‘Ibrahim’
เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีทีท่าจะดับมอดนับตั้งแต่ปี
2547 จนถึงปัจจุบัน หากดูย้อนดูสถิติความสูญเสียและการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดต่อเจ้าหน้าที่หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์
จะเห็นได้ว่าสถิติการก่อเหตุของขบวนการในบางช่วงจะมีจำนวนครั้งค่อนข้างสูง
และบางช่วงมีจำนวนครั้งในการก่อเหตุน้อย ผลกระทบและความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ต้องอิงปัจจัยและรูปแบบการก่อเหตุเป็นหลัก
การก่อเหตุด้วยการลอบวางระเบิดถือได้ว่ามีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนค่อนข้างสูง
เนื่องจากการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายด้วยระเบิด
อำนาจการทำลายไม่สามารถจำกัดจำเพาะเจาะจงคนใดคนหนึ่งได้
ฉะนั้นประชาชนผู้บริสุทธิ์จึงต้องตกเป็นเป้าในการกระทำความรุนแรงของกลุ่มขบวนการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข่าวการลอบวางระเบิดของกลุ่มคนร้ายที่สร้างผลกระทบต่อประชานมีให้เห็นอยู่เนืองๆ
โดยเฉพาะผลกระทบที่มีต่อเด็กซึ่งไร้เดียงสาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยกับความขัดแย้งของผู้ใหญ่แต่กลับมารับผลกรรมและการกระทำที่สุดโต่งอย่างน่าใจหาย
ความรุนแรงล่าสุดจาก
2 เหตุการณ์ใน 2 พื้นที่ซึ่งอยู่ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา อำเภอจะนะ เทพา
ที่ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงเท่าใดนัก
แต่ปัจจุบันกลับมีการก่อเหตุที่รุนแรงเสมือนหนึ่งเป็นตัวบ่งชี้นัยสำคัญในการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการ
หรืออาจจะสอดรับผสานอะไรบางอย่างกับการเคลื่อนไหวการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาอย่างมีเลศนัย
เหตุระเบิดบริเวณหน้าสถานีรถไฟจะนะ
จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมานั้น
เด็กได้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ
นำมาซึ่งความเศร้าสลดหดหู่หัวใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง
รับไม่ได้กับการกระทำเยี่ยงสัตว์ร้ายเมื่อมีเด็กอายุ 4 ขวบ ต้องมาจบชีวิตอย่างไม่น่าให้อภัย
อีกทั้งเจ้าหน้าตำรวจยศร้อยตำรวจเอกเสียชีวิต 1 นาย มีประชาชนได้รับบาดเจ็บรวม 15
ราย และเมื่อวันที่ 1 9 เมษายน ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกระลอกหนึ่งหน้าร้านขายของชำหลังสถานีรถไฟบ้านตาแปด
อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บ 15 ราย และหนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 11
ขวบได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครพึงปรารถนา
แต่จากพฤติกรรมของกลุ่ม ผกร.ที่ผ่านมาไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
โดยเฉพาะต่อเด็ก การก่อเหตุมุ่งแต่ผลประโยชน์และสร้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าผู้คนให้กับฝ่ายตน
สร้างผลงานเพื่อเป็นอำนาจต่อรองในการพูดคุยสันติสุข
ไม่เคยมีการออกมากล่าวแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำ
ผลกระทบจากการก่อเหตุที่มีต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะรับได้
โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กทั้งที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ต้องพิการตัดแขนขา กรณีบิดามารดาต้องเสียชีวิต
เด็กต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเป็นภาระต่อสังคม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมธาตุแท้ของโจรใต้ฟาตอนีที่ไม่มีความปราณีและแยกแยะเป้าหมายในการก่อเหตุ
มุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ มุสลิมกันถ้วนหน้า
ที่ผ่านมาอำเภอจะนะ อำเภอเทพา พี่น้องชาวไทยพุทธ และมุสลิม อยู่อาศัยร่วมกันอย่างปกติสุข
อยู่อย่างพหุวัฒนธรรม เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นบ้างประปรายแต่ไม่รุนแรงเหมือนในครั้งนี้
ความเชื่อมโยงเหตุการณ์ลอบระเบิดหน้าสถานีรถไฟจะนะ..สู่ร้นขายของชำหลังสถานีรถไฟบ้านตาแปด
อำเภอเทพา จะเป็นการก่อเหตุของกลุ่มโจรใต้กลุ่มเดียวกันหรือไม่?
คงต้องรอคอยการกระชากหน้ากากของกลุ่มโจรชั่วออกมาเปิดเผยให้สังคมร่วมกันประณาม
และล่าสุดเมื่อวันที่
22 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย
ได้สนธิกำลังเพื่อติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมายผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุลอบวางระเบิดหน้าสถานีรถไฟจะนะ
ซึ่งก่อนหน้านี้มีความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายมาตามลำดับ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ
ของเจ้าหน้าที่ได้มีกาขอความร่วมมือประชาชน ในการแจ้งข้อมูลและเบาะแสของคนร้ายที่มีลักษณะตรงกับภาพกล้องวงจรปิด
และในส่วนการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อนำตัวมาลงโทษดำเนินคดีตามสั่งการของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค
4
จากผลการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่
3 ฝ่ายได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น บ้านไม่มีเลขที่ ม.3 บ.ท่าล้อ ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา
สามารถควบคุมตัวบุคคลเป้าหมาย จำนวน 2 ราย
ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุลอบวางระเบิดจนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินและเป็นประเด็นข่าวสารที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ
ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองมีหมายจับ ป.วิอาญา โดย นายอิบรอเฮม สุไหงบารู มีหมายจับ ป.วิอาญา
3 หมาย และนายอารง มีหมายจับ ป.วิอาญา 4 หมาย รวมถึงเป็น 1 ใน 7 เป้าหมายหลักที่ทำการเคลื่อนไหวก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา
จากการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งสองคนยังพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและสมาชิกปฏิบัติการ
ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น นายอิบรอเฮม และนายอารง ได้สารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหน้าสถานีรถไฟจะนะจริง..และนี่คือการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
เพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษดำเนินคดี..และคอยติดตามจุดจบของโจรใต้ทั้งสองรายจะได้รับโทษทัณฑ์กับกรรมที่ตัวเองได้ก่อจะสาสมกับคำประณามก่นด่าของประชาชนเพียงใด.
------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น