11/10/2560

เบื้องลึกก่อนตายโจรใต้… เจ้าหน้าที่ ผู้นำศาสนาและพ่อแม่ร่วมเกลี้ยกล่อมแต่ไร้ผล

"แบดิง โกตาบารู"

ข้อมูลเชิงลึกซึ่งได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งร่วมปฏิบัติการในวันดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนที่ 2 โจรใต้จะใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ นำไปสู่การปะทะและเป็นเหตุให้เสียชีวิต ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ ผู้นำศาสนาและพ่อแม่ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดได้ร่วมกันเกลี้ยกล่อมให้ทำการมอบตัวถึง 6 ครั้งแต่ไม่ยินยอม ในที่สุดนำมาซึ่งความสูญเสียที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น

จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 เหตุเจ้าหน้าที่ปะทะกับโจรใต้ที่มาหลบซ่อนตัว   ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านเจาะโบ ม.1 ต.แป้น อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายอยู่นั้น ทราบจากเจ้าของบ้านว่ามีผู้ต้องสงสัยอยู่ในบ้าน จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจา ซึ่งมีผู้นำศาสนาร่วมกันเกลี่ยกล่อมเพื่อให้เข้ามอบตัวนานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ผู้ต้องสงสัยกลับใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกันขึ้น ในที่สุดนำมาซึ่งความโศกเศร้าที่ทุกคนเสียใจไม่อยากให้เกิดขึ้น คนร้ายเสียชีวิตทั้งคู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายอาลียะ อาหะแม  และ นายกาดาฟี ตามะแซ จากข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับการเปิดเผยทราบว่าบุคคลทั้ง 2 ราย ได้กระทำความผิด ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้ใช้แนวทางสันติวิธีร่วมกับผู้นำศาสนา และพ่อแม่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวต่อทางการถึง 6 ครั้งด้วยกันแต่ไม่ยินยอม



พฤติกรรม นายอาลียะ ดาหะแม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 1 ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เป็นบุคคลตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ 38/60 ลง 10 มีนาคม 2560 ต้องสงสัยก่อเหตุยิง อส.ทพ.อภิสิทธิ์ มุกดาห์ เสียชีวิต เหตุเกิดพื้นที่      ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 , ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ในโรงเรียน เมื่อ 28 เมษายน 2559, ยิง อส.ทพ.เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2559 และทำการลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ อส. เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ส่วนพฤติกรรม นายกาดาฟี ซามะแซ อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 4 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ที่    จ.256/60 ลง 20 เมษายน 2560 และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก พร้อมซองกระสุน และกระสุนจำนวนหนึ่ง สำหรับกรณีการเสียชีวิตของบุคคลทั้ง 2 สื่อแนวร่วมได้ทำการโฆษณาชวนเชื่อกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉากของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตุจากภาพแม็กในตัวปืนแยกออกจากกัน ในความเป็นจริงแล้วเป็นขั้นตอนการตรวจสอบอาวุธ โดยเจ้าหน้าที่ทำการถอดแม็กออกจากปืนเพื่อความปลอดภัย และได้นำมาวางไว้เพื่อสะดวกในการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และในที่เกิดเหตุโดยทั่วไป ไม่มีใครรู้หรอกว่าแม็กเป็นของอาวุธปืนกระบอกไหนเมื่อทำการถอด แต่ตามหลักสากลทั่วโลกสามารถใช้ร่วมกันอยู่แล้ว หากมองหลักความจริงคงไม่มีแค่กระสุน 2 แม็กหรอก จะต้องมีกระสุนและแม็กสำรองติดตัวไปด้วยเสมอ


เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และอยู่ในกรอบของอำนาจที่กฎหมายมอบให้เพื่อการปฏิบัติงานในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิด มีการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงหาทางออกของความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติวิธี เจ้าหน้าที่ให้โอกาสกับผู้ที่หลงผิดกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี จะเห็นได้ว่ามีการกระทำทุกวิถีทางเพื่อลดการปะทะซึ่งนำไปสู่การสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการเกลี้ยกล่อมโดยให้ผู้นำศาสนาในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของผู้ที่กระทำความผิดเองมาทำการเกลี้ยกล่อมถึง 6 ครั้ง ด้วยกัน แต่ผู้กระทำความผิดกลับไม่เลือกและไม่สำนึก สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิด ก็เกิดขึ้นจนได้ แล้วใคร? คือคนที่ทำให้เขาตาย!! เจ้าหน้าที่หรอกหรือที่ยัดเยียดความตายให้... เขาต่างหากที่เลือกความตายให้ตัวเอง โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังความตายคือแกนนำโจรใต้ เพราะสุดท้ายแล้วโจรใต้ทุกคนถูกกำหนดให้ตายหรือไม่ก็ติดคุก จะต้องหมดสิ้นอิสรภาพไม่สามารถหนีรอดเงื้อมมือของกฎหมายพ้น... ส่วนผู้ที่กำลังหลบหนีหากไม่คิดมอบตัว ก็ต้องอยู่ในสภาพอดๆ อยากๆ อดมือกินมื้อ เจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีแม้หยูกยารักษา ไม่มีโอกาสอยู่ร่วมกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขดั่งเช่นครอบครัวคนอื่นเขา... จงเลือกเอา

---------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น