จุดเริ่มต้น “ฆาตรกรรมสร้างเรื่อง”
จากกรณี
คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงคนในครอบครัวของนายเจะมุ มะมัน ที่บ้านเลขที่ 143/4 บ้านปะลุกาแปเราะ หมู่ 7
ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขณะกลับจากละหมาดที่สุเหร่าดารุสมูบิน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ
1 กิโลเมตร ขณะกำลังไขกุญแจเข้าบ้าน คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงครอบครัวมะมัน
เป็นเหตุให้ ด.ช.มูยาเฮค มะมัน อายุ 11 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด.ช.บาฮารี มะมัน อายุ 9
ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ
ด.ช.อีลยาส มะมัน อายุ 6 ปี เรียนชั้นอนุบาล 2
โรงเรียนปะลุกาแปเราะ เสียชีวิต ส่วนนายเจะมุ มะมัน อายุ 40
ปี และนางพาดีละห์ แมยู อายุ 33 ปี
ภรรยากำลังท้อง 4 เดือน ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม
16 และปืนสั้น 9
มม. กว่า 40 ปลอก โดยคาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า
4 คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ภายหลังการฆาตกรรมสร้างเรื่องเริ่มได้ก่อตัวขึ้น
ฆาตรกรรมต่อเนื่อง (Serial Murders) ก็ตามมาอย่างกระชั้นชิด เพื่อผูกเรื่องและดึงดูดความสนใจ
ทำให้สมจริงว่าเป็นการแก้แค้น ( คิดเอง
ทำเอง สร้างภาพสถานการณ์เอง )
ภาพความเลวร้าย ... พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเดียวกัน
การเลือกเป้าหมาย : เลือกเป้าหมายอ่อนแอ (Soft Targets) เด็ก ผู้หญิง
ประชาชนทั่วไป แม้กระทั่งพระสงฆ์
ลักษณะการฆ่า : โหดเหี้ยม
ไร้ความปรานี ฆ่า และ เผา ทำลายศพ ไม่ใช่วิสัยนักรบเพื่ออุดมการณ์ แต่เป็นฆาตกรโรคจิต
ใส่ร้ายป้ายสี
สร้างความชอบธรรม : แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่,
เขียนแผ่นป้ายข้อความอ้างความชอบธรรม ว่าเป็นการแก้แค้น
โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ ทั้ง ๆ
ที่กรณีเด็ก 3 ศพ ยังไม่มีใคร
สามารถพิสูจน์ได้ว่า ฆาตรกรตัวจริง คือใคร
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกภาคส่วนออกมาประณาม
“นี่เป็นเพียงแถลงการณ์หนึ่งของการประณาม”
แถลงการณ์ 12 องค์กร:
ประณาม
"การฆ่า" ที่ไร้ความเป็นมนุษย์ของผู้ก่อเหตุจากบาเจาะถึงแม่ลาน
แถลงการณ์ 12
องค์กรเครือข่าย ฉบับพิเศษ/2557
ประณาม “การฆ่า” ที่ไร้ความเป็นมนุษย์ของผู้ก่อเหตุจากบาเจาะถึงแม่ลาน
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ในห้วงตั้งแต่ วันที่ 3-11
กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการกระทำการอันโหดร้ายป่าเถื่อนต่อเด็ก
ผู้หญิง และพระสงฆ์ ผู้น่าสงสารและเปราะบางที่สุด เราสุดทนแล้ว
ในฐานะที่เป็นองค์กรภาคเอกชนและองค์กรประชาชนที่ทำงานพัฒนาในพื้นที่มายาวนาน
และต้องอยู่ในสภาพที่เห็นคนตายเกือบทุกวัน ตลอดสิบปีที่ผ่านมา โดยที่มีความรุนแรง
ความถี่ และโหดร้ายขึ้นทุกวัน ทำได้แม้กระทั่งเด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ ที่ไม่มีทางสู้
จึงขอประณามการก่อเหตุทั้งหมด และขอออกแถลงการณ์ เรียกร้อง ต่อฝ่ายกระทำการที่ป่าเถื่อนโหดเหี้ยม ดังนี้.-
1. ไม่ว่าคุณเป็นใคร ฝ่ายใด คุณโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ สมควรได้รับการประณามจากสังคม
และขอให้กรรมที่คุณก่อไว้ ได้รับการลงโทษ อยู่อย่างทุกข์ทรมาน เหมือนตกนรกทั้งเป็น กรรมติดตัวคุณไปทุกชาติทุกภพ หากคุณยังคงเป็นคนมีศาสนาใดๆ
ขอให้ได้รับโทษทัณฑ์ ตามหลักของศาสนานั้นๆ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ทั้งในขณะเป็นมนุษย์และหลังความตายที่คุณไม่มีทางหนีพ้น
2. หยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์นี้เสีย เพราะมนุษย์ผู้ยังมีหัวใจรักต่อเพื่อนมนุษย์
ในทุกหย่อมหญ้า นับหมื่น นับแสน นับล้าน
จะมีส่วนในการสาปแช่งการกระทำที่เลวร้ายของคุณ
ชาวมุสลิมนราฯ ร่วมละหมาด
ขอสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้ หลังเหตุกราดยิงครอบครัว “มะมัน”
นายมะมัน มะอูเซ็ง เลขาอิหม่าม ฆอเต็บประจำ อ.บาเจาะ กล่าวว่า อาวุธของชาวมุสลิมคือ
การวิงวอนขอจากอัลลอฮ์เท่านั้นไม่มีการใช้อาวุธในการเข่นฆ่ากัน
และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเจ๊ะมุ
