โรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา กลับมาอื้อฉาวอีกครั้ง
หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตกเป็นข่าวมีการทุจริต เบิกเงินรายหัวนักเรียนซ้ำซ้อน
อมเงินค่าตอบแทนครู เมื่อทำการสาวลึกพบมีความเชื่อมโยงกับขบวนการโจรใต้สนับสนุนในการก่อเหตุ
จนกระทั่งมีการปูพรหมตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาทั้งระบบพบมีความผิดเข้าข่ายทุจริตหลายร้อยโรง
กรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในพื้นที่
อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากการควบคุมตัว 2
ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในชายแดนใต้ และได้ให้การซัดทอดว่าใช้โรงเรียนสอนศาสนาดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อนตัวในช่วง
3-4 เดือนที่ผ่านมา
โจรใต้ที่ถูกควบคุมตัวได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่าเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่
อ.จะนะ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาข่าวจนกระทั่งพบเป้าหมายใช้รถยนต์ฮอนด้า
ซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ 9154 สงขลา ขับมาบนถนนสายเอเชีย
และขับไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา จึง เข้าตรวจค้น
แต่คนในรถยนต์ จำนวน 4 คน ไหวตัววิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จับกุมได้ 2 คน
สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมทราบชื่อคือ
นายเดะแว อาแว เป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงสำนักสงฆ์ชะเมา
อ.โคกโพธิ์ จ.เทพา และนายสาการียา อาแวลาเตะ
มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดก่อวินาศกรรมเสาไฟฟ้าใน อ.ควนเนียง
อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อปลายปี 2561
สำหรับผู้ที่วิ่งหนีการจับกุมคือ
นายอับดุลเลาะ บาเฮง และ นายฮาฟิส โต๊ะแวมะ
ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ ในพื้นที่หรือไม่
ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า บุคคลทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป
เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการของกลุ่มอาร์เคเค มีหมายจับ
พ.ร.ก.ติดตัวอยู่หลายหมายด้วยกัน
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ
พบกระสุนปืนขนาด .5.56 มม.จำนวน 90 นัด อุปกรณ์ที่ใช้ดำรงชีพในป่า เสื้อผ้า
โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ รวม 44 รายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
โดยผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของอุปกรณ์ทั้งหมดภายในรถยนต์
และอ้างว่าเป็นของเพื่อนทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป
เป็นไปตามคาดคราวใดที่โจรใต้เหล่านี้ถูกจับกุมจะปฏิเสธ
ไม่เคยก่อเหตุ ไม่เคยยิง เป็นแค่คนดูต้นทาง ผู้ชี้เป้า
เช่นเดียวกับหลักฐานภายในรถอ้างเป็นของผู้ที่หลบหนี จากการสอบสวนผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง
2 ราย ให้การตรงกันว่า พวกตนทั้ง 4 คน ได้อาศัยอยู่ในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.จะนะ
จ.สงขลา เป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว
ต่อมาเมื่อ เวลา 21.00 น.
ตามหมายค้นของศาลจังหวัดนาทวี เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายเดะแว อาแว และ
นายซาการียา อาแวปูเต๊ะ เข้าชี้ห้องพักในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิสงขลา
ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งใช้เป็นที่หลบซ่อนพักพิง ทำการเก็บดีเอ็นเอและหลักฐานอื่นๆ
เพื่อสืบสวนสอบสวนถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ
ซึ่งเป็นผู้ให้ที่พักพิง ในเบื้องต้น ยังไม่ได้แจ้งข้อหาการให้ที่พักพิงแต่อย่างใด
ซึ่งหากการสอบสวนพบรู้เห็นกับการใช้โรงเรียนเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของโจรใต้ซึ่งมีหมาย
ป.วิอาญา เป็นผู้ให้การสนับสนุน ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ซึ่งนอกจากจะได้รับโทษในฐานให้ที่พักพิง ซึ่งได้กำหนดอัตราโทษสูงสุดให้จำคุกไม่เกิน
2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาทแล้ว
ยังอาจได้รับโทษฐานมีส่วนร่วมหรือการสนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งมีโทษที่สูงขึ้นอีกด้วย
การใช้โรงเรียนสอนศาสนาเป็นที่หลบซ่อนตัว
ซุกซ่อนอาวุธ หรือแม้กระทั่งผลิตระเบิดมีข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนกลุ่มโจรใต้ 4 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ
3-4 เดือน เป็นไปได้อย่างไร? คณะผู้บริหารไม่เคยระแคะระคายบ้างหรือ?
ที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัย
การเข้าทำการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
หรือปอเนาะ มีกลุ่ม NGOs และกลุ่มนักศึกษาเคลื่อนไหวกล่าวหาเจ้าหน้าที่ละเมิดคุกคามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ รังแกผู้นับถือศาสนาอิสลามและเป็นการสร้างเงื่อนไข เช่นการปิดล้อมตรวจค้นสถานศึกษาปอเนาะมัดรอลาดุลฟาละห์
ม.4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี ควบคุมตัว 13 ราย จัดเก็บ DNA ลายนิ้วมือ
25 ราย
ซึ่งหลายเหตุการณ์กลุ่มโจรใต้ที่หลบซ่อนตัวในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนามีการซ่องสุมกำลังวางแผนเตรียมก่อเหตุ
หรือแม้กระทั่งก่อเหตุเสร็จกบดานในโรงเรียนเนื่องจากปลอดภัยเจ้าหน้าที่ไม่กล้าติดตาม
เนื่องจากมีเกราะจากของบุคคลบางกลุ่มคอยคุ้มกัน
คงตอบคำถาม NGOs บางกลุ่มเหตุผลทำไม?
เจ้าหน้าที่ทหารต้องเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นปอเนาะหลายแห่งที่ผ่านๆ มา
ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมตรวจค้นสถาบันปอเนาะแห่งหนึ่งใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
กระทั่งสามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนและของกลางจำนวนมากในปี
58, การปิดล้อมมูลนิธิสมบูรณ์ศาสน์ (ปอเนาะดาลอ) ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.มะนังหยง
อ.ยะหริ่ง
หลังจากสืบทราบว่ามีคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนตัวภายในปอเนาะเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่เกิดการปะทะใต้เสียชีวิต
1 ราย จับเป็น 3 ราย เมื่อปี 51, เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าติดตามบุคคลเป้าหมายโรงเรียนปอเนาะยุวะอิสลามวิทยามูลนิธิ
อ.มายอ จ.ปัตตานี เกิดการยิงปะทะเป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญ 2 คน จับกุมได้ 5 คน
เมื่อปี 61
----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น