สถานการณ์โลกปัจจุบัน
ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่า2019 หรือโควิด-19 ในหลายประเทศยังมีผู้ติดเชื้อและคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
บางประเทศเริ่มมีการระบาดรอบใหม่อีกครั้ง
ในขณะที่ประเทศไทย สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ เพราะความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน
ที่ร่วมด้วยช่วยกันด้วยปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท
จนสามารถฝ่าวิกฤตินี้มาได้เป็นอย่างดีต่อเนื่องจนถึงวันนี้
แต่เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสที่มีคนจุดขึ้น
เพื่อผลประโยชน์หลายด้านด้วยกัน
กระแสที่ว่านั้นก็คือ การเปิดประเด็นว่ามีการอุ้มตัว นายวันเฉลิมฯ ผู้หลบหนีคดีเกี่ยวกับ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งคนทั่วไปแทบไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำว่า
นายวันเฉลิม คนนี้ เป็นใครมาจากไหนและมีความสำคัญอย่างไร
จึงต้องมีการอุ้มตัวกันเกิดขึ้น และที่หน้าแปลกใจมากก็คือ
เหตุการณ์การอุ้มตัวดังกล่าว เกิดขึ้นในประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่อย่างไรก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้
แต่กลับมีการเปิดประเด็นโจมตีกล่าวหาใส่ร้ายประเทศไทยอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
การเปิดประเด็นการอุ้มตัวนายวันเฉลิมฯ ดังกล่าว มีประโยชน์กับกลุ่มไหน
หรือไม่อย่างไรบ้าง..
กลุ่มแรก
ก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มองค์กรที่กำลังเรียกร้องให้เกิดกฎหมายการอุ้มหายและซ้อมทรมาน
“พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับสูญหาย
พ.ศ..” อย่างมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
และดูเหมือนว่าเหตุการณ์และกระแสดังกล่าวจะพอเหมาะพอดี
สอดคล้องต้องกันอย่างน่าสนใจ อีกคำถามต่อมาก็คือ กฎหมายอุ้มหายฯ มีความสำคัญอย่างไร กับกลุ่มองค์กรนี้ กฎหมายพิจารณาความคดีอาญา
ที่มีใช้อยู่ในบ้านเมืองนี้ ยังไม่ครอบคลุมถึงเรื่องเหล่านี้ใช่หรือไม่.. เพราะจริงๆ
แล้ว.. กฎหมายพิจารณาความคดีอาญา ได้มีบทบัญญัติในความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว
ทำร้ายร่างกาย จนถึงการฆ่าผู้อื่น มานานแล้วมิใช่หรือ..
กลุ่มต่อมา น่าจะเป็นกลุ่มสำคัญที่สุดในการจุดประเด็นการอุ้มตัวนายวันเฉลิม เพื่อให้เกิดผลกระทบกับความรู้สึกของผู้คนในสังคม
เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดถูกออกแบบและสร้างเรื่องราวมาจากกลุ่มนี้โดยตรง
เพื่อใช้เครือข่ายต่างๆ ในการขับเคลื่อนโดยมีผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นสำคัญ
และกลุ่มแนวร่วมต่างๆ ก็จะมีผลประโยชน์ของกลุ่มเป็นจุดร่วมในการเคลื่อนไหวอย่างสอดประสานเชื่อมโยงกัน
กลุ่มสุดท้าย
ที่มีการใช้กระแสดังกล่าวในการเคลื่อนไหว
คือกลุ่มแนวร่วมการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีทั้งนักการเมือง และกลุ่มองค์กรต่างๆ
ในพื้นที่
ที่เคลื่อนไหวสอดรับกับทั้งสองกลุ่มที่กล่าวมาแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเชื่อถือและกดดันขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ในทางกลับกันก็ให้การสนับสนุนกลุ่มองค์กรที่ต่อต้านอำนาจรัฐอย่างชัดเจนมาอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ คนไทยร่วมด้วยช่วยกันเพื่อฝ่าวิกฤติเอาชนะโควิด-19
จนได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติ ต่างจากกลุ่มองค์กรเหล่านี้
ที่คอยแต่จะสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม เพื่อหากินบนความเสียหายของบ้านเมือง จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลองค์กรเหล่านี้
(พม.) ด้วยว่า องค์กรที่สร้างความสับสนให้สังคมแบบนี้สมควรที่จะมีอยู่ในประเทศนี้อีกต่อไปหรือไม่
รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง (กห.) ขออย่าได้นิ่งเฉย
ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและความเสียหายที่กลุ่มองค์กรเหล่านี้ได้ทำต่อบ้านเมืองด้วยว่า
มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ประการใดกับพฤติกรรมการทำร้ายบ้านเมืองในลักษณะนี้มาอย่างต่อเนื่อง..
ประเทศไทยให้เสรีภาพแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านเมืองนี้
ทุกคนจึงต้องปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตของสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม
ไม่ใช่อ้างเสรีภาพแล้วสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้ส่วนรวมอยู่ร่ำไป..
-------------------------------------------