ประหาร หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ บทลงโทษจากอัลเลาะห์
หลังคำตัดสินของศาลฏีกาซึ่งพิพากษาให้ประหารชีวิตนายหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ หัวหน้ากลุ่มพูโล นายหะยี บือโต เบตง ประธานพูโลใหม่ และนายหะยี สะเมแอ ท่าน้ำ ส่วนนายอับดุล เราะห์มาน บิน อับดุลการเดร์ รองประธานพูโล พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 50 ปี อิสรภาพและความหวังที่จะได้รับการปล่อยตัวโดยหวังความเมตตาจากศาลของพวกเขาก็จบลงทันที
ว่ากันว่าเงินจำนวนนี้มากมายมหาศาลจนหัวหน้าขบวนการสามารถสร้างคฤหาสถ์หลังงามในสวิตเซอร์แลนด์และสวีเดน เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง ในขณะที่พี่น้องมุสลิมที่ถูกพวกเขานำไปแอบอ้างส่วนใหญ่ยังยากจนและมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำมาก และด้วยกระบวนการสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำที่ได้ผลนี่เอง ที่ทำให้ขบวนการพูโล และขบวนการบีอาร์เอ็นโคออดิเนตซึ่งเป็นอีก หนึ่งองค์กรที่มีอุดมการณ์ไล่ฆ่าคนไม่เลือกหน้าแม้แต่พี่น้องมุสลิมด้วยกันและมีผลประโยชน์ร่วมกันกับพูโล ยังคงมีความเคลื่อนไหว สร้างผลงานให้องค์กรมุสลิมระดับนานาชาติเห็นโดยการก่อความไม่สงบ สร้างความแตกแยกของคนสองศาสนาในพื้นที่ และเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไม่เลือกหน้า โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีต่อไป เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินจากองค์กรเหล่านั้นยังคงอยู่ ซึ่งนานาประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำในลักษณะนี้ต่างรับรู้วิธีการหาเงินอย่างไร้ยางอายของขบวนการเหล่านี้เป็นอย่างดี ซึ่งก็น่าแปลกที่ว่าองค์กรมุสลิมที่อุตส่าห์บริจาคเงินสนับสนุนด้วยใจบริสุทธิ์เพราะต้องการช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมด้วยกัน ช่างไม่รู้เลยหรือว่ากำลังถูกขบวนการชั่วเหล่านี้แหกตาอยู่
การตัดสินให้ประหารชีวิต หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ และพวก ซึ่งศาลฏีกาเมตตาลดโทษจากประหารชีวิตให้เหลือจำคุกตลอดชีวิตในครั้งนี้ ตามหลักสังคมถือว่าเป็นการลงโทษตามมูลเหตุแห่งการกระทำผิด ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาเป็นขั้นเป็นตอน แต่อย่างไรก็ดีดูว่ายังไม่สาสมกับสิ่งที่ได้ทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายลงเป็นจำนวนมาก เวลาตลอดชีวิตในคุกจะช่วยให้เขาและพวกได้ทบทวนความชั่วช้าที่เคยก่อขึ้นอย่างสุดทรมานแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พูดง่ายๆ คือ “ตายคาคุก”
แม้ว่าตัวบ่งการสร้างสถานการณ์เข่นฆ่าประชาชนเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองในปัจจุบันยังไม่ถูกจับ กุมมารับกรรมในวันนี้ แต่สุดท้ายเชื่อได้เลยว่าการที่เขาเหล่านั้นกล่าวอ้างองค์อัลเลาะห์ผู้ประเสริฐ กล่าวอ้างศาสนาซึ่งเป็นสถาบันสูงส่งที่สอนให้ศาสนิกเป็นคนดี และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องมุสลิมอย่างเหนียวแน่น แล้วมากระทำในสิ่งที่ผิดวิถีอิสลามอย่างร้ายแรงด้วยการทำลายชีวิตคนเหมือนผักปลาเช่นทุกวันนี้ ท้ายที่สุดก็คงไม่อาจหนีพ้นบ่วงกรรมที่กระทำไว้ได้อย่างแน่นอน เฉกเช่นเดียวกับชะตากรรมที่หะยีดาโอ๊ะฯ และพวกต้องประสบในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของอัลเลาะห์ที่ลงโทษผู้ที่บังอาจก้าวล่วงให้ต้องรับกรรมด้วยการตกนรกทั้งเป็น
ตกนรกทั้งเป็นชาตินี้ แล้วก็ไม่ต้องฝันว่าจะได้เข้าสวรรค์ในชาติหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น