ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย
ที่ปรากฏชัดเจนมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน มีการลักลอบเผาโรงเรียนของรัฐบาลไปมากกว่า
320 แห่ง เผาบ้านเรือนประชาชนไป
300 กว่าหลังคาเรือน เผาสถานที่ราชการไป
120 กว่าแห่ง ประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนา
ถูกยิงเสียชีวิต 2,945 คน บาดเจ็บ 6,276 คน
นี่ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ตำรวจ ทหาร
ครู อาสาสมัคร และคนร้ายผู้ก่อเหตุฯ ที่เสียชีวิตรวมกันอีกนับพันกว่าคน (ข้อมูลสถิติฯ
จากฝ่ายความมั่นคงฯ ตั้งแต่ มกราคม 2547 ถึง ตุลาคม 2562)
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น
ตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่เคยมีใครออกมาแสดงตัวตนว่าเป็นผู้สั่งการ/ก่อเหตุ
หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว.. ซึ่งฝ่ายรัฐก็พยายามหาทางยุติปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการพูดคุยกับกลุ่มที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่
ซึ่งก็มีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน และกลุ่มที่น่าจะมีบทบาทมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ
กลุ่มบีอาร์เอ็น (Barisan Revolusi Nasional Melayu
Patani :
ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี) ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 13
มีนาคม พ.ศ.2503 โดย อุสตาซ อับดุลการิม ฮัสซัน ในเวลานั้นได้การวางแผนก่อเหตุในวันฮารีรายอ 18 มีนาคม
พ.ศ.2504 แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบล่วงหน้าจึงถูกจับกุม โดย
หะยีอามีน โต๊ะมีนา บุตรชายของหะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ถูกจับกุมด้วย
และถูกจำคุกจนถึง พ.ศ.2508 เมื่อพ้นโทษ หะยีอามีนฯ จึงลี้ภัยไปอยู่มาเลเซียจนเสียชีวิต
เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้
จึงเกิดขึ้นมาต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงปี 47
ที่ปรากฏความรุนแรงชัดเจนดังที่เราท่านทราบกันดี ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยังไม่เคยมีการออกมาแสดงตัวตนว่า
เหตุร้ายความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น กลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นผู้สั่งการให้แนวร่วมเป็นผู้ก่อเหตุฯ
ไม่เคยเลยที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มของตนเองแม้แต่ครั้งเดียว
มาถึงวันนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็น
เดินหมากหวังรุกทางการเมืองเพื่อแสดงตัวตนในเวทีโลก ด้วยการลงนามในคำแถลงฝ่ายเดียว
ว่าด้วยเรื่อง การปกป้องเด็ก จากผลกระทบของการขัดกันทางอาวุธ
(Armed Conflict) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเผยแพร่เอกสารดังกล่าวในเว็บไซต์
theirwords.org โดย Geneva Call ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่เรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธทั่วโลกเคารพในหลักการและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ว่านี้..
ละครฉากนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็นแสดงได้อย่างหน้าไม่อายเลยจริงๆ ที่ผ่านมาทำอะไรไว้บ้าง.. เด็กๆ
ในพื้นที่ชายแดนใต้ต้องรับเคราะห์กรรมไม่มีที่เรียนหนังสือเพราะโรงเรียนถูกเผา เด็กเหล่านี้มีจำนวนเท่าไร.. แล้วการก่อเหตุยิงครูตายไปอีกจำนวนเท่าไรเพราะทำให้เด็กๆ
ไม่มีคุณครูสอนหนังสือ..
และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ กลุ่มบีอาร์เอ็นวางระเบิดและยิงได้แม้กระทั้งเด็กๆ
พ่อแม่เด็กที่ถูกฆ่าตายจนเด็กๆ ต้องเป็นกำพร้า ไร้หลักชีวิตสิ้นอนาคตไปอีกเท่าไหร่..
แล้วอย่างนี้ กลุ่มบีอาร์เอ็น ยังจะมีหน้าไปแสดงละครบนเวทีโลก
เพื่อปกป้องเด็ก อีกกระนั้นหรือ..
เห็นแล้วมันช่างน่ารังเกียจกับพฤติกรรมความชั่วที่ได้สร้างสมมาจริงๆ องค์กรอิสระที่ร่วมลงนามหรือรับรองอะไรก็ตาม ดูเหมือนจะแค่หลับหูหลับตาทำกันไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้มีผลงาน ไม่ได้มีหลักเกณฑ์มีการตรวจสอบคุณสมบัติความเหมาะสมของกลุ่มที่จะไปลงนามอะไรด้วยเลย..
ว่ามีเหตุผลมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใดกับพฤติกรรมความชั่วที่กลุ่มเหล่านั้นได้กระทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไรบ้าง.. ใช่หรือไม่..
หลังจากลงนามแล้วยังไม่ถึงเดือน
กลุ่มบีอาร์เอ็นได้สั่งการให้แนวร่วมปฏิบัติการก่อเหตุลอบวางระเบิด ที่
อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เป็นเหตุให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3
คน แล้วแบบนี้ท่านองค์กรอิสระฯ จะว่ายังไงบ้าง..
กลุ่มบีอาร์เอ็นรู้สึกรู้สาอะไรบ้างหรือไม่ กับละครลวงโลกเพื่อยกระดับปัญหาเพื่อให้กลุ่มตัวเองดูดีมีความสำคัญขึ้นมา..
แต่ในความเป็นจริงแล้ว.. ก็เป็นได้แค่โจรใต้ที่คอยลอบกัด.. มีแต่ความทุเรศที่ชาวบ้านเขาสาปแช่งด่าทออยู่ทุกวัน
กับพฤติกรรมความชั่วที่ทำมายาวนาน.. มาจนถึงทุกวันนี้.. นั่นล่ะ..
------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น