11/09/2560

สื่อโซเชียลดราม่าหนัก.. เมื่อ 3 นักสิทธิร้องถูกข่มขู่คุกคาม และขู่ฆ่า

"แบดิง โกตาบารู"

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวอิศราได้ทำการเผยแพร่สกู๊ปข่าวเรื่อง ยูเอ็นจี้ไทยสอบ “ไอโอสีดำ” คุกคาม “อังคณานักสิทธิมนุษยชน” ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีแนวร่วมโจรใต้ได้ขยายผลต่อในสื่อสังคมออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง เมื่ออ่านเนื้อหาใจความในสกู๊ปข่าวพอจับประเด็นใจความสำคัญมีการกล่าวอ้างว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ทำหนังสือถึง อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อสอบถามข้อมูลการถูกข่มขู่คุกคาม และขู่ฆ่า รวมไปถึง กรณีของ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย)ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและอัญชนา หีมมิหน๊ะ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มด้วยใจ ซึ่งมีข้อมูล ถูกข่มขู่ คุกคาม และขู่ฆ่าด้วยเช่นกัน
          สำนักข่าวอิศรายังกล่าวด้วยว่า “การใส่ร้ายและบิดเบือนข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์   เพื่อลดความน่าเชื่อถือ หรืออาจถึงขั้นบ่อนทำลายการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนไทยหลายคน กลายเป็นประเด็นระดับสากล โดยคณะผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น สอบถามเรื่องดังกล่าวมายังรัฐบาลไทย ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง” สำนักข่าวอิศรามีการตั้งข้อสังเกตุว่าข้อมูลเท็จที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ บางส่วนมาจากเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยที่ใช้ “ปฏิบัติการข่าวสาร” เพื่อสร้างความเกลียดชังกับอีกฝ่าย    เรียกกันว่า Black IO หรือ Dirty IO หากจับประเด็นว่า “สำนักข่าวอิศรา” ต้องการที่จะสื่ออะไร!! เมื่อวิเคราะห์ถึงเจตนาการเขียนสกู๊ปข่าวเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ความมุ่งหมายเพื่อต้องการสื่อให้สังคมเห็นว่านักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยถูกรัฐรังแก และมีการข่มขู่คุกคาม และขู่ฆ่า แต่เมื่อเจตนาของ “สำนักข่าวอิศรา” ที่ต้องการให้ประชาชนเห็นใจนักสิทธิมนุษยชนทั้ง 3 คนนั้นไม่เป็นผล กระแสตีกลับนอกจากไม่เป็นไปตามเจตนาที่ต้องการแล้ว กลับเป็นการซ้ำเติมสร้างความเกลียดชัง 3 นักสิทธิมนุษยชนหนักเข้าไปอีกเมื่อสื่อสังคมออนไลน์กลุ่มแนวร่วมนำสกู๊ปข่าวดังกล่าวไปทำการเผยแพร่เพื่อขยายผลการรับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เพจ:เสียงจากแผ่นดินแม่  มีกระแส ดราม่าเกิดขึ้นอย่างหนัก เกิดปรากฏการณ์กระแสโจมตีต่อนักสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เพราะอะไร? ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จึงไม่เห็นด้วยและมีการแสดงออกที่บ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจ แทนที่จะเห็นใจและปกป้อง 3 นักสิทธิฯ ที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกข่มขู่คุกคามหมายเอาชีวิต..
หากใครติดตามข่าวสารและรับรู้เรื่องราวการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนชายแดนใต้ ก็คงจะร้องอ๋อ!! อย่างนี้นี่เอง หากนักสิทธิฯ เหล่านี้ทำงานอย่างเที่ยงตรงไม่เอนเอียงก็คงไม่เจอปรากฏการณ์แบบนี้ หากทำงานอย่างตรงไปตรงมาทำหน้าที่ของนักสิทธิฯ ที่อุทิศชีวิตในการทำงานเพื่อสังคมและส่วนรวม แต่นี่ไม่ใช่!! เพราะ.....พฤติกรรมที่ผ่านมาได้แสดงธาตุแท้ให้สาธารณชนได้เห็นแล้วว่าคุณทำงานกันแบบไหน? ทำงานเพื่อใคร? เวลาเจ้าหน้าที่จับกุมโจรใต้ก็จะออกมาดิ้นเป็นดิ้นตาย เวลาโจรใต้ฆ่าผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตกลับนิ่งดูดาย... ไม่เคยเคลื่อนไหวใดๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อสังคมและส่วนรวม มีสักครั้งมั๊ย!! ที่ประชาชนชื่นใจต่อการทำหน้าที่อันทรงเกียรติของคุณ บทเรียนในครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งที่นักสิทธิฯ ทั้งหลายต้องกลับไปคิดทบทวนบทบาทของตนเอง เพราะนี่คือเสียงสะท้อนจากประชาชนต่อสิ่งที่พวกคุณได้ก่อขึ้น และคงไม่มีใครข่มขู่ คุกคามเอาชีวิตของพวกคุณหรอก.. มีแต่พวกคุณที่มโนไปเองแล้วสร้าง Story ไปฟ้องยูเอ็น.. และเรียกร้องให้คนอื่นเห็นใจ.. งามหน้ามั๊ยล่ะ!!
เสียงสะท้อนจากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์
ต่อพฤติกรรมนักสิทธิแห่งปี
 







 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น