5/21/2563

เทศกาลแห่งความดีงามตามหลักศรัทธา



          ทุกศาสนาในโลกนี้ล้วนสอนให้คนทำความดี บุญกุศลเป็นสิ่งที่ผู้กระทำความดีงามทุกคนจะได้รับตามหลักความเชื่อถือศรัทธาในศาสนา  ตั้งแต่ต้นปี ในเดือนมกราคม มีเทศกาลตรุษจีนของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน โดยก่อนจะถึงตรุษจีนก็จะมีเทศกาลกินเจ เพื่อสร้างความดีด้วยการงดกินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ทุกชนิด ต่อมาในปลายเดือนกุมภาพันธ์ (26 กุมภาพันธ์) มีวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง คือวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ (หัวใจของพระพุทธศาสนา) แก่พระอรหันตสาวกผู้เป็นเอหิภิกขุทั้ง 1,250 รูป ที่มาประชุมพร้อมกันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมาย (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3)

          หลังจากนั้นเกือบเดือน ก็เข้าสู่เทศกาลถือศีลอดในศาสนาอิสลาม  เมื่อสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้วันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563  เป็นวันแรกของเดือนรอมฎอนในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม โดยกิจกรรมหลักของชาวมุสลิมในช่วงเดือนนี้ คือการถือศีลอด งดน้ำและอาหารในเวลากลางวัน และจะละศีลอด รับประทานอาหารเย็นร่วมกันในครอบครัวและหมู่เพื่อนฝูง และรวมตัวกันที่มัสยิดเพื่อสวดมนต์..  แต่สถานการณ์โรค COVID-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวมุสลิมไปทั่วโลก  โดยสำนักจุฬาราชมนตรีได้แถลงฯ ระบุว่า การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการถือศีลอด แต่การถือศีลอดตามวิถีอิสลามจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ปฏิบัติ จึงขอให้ชาวมุสลิมที่ไม่มีอุปสรรคตามที่บทบัญญัติศาสนากำหนด ได้ถือศีลอดอย่างเคร่งครัด โดยมีมารยาทที่ดีงาม มีเจตนาที่บริสุทธิ์ต่ออัลลอฮ์ และแบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้กับเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง และผู้ที่ทุกข์ยาก ตลอดจนต้องมีความอดทนต่อความหิวและกระหาย รวมทั้งไม่สร้างความเดือดร้อนต่อผู้ใด  สำนักจุฬาราชมนตรียังได้เตือนให้ชาวมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจอย่างระมัดระวัง ในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 โดยการปฏิบัติศาสนกิจในบ้านของตนเอง และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน  เช่นเดียวกับชาวมุสลิมส่วนใหญ่ทั่วโลก ที่ต้องปฏิบัติศาสนกิจจากที่บ้าน ไม่มีการละศีลอดในช่วงเย็นร่วมกัน.. “เชื้อไวรัสฯ ทำให้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามถูกทิ้งร้างในช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของปี โดย กะบะห์ แท่นบูชาปักดิ้นทองในมัสยิดอัลฮะรอม ในกรุงเมกกะ ต้องปิดรับผู้มาแสวงบุญ เช่นเดียวกับมัสยิดของศาสดามูฮัมหมัดในเมืองเมดินา และมัสยิดอัล-อักซอ ในกรุงเยรูซาเลม ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของมัสยิดเข้าสวดมนต์เท่านั้น”

          เทศกาลแห่งความดีงามตามหลักศรัทธาในความเชื่อของผู้ที่นับถือยังคงมีอยู่ และดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องตามเวลาแห่งศรัทธา.. วันนี้พี่น้องมุสลิมกำลังสร้างความดีด้วยการถือศีลอด อีกประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ เทศกาลรอมฎอนนี้ก็จะสิ้นสุดลง และมีการเฉลิมฉลองที่ได้สร้างบุญกุศลเสร็จสิ้นตามหลักศาสนา และถือเป็นวันแห่งความสุขอีกวันหนึ่งของพี่น้องมุสลิมในวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ที่เรียกว่า วันฮารีรายอ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของผู้นับถือศาสนาอิสลามอีกด้วย..
          ทุกศาสนาล้วนส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้ประพฤติปฏิบัติตนเพื่อได้รับบุญกุศลความดีงาม แม้ว่าวันนี้จะมีโรคระบาดที่เป็นเหมือนอุปสรรคแห่งการสร้างความดี  แต่ทุกหลักปฏิบัติย่อมมีทางออกเพื่อให้เกิดความดีงามได้เสมอ แค่เพียงทุกคนเปิดใจ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความดีงามตามหลักศรัทธา เพื่อให้ก้าวผ่านวันเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปด้วยกันในเทศกาลแห่งความดีงามตามหลักศรัทธาของทุกคน..

---------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น