9/17/2562

โจรใต้ใช้โรงเรียนสอนศาสนาเป็นที่หลบซ่อนตัว



          โรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา กลับมาอื้อฉาวอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตกเป็นข่าวมีการทุจริต เบิกเงินรายหัวนักเรียนซ้ำซ้อน อมเงินค่าตอบแทนครู เมื่อทำการสาวลึกพบมีความเชื่อมโยงกับขบวนการโจรใต้สนับสนุนในการก่อเหตุ จนกระทั่งมีการปูพรหมตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาทั้งระบบพบมีความผิดเข้าข่ายทุจริตหลายร้อยโรง

          กรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากการควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในชายแดนใต้ และได้ให้การซัดทอดว่าใช้โรงเรียนสอนศาสนาดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อนตัวในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา

          โจรใต้ที่ถูกควบคุมตัวได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่าเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาข่าวจนกระทั่งพบเป้าหมายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ 9154 สงขลา ขับมาบนถนนสายเอเชีย และขับไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา จึง เข้าตรวจค้น แต่คนในรถยนต์ จำนวน 4 คน ไหวตัววิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จับกุมได้ 2 คน

          สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมทราบชื่อคือ นายเดะแว อาแว เป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงสำนักสงฆ์ชะเมา อ.โคกโพธิ์ จ.เทพา และนายสาการียา อาแวลาเตะ มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดก่อวินาศกรรมเสาไฟฟ้าใน อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อปลายปี 2561

          สำหรับผู้ที่วิ่งหนีการจับกุมคือ นายอับดุลเลาะ บาเฮง และ นายฮาฟิส โต๊ะแวมะ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า บุคคลทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการของกลุ่มอาร์เคเค มีหมายจับ พ.ร.ก.ติดตัวอยู่หลายหมายด้วยกัน

          จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ พบกระสุนปืนขนาด .5.56 มม.จำนวน 90 นัด อุปกรณ์ที่ใช้ดำรงชีพในป่า เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ รวม 44 รายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของอุปกรณ์ทั้งหมดภายในรถยนต์ และอ้างว่าเป็นของเพื่อนทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป

          เป็นไปตามคาดคราวใดที่โจรใต้เหล่านี้ถูกจับกุมจะปฏิเสธ ไม่เคยก่อเหตุ ไม่เคยยิง เป็นแค่คนดูต้นทาง ผู้ชี้เป้า เช่นเดียวกับหลักฐานภายในรถอ้างเป็นของผู้ที่หลบหนี จากการสอบสวนผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ราย ให้การตรงกันว่า พวกตนทั้ง 4 คน ได้อาศัยอยู่ในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว

          ต่อมาเมื่อ เวลา 21.00 น. ตามหมายค้นของศาลจังหวัดนาทวี เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายเดะแว อาแว และ นายซาการียา  อาแวปูเต๊ะ เข้าชี้ห้องพักในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิสงขลา ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งใช้เป็นที่หลบซ่อนพักพิง ทำการเก็บดีเอ็นเอและหลักฐานอื่นๆ เพื่อสืบสวนสอบสวนถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป

          ในส่วนของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งเป็นผู้ให้ที่พักพิง ในเบื้องต้น ยังไม่ได้แจ้งข้อหาการให้ที่พักพิงแต่อย่างใด ซึ่งหากการสอบสวนพบรู้เห็นกับการใช้โรงเรียนเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของโจรใต้ซึ่งมีหมาย ป.วิอาญา เป็นผู้ให้การสนับสนุน ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะได้รับโทษในฐานให้ที่พักพิง ซึ่งได้กำหนดอัตราโทษสูงสุดให้จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาทแล้ว ยังอาจได้รับโทษฐานมีส่วนร่วมหรือการสนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งมีโทษที่สูงขึ้นอีกด้วย

          การใช้โรงเรียนสอนศาสนาเป็นที่หลบซ่อนตัว ซุกซ่อนอาวุธ หรือแม้กระทั่งผลิตระเบิดมีข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนกลุ่มโจรใต้ 4 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ 3-4 เดือน เป็นไปได้อย่างไร? คณะผู้บริหารไม่เคยระแคะระคายบ้างหรือ? ที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัย

          การเข้าทำการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา หรือปอเนาะ มีกลุ่ม NGOs และกลุ่มนักศึกษาเคลื่อนไหวกล่าวหาเจ้าหน้าที่ละเมิดคุกคามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ รังแกผู้นับถือศาสนาอิสลามและเป็นการสร้างเงื่อนไข เช่นการปิดล้อมตรวจค้นสถานศึกษาปอเนาะมัดรอลาดุลฟาละห์ ม.4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี ควบคุมตัว 13 ราย จัดเก็บ DNA ลายนิ้วมือ 25 ราย

          ซึ่งหลายเหตุการณ์กลุ่มโจรใต้ที่หลบซ่อนตัวในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนามีการซ่องสุมกำลังวางแผนเตรียมก่อเหตุ หรือแม้กระทั่งก่อเหตุเสร็จกบดานในโรงเรียนเนื่องจากปลอดภัยเจ้าหน้าที่ไม่กล้าติดตาม เนื่องจากมีเกราะจากของบุคคลบางกลุ่มคอยคุ้มกัน

          คงตอบคำถาม NGOs บางกลุ่มเหตุผลทำไม? เจ้าหน้าที่ทหารต้องเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นปอเนาะหลายแห่งที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมตรวจค้นสถาบันปอเนาะแห่งหนึ่งใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กระทั่งสามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนและของกลางจำนวนมากในปี 58, การปิดล้อมมูลนิธิสมบูรณ์ศาสน์ (ปอเนาะดาลอ) ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.มะนังหยง อ.ยะหริ่ง หลังจากสืบทราบว่ามีคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนตัวภายในปอเนาะเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่เกิดการปะทะใต้เสียชีวิต 1 ราย จับเป็น 3 ราย เมื่อปี 51, เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าติดตามบุคคลเป้าหมายโรงเรียนปอเนาะยุวะอิสลามวิทยามูลนิธิ อ.มายอ จ.ปัตตานี เกิดการยิงปะทะเป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญ 2 คน จับกุมได้ 5 คน เมื่อปี 61
----------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น