่งเดือนซึ่งพี่น้องมุสลิมถือศีลอด
ร่วมกันต่อต้านไม่เอาความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกระทำต่อผู้บริสุทธิ์แบบสุดโต่ง
ในเมื่อประชาชนร่วมมือกัน เป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องดูแลความผิดปกติ
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก็คงไม่กล้าที่จะลงมือทำการก่อเหตุ
หากทำไปมีแต่เสียกับเสียไม่คุ้มทุนที่ต้องเสียมวลชนไปให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ..คอยติดตามรอมฎอนปี
57 ปีนี้ เหตุจะลดหรือจะเพิ่มกว่าเดือนรอมฎอนปีที่ผ่านๆ มาหรือไม่ อย่างไร มาดูกัน...
@@@@@@@@@@@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น