ถือเป็นการสูญเสียครั้งที่ยิงใหญ่ของชาวมุสลิมในพื้นที่เพราะเป็นการกระทำที่จงใจให้เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งเปรียบเสมือนผ้าขาว
โดยกระทำการของกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรงไม่สามารถที่จะให้อภัยได้
และเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักศาสนาด้วย
พันธมิตรอธรรม
ในขณะที่ทุกฝ่ายร่วมกันประณาม อีกทั้งร่วมละหมาด ขอสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้ เหตุไฉน “ เพื่อนอันวาร์ ”
กลับมองต่างมุม “ แถม
ยังได้เผยแพร่แถลงการณ์ร้องเรียน องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรสิทธิฯ
ช่วยหามาตรการในการคุ้มครองและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ตกเป็นจำเลยคดีทางการเมืองในพื้นที่
โดยเผยแพร่ผ่านเพจกลุ่ม “เพื่อนอันวาร์ - Save
Anwar” (https://www.facebook.com/saveanwar?fref=ts) และใช้ชื่อลงนามในแถลงการณ์ว่า
"ผู้ต้องขังคดีการเมือง" ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557
( ผ่านกองบรรณาธิการ สำนักสื่อ Wartani )
แถลงการณ์
จากผู้ต้องขังคดีทางการเมืองปาตานี
เรื่อง ร้องเรียนกรณีเหตุการณ์กราดยิงครอบครัวของจำเลยคดีทาง
การเมืองปาตานี เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บ 2 ราย
เรียน องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรต่างประเทศทุกองค์กร
เนื้อหาสาระสามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า
จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงครอบครัวของ
นายเจะมุ มะมัน ซึ่งเป็นจำเลยคดีทางการเมืองในพื้นที่ปาตานี
เคยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางปัตตานี เมื่อปี 2553 เพื่อต่อสู้คดีศาลชั้นต้น
ได้พิพากษายกฟ้อง และนายเจะมุ มะมัน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค
9 ในปี 2554 การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธสงครามจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตต่อจำเลยคดีทางการเมืองปาตานี
ไม่ได้มีเพียงเหตุการณ์นี้เพียงกรณีเดียว
ก่อนหน้านี้มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา อดีตจำเลย
และจำเลยในคดีทางการเมืองปาตานีเสียชีวิตด้วยเหตุดังกล่าวมาแล้วหลายราย
จึงขอเรียกร้องต่อองค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์กรต่างประเทศ
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน กฎหมาย ความยุติธรรม ช่วยคุ้มครองจำเลย
นาย อิสมาอีล
ฮายีแวจิ บรรณาธิการสำนักสื่อ Wartani ได้เปิดพื้นที่สื่อให้กับ พันธมิตรอธรรม ของเขาได้ใช้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะ
กลุ่ม PerMAS และซามูไรรับจ้าง Shintaro ในหลาย
ๆ ครั้งที่ผ่านมา และในครั้งนี้อ้างว่า
“เพื่อนอันวาร์”
หยุด อย่าใส่ร้ายป้ายสี – ด่วนสรุปเอง เพราะ
จนท.3 ฝ่ายลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานคดี
กราดยิงครอบครัว “มะมัน”
ผู้นำศาสนาวอนชาวบ้านเข้าใจ จนท.
ขณะที่ นายเซ็ง ใบหมัด
กรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า
เรื่องที่เกิดขึ้นขอวิงวอนให้ชาวบ้านเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่
เพราะไม่มีอะไรเป็นสิ่งจูงใจว่าเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำ
เนื่องจากไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แถมภาพลักษณ์ยังเสียหาย
เราจะจับกุมคนร้ายมาลงโทษได้ โดยชาวบ้านทุกคนต้องให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแส
เพื่อคนดีๆ จะได้อยู่ร่วมกันในสังคมและสร้างความเจริญให้กับหมู่บ้าน ส่วนคนเลวๆ
จะได้ไม่สามารถแฝงตัวอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป
จาก ฆาตรกรรมสร้างเรื่อง มาสู่
ฆาตรกรรมต่อเนื่อง และ พันธมิตรอธรรม ถ้าสังเกตให้ดี ๆ แล้วจะเห็นได้ว่า มีความพยายามที่จะสร้างเรื่อง สร้างเหตุการณ์
ทั้งการปฏิบัติการรุนแรงด้วยอาวุธสงครามและการกระทำที่อำหิต และสนับสนุนด้วยงานทางด้านการเมือง
โดยเฉพาะการโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกระดมสร้างความแตกแยก ถามว่า
ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นฝีมือใคร
แล้วผลประโยชน์ก้อนโตจากการสร้างภาพยนตร์เรื่องสั้นเรื่องนี้
ใครจะเป็นผู้รับ Wartani –
PerMAS – BRN
“
นักล่า RKK ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น