กรณีกลางดึกของวันที่ 26 ธันวาคม
2561 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา
ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.สงขลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือกทอง
และรูปปั้นหนูกับแมว ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร และเป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแหลมสมิหลารายละเอียดตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนทุกแขนงที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว
หากวิเคราะห์เจตนาของคนร้ายในการก่อเหตุระเบิดดังกล่าว
ต้องการกระทำต่อเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์โดยไม่หวังผลต่อชีวิต เพื่อเรียกราคาให้ BRN ในเวทีการพูดคุยกับรัฐบาลไทย
อีกทั้งยังต้องการแสดงศักยภาพในการใช้กำลังความมีตัวตนของขบวนการ ที่สำคัญหวังผลทำลายเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวและ
บรรยากาศปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง
ในรูปของคดีเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบจากพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ
อีกทั้งยังมีการสืบสวนข้อมูลเชิงลึก พบข้อมูลว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านควนหรันและอำเภอหนองจิกเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว
ส่วนการตรวจสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นระบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกาข้อมือ
Casio มีรายละเอียดเฉพาะที่สอดคล้องกับรูปแบบที่เคยใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะพื้นที่
จ.ปัตตานี
การก่อเหตุในครั้งนี้ยังแอบแฝงการเชื่อมโยงกับพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหะยีสุหลง
พร้อมกับนายอาหมัด โต๊ะมีนา บุตรชายคนโตวัย 15 ปี และพวกอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน ก่อนที่ทั้งหมดจะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
บริเวณเกาะหนู เกาะแมว ตามความเชื่อของกลุ่มมวลชน ผกร. อาจเป็นสาเหตุว่า BRN ถึงได้ทำการก่อเหตุลอบวางระเบิดรูปปั้นนางเงือกทอง
และรูปปั้นหนูกับแมวให้ได้รับความเสียหายโดยไม่หวังผลต่อชีวิต เพื่อสร้างให้มวลชนได้ระลึกถึงอุดมการณ์ของหะยีสุหลงในอดีต
การกระทำของ BRN ในการลอบวางระเบิดในครั้งนี้ BRN
หวังผลทำลายแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความหวาดกลัว และทำลายบรรยากาศการเฉลิมฉลองในห้วงปีใหม่
หลายครั้งในการก่อเหตุที่ผ่านมาไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีความสุข
ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จชต. และ
อ.หาดใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนบริสุทธิ์ ไทยพุทธ-มุสลิม, เด็ก-สตรี
บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
จังหวัดสงขลาเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมสันติสุข
มีประวัติศาสตร์การอยู่ร่วมกันของพี่น้องไทยพุทธ-มุสลิมที่สวยงามมาช้านาน ซึ่งความหลากหลายด้านเชื้อชาติศาสนาดังกล่าวมิได้เป็นอุปสรรคหรือปัญหาของการอยู่ร่วมกันแต่อย่างใดต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
มีแต่ความรักสมัครสมานสามัคคีคอยช่วยเหลือเจือจุนกันภายใต้ความแตกต่าง โดยเฉพาะหาดสมิหลาแล้วถือได้ว่าเป็นชายหาดแห่งพหุวัฒนธรรม
และเป็นแหล่งทำกินที่สุจริตของพี่น้องไทยพุทธมุสลิม แต่ BRN ที่เป็นแกนของกลุ่มแนวคิดรุนแรง พยายามแบ่งแยกสังคม
ศาสนา และทำลายระบบเศรษฐกิจร่วมกันของคนพุทธ-มุสลิมในพื้นที่ดั้งเดิม
อยากเรียกร้องไปยังสังคม
คนไทยที่รักชาติไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน สัญชาติใด ร่วมกันเรียกร้องความรับผิดชอบจากการกระทำดังกล่าวของ
BRN ไปยังตัวแทนการพูดคุยฯ
ฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ และที่สำคัญผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขในฐานะคนกลางช่วยกันกดดัน
BRN หยุดพฤติกรรมป่าเถื่อน
หยุดกระทำความรุนแรงต่อผืนแผ่นดินไทยเสียที สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมุ่งหวังเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย
สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายต่อแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว และยังทำลายบรรยากาศในการท่องเที่ยวห้วงเทศกาลปีใหม่ใกล้มาถึง
ทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันประณามการกระทำที่สุดโต่ง
ไร้ซึ่งมนุษยธรรม จึงสมควรต้องได้รับการประณามจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง….ต่อไป