"แบดิง
โกตาบารู"
“ทีมงูเต๊ะ”
ซึ่งเป็นภาษามลายูหากแปลความหมายคือ “ทีมเก็บกวาดล้างหรือทีมล่าสังหาร”
ใครก็ตามที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์จะรู้ถึงพฤติกรรมของสื่อแนวร่วมโจรใต้กับการโฆษณาชวนเชื่อด้วยการชี้นำว่า
“ทีมงูเต๊ะ” คือ
“ทีมล่าสังหารของเจ้าหน้าที่” ซึ่งสื่อแนวร่วมเหล่านี้พยายามสื่อให้เห็นว่าทีมล่าสังหารของเจ้าหน้าที่ตามเก็บหมายเอาชีวิตพี่น้องมลายูปาตานี
ซึ่งมีอยู่บ่อยครั้งที่มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนใช้ชีวิตประจำวันด้วยความระมัดระวังจากการลอบทำร้ายจากทีมงูเต๊ะ
นั่นคือความพยายามของสื่อแนวร่วมโจรใต้ที่กระทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความหวาดระแวง
ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ หากจะกล่าวถึงวิวัฒนาการของ ผกร. หลายท่านอาจจะนึกภาพ RKK
ที่มีการฝึกการใช้อาวุธ ฝึกการประกอบระเบิด มีการซูมเปาะห์ (สาบานตน)
จนกระทั่งมีการทดสอบกำลังใจผู้ที่ฝึกจบใหม่ๆ
ให้ทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์จนเป็นที่ยอมรับจากแกนนำ
ส่งลงพื้นที่ปฏิบัติการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลอบระเบิด เผาสถานที่ราชการ
ทำลายสาธารณูปโภค ไฟฟ้า โทรศัพท์
สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง แต่ในขณะที่ RKK
เหล่านี้จะมุ่งเป้าโจมตีก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่
ต่อคนหมู่มากแล้ว ยังมีการปฏิบัติการ “ทีมงูเต๊ะ”ขึ้นมาเพื่อตามเก็บ
กวาดล้างในรายเล็กๆ ซึ่งเป็นผู้ที่หันหลังให้กับขบวนการ
หรือแม้กระทั่งรับจ้างเป็นมือปืนให้กับกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่
ขบวนการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน จากความขัดแย้ง ในเรื่องธุรกิจมืด
นอกจากนี้ยังพัวพันไปถึงความขัดแย้งในเรื่องการเมืองท้องถิ่น
และยังตามเก็บฝ่ายเดียวกันเองซึ่งเป็นผู้ที่มีหมายจับในคดีความมั่นคง หมาย
ป.วิอาญา และหมาย พรก. ซึ่งแน่นอนว่าหากบุคคลกลุ่มนี้เสียชีวิตเมื่อไหร่
สื่อแนวร่วมขบวนการจะทำการชี้นำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่ตามเก็บบุคคลที่มีหมายติดตัวเหล่านี้
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นเพียงแผนการชั่วของกลุ่มขบวนการที่ได้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนไว้แล้ว
หากมองในเรื่องของการสร้าง “วาทกรรม” ขึ้นมาของกลุ่มขบวนการเพื่อต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเจ้าหน้าที่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เนื่องจากมีการใช้บ่อยและมักได้ผลทุกครั้ง
แต่สิ่งหนึ่งที่กลุ่มขบวนการโจรใต้ใช้วิธีดังกล่าวเนื่องจากในปัจจุบันจากการรุกทางการเมืองของหน่วยงานภาครัฐ
มีการส่งเสริมเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญการค้าการลงทุน
พัฒนาแหล่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้อยู่ดีกินดีมีงานทำ
จากความพยายามของหน่วยงานภาครัฐที่ได้ทุ่มงบประมาณลงมาและการติดตามโครงการต่างๆ
ในพื้นที่ มาวันนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในการสร้างฝันให้เป็นจริง
ได้ใจประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ผลที่ตามมาเกิดความร่วมมือจากประชาชนรอบด้านที่มีให้หน่วยงานภาครัฐ
จากปรากฎการณ์ดังกล่าว
กลุ่ม ผกร. กลัวเสียมวลชนให้กับหน่วยงานภาครัฐ จึงได้จัดตั้ง “ทีมงูเต๊ะ”
ขึ้นมาเพื่อลงมือปฏิบัติการแล้วใส่ร้ายเจ้าหน้าที่เป็นการโดยเฉพาะ
เพื่อแย่งชิงมวลชนกลับคืนมา โดยไม่แยแสต่อความรู้สึกของประชาชน
ยัดเยียดความชั่วร้ายให้กับประชาชนบริสุทธิ์ ผู้ที่มีหมายคดีความมั่นคงติดตัว
สมาชิกที่หันหลังให้กับกลุ่มขบวนการ กลุ่มธรกิจมืด
หรือแม้กระทั่งผู้นำศาสนาที่เดินทางสายกลาง ก็จะถูก “ทีมงูเต๊ะ”
ตามเก็บ ผลลัพธ์ที่กลุ่มโจรใต้ได้รับจากการใช้ “ทีมงูเต๊ะ”
ปฏิบัติการเงียบเปรียบเสมือน “ยิงปืนครั้งเดียวได้นกถึงสองตัว”
นกตัวแรกคือกำจัดเสี้ยนหนามของกลุ่มขบวนการ
รับจ้างตามเก็บกลุ่มผลประโยชน์ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
และนกตัวที่สองคือโยนความผิดที่กลุ่มโจรใต้ก่อขึ้นเหล่านั้นว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่
หากจะกล่าวถึงวิวัฒนาการความชั่วร้าย สุดโต่ง ของกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่มีการตั้ง “ทีมงูเต๊ะ”
ขึ้นมา แท้จริงแล้วเพื่อรักษาผลประโยชน์ของขบวนการ
และต้องการทำลายความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่
อีกทั้งเพื่อความอยู่รอดของสมาชิกที่ขาดการเหลียวแลจากแกนนำ ต้องอยู่อย่างอดๆ
อยากๆ ต้องรับจ้างฆ่าคนด้วยการล่าสังหารตามใบสั่ง
ซึ่งมาจากความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจเถื่อน ความขัดแย้งส่วนตัว
ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่านักรบ RKK ที่ยิ่งใหญ่
ได้รับการยกย่องจากแกนนำในวันนั้น มาวันนี้กลับเป็น “ทีมงูเต๊ะ”
ที่รับจ้างฆ่าคนแลกกับเศษเงินเพื่อความอยู่รอด หมดสิ้นอุดมการณ์
ที่เคยมี... นี่หรือ!! นักรบฟาตอนี เห็นแล้ว.. ช่างอนาถใจแท้
-----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น