12/13/2554

ประหาร หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ บทลงโทษจากอัลเลาะห์

ประหาร หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ บทลงโทษจากอัลเลาะห์

           หลังคำตัดสินของศาลฏีกาซึ่งพิพากษาให้ประหารชีวิตนายหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ  หัวหน้ากลุ่มพูโล นายหะยี บือโต เบตง ประธานพูโลใหม่ และนายหะยี สะเมแอ ท่าน้ำ ส่วนนายอับดุล เราะห์มาน บิน อับดุลการเดร์ รองประธานพูโล พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 50 ปี อิสรภาพและความหวังที่จะได้รับการปล่อยตัวโดยหวังความเมตตาจากศาลของพวกเขาก็จบลงทันที 
            ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา  หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ  อดีตหัวหน้ากลุ่มพูโลแกนนำในการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และสมาชิกผู้ที่มีแนวคิดฝักใฝ่ความรุนแรงจำนวนหนึ่ง ได้สมคบกันก่อตั้งองค์กรทางการเมืองชื่อ "องค์การปลดแอกแห่งชาติปัตตานีหรือขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล เพื่อแบ่งแยกดินแดนจังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และสงขลาบางส่วน เพื่อสถาปนาเป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง โดยไม่ขึ้นอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลไทย และยังชักชวนให้สมาชิกนำญาติมิตรเข้าร่วมขบวนการ  จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ  ฝึกการสู้รบแบบกองโจร และก่อวินาศกรรมตามสถานที่ราชการต่างๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด สถานีตำรวจ สถานีรถไฟ โรงแรม เผาอาคารสถานที่สำคัญ  และโรงเรียน  หลังจากก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้านเสร็จก็หนีทางการไทยไปซุกใต้ปีกมาเลเซีย  โดยวนเวียนเปลี่ยนที่อยู่ไปมาเพื่อหลบหนีการจับกุมอยู่แถวรัฐกลันตัน
            หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ  และพวกที่รวมตัวกันเป็นพูโลในสมัยนั้นไม่ต่างอะไรกับโจรห้าร้อยที่บังอาจแอบอ้างองค์อัลเลาะห์ผู้ประเสริฐ  แอบอ้างอุดมการณ์กอบกู้เอกราชปาตานี สร้างอิทธิพลด้วยกระสุนปืนและระเบิด ไล่ฆ่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความกลัว แล้วส่งจดหมายข่มขู่กรรโชกทรัพย์เรียกค่าคุ้มครองจากพ่อค้า นักธุรกิจ  ซึ่งพฤติกรรมเลวทรามทั้งหมดนั้น นอกจากจะได้เงินจากการข่มขู่ไว้เสวยสุขกันในขบวนการแล้วยังได้รับการสนับสนุนทั้งเงินและความช่วยเหลืออื่นๆ อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามที่หลงเชื่อว่าพี่น้องมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยถูกกดขี่ข่มแหง  กลั่นแกล้ง และไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่อยู่ติดกับภาคใต้ของไทย 
          ว่ากันว่าเงินจำนวนนี้มากมายมหาศาลจนหัวหน้าขบวนการสามารถสร้างคฤหาสถ์หลังงามในสวิตเซอร์แลนด์และสวีเดน  เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง  ในขณะที่พี่น้องมุสลิมที่ถูกพวกเขานำไปแอบอ้างส่วนใหญ่ยังยากจนและมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำมาก  และด้วยกระบวนการสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำที่ได้ผลนี่เอง  ที่ทำให้ขบวนการพูโล และขบวนการบีอาร์เอ็นโคออดิเนตซึ่งเป็นอีก หนึ่งองค์กรที่มีอุดมการณ์ไล่ฆ่าคนไม่เลือกหน้าแม้แต่พี่น้องมุสลิมด้วยกันและมีผลประโยชน์ร่วมกันกับพูโล  ยังคงมีความเคลื่อนไหว สร้างผลงานให้องค์กรมุสลิมระดับนานาชาติเห็นโดยการก่อความไม่สงบ  สร้างความแตกแยกของคนสองศาสนาในพื้นที่  และเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไม่เลือกหน้า  โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีต่อไป  เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินจากองค์กรเหล่านั้นยังคงอยู่  ซึ่งนานาประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำในลักษณะนี้ต่างรับรู้วิธีการหาเงินอย่างไร้ยางอายของขบวนการเหล่านี้เป็นอย่างดี  ซึ่งก็น่าแปลกที่ว่าองค์กรมุสลิมที่อุตส่าห์บริจาคเงินสนับสนุนด้วยใจบริสุทธิ์เพราะต้องการช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมด้วยกัน ช่างไม่รู้เลยหรือว่ากำลังถูกขบวนการชั่วเหล่านี้แหกตาอยู่
          การตัดสินให้ประหารชีวิต หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ  และพวก  ซึ่งศาลฏีกาเมตตาลดโทษจากประหารชีวิตให้เหลือจำคุกตลอดชีวิตในครั้งนี้ ตามหลักสังคมถือว่าเป็นการลงโทษตามมูลเหตุแห่งการกระทำผิด  ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาเป็นขั้นเป็นตอน  แต่อย่างไรก็ดีดูว่ายังไม่สาสมกับสิ่งที่ได้ทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายลงเป็นจำนวนมาก  เวลาตลอดชีวิตในคุกจะช่วยให้เขาและพวกได้ทบทวนความชั่วช้าที่เคยก่อขึ้นอย่างสุดทรมานแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  พูดง่ายๆ คือ “ตายคาคุก” 
          แม้ว่าตัวบ่งการสร้างสถานการณ์เข่นฆ่าประชาชนเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองในปัจจุบันยังไม่ถูกจับ กุมมารับกรรมในวันนี้  แต่สุดท้ายเชื่อได้เลยว่าการที่เขาเหล่านั้นกล่าวอ้างองค์อัลเลาะห์ผู้ประเสริฐ  กล่าวอ้างศาสนาซึ่งเป็นสถาบันสูงส่งที่สอนให้ศาสนิกเป็นคนดี   และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องมุสลิมอย่างเหนียวแน่น  แล้วมากระทำในสิ่งที่ผิดวิถีอิสลามอย่างร้ายแรงด้วยการทำลายชีวิตคนเหมือนผักปลาเช่นทุกวันนี้   ท้ายที่สุดก็คงไม่อาจหนีพ้นบ่วงกรรมที่กระทำไว้ได้อย่างแน่นอน  เฉกเช่นเดียวกับชะตากรรมที่หะยีดาโอ๊ะฯ และพวกต้องประสบในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของอัลเลาะห์ที่ลงโทษผู้ที่บังอาจก้าวล่วงให้ต้องรับกรรมด้วยการตกนรกทั้งเป็น
           ตกนรกทั้งเป็นชาตินี้  แล้วก็ไม่ต้องฝันว่าจะได้เข้าสวรรค์ในชาติหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